“จำลอง” ตั้งฉายา “เทพเทือก” รองนายกฯ ฝ่ายความง่อนแง่น พร้อมเมินคำขู่สลายชุมนุม ไล่ไปแก้ปัญหาจะดีกว่า ด้าน “ปานเทพ” จี้ รบ.กำหนดวันจัดการกัมพูชาเอาธงชาติลงมรดกโลก อัด “สุเทพ” โกหก ปชช.ไม่เลิกว่าเป็นธงวัด เชื่อเขมรเอาสัญญา MOU ปี 43 มาอ้างสิทธิ ย้ำไทยไม่มีทางเสียเปรียบกัมพูชาหากถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลก
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้แถลงท่าทีความเคลื่อนไหวประจำวัน โดยนายปานเทพกล่าวว่า ประเด็นภาพที่ปรากฏเป็นธงชาติของกัมพูชาบนซุ้มหน้าประตูวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ โดยได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งกดดันทางการกัมพูชาให้มีการปลดธงดังกล่าวลง พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกำหนดวันและเวลาที่แน่ชัดสำหรับการดำเนินการดังกล่าวโดยเร็วด้วย เพราะในตอนนี้ทางรัฐบาลอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยต่อสาธารณชนแบบขัดแย้งกันเอง เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ออกมาระบุว่า กำลังเร่งดำเนินการให้ทางกัมพูชาปลดธงชาติลงจากบริเวณดังกล่าว แต่นายสุเทพกลับออกมาโกหกประชาชนว่าเป็นเพียงธงที่ใช้จัดงานวัดเท่านั้น ทั้งๆ ที่ทางกัมพูชากลับออกมาระบุว่าธงชาติดังกล่าวงเป็นของกัมพูชา เพราะพื้นที่บริเวณนั้นเป็นของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการแสดงอำนาจในพื้นที่นั้นอย่างเต็มที่ เพราะทางกัมพูชาถือเอาสัญญา MOU ปี 43 มาอ้างสิทธิ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสัญญาดังกล่าวทำให้ประเทศไทยกำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
นายปานเทพกล่าวต่อว่า ทางประเทศไทยสามารถดำเนินการจัดการเรื่องนี้ได้ทันที โดยการประกาศว่าพร้อมที่จะใช้กำลังทารทหารในการปะทะ ซึ่งจะทำให้เป็นการจัดการมรดกโลกยุติลงทันที แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย ส่วนกรณีของนายสุเทพที่กำลังให้ความเท็จต่อสาธารณชนนั้น ตนคิดว่าคนในระดับนี้น่าจะมีความรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง และการที่ออกมาข่มขู่พันธมิตรฯ อยู่ตลอดเวลานั้น ตนอยากจะบอกนายสุเทพว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการดำเนินการตามกฎหมานรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ที่สามารถมีสิทธิชุมนุมได้ตามระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่มีสิทธิที่จะออกมาช่มขู่พันธมิตรฯ ทั้งนี้ หากรัฐบาลกำลังพยายามที่จะหาทางสลายการชุมนุมของกุล่มพันธมิตรฯ ตนคิดว่ารัฐบาลน่าจะเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาดินแดนกับทางกัมพูชาน่าจะมีประโยชน์กว่า
นายปานเทพยังกล่าวต่อว่า แสนยานุภาพทางการทหารของประเทศไทยนั้นดีกว่าทางกัมพูชาแน่นอน เพราะแสนยานุภาพทางการทหารของประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 28 ของโลก และอยู่ลำดับที่ 2 ของอาเซียน ซึ่งทางกัมพูชาไม่อยู่ในสารระบบที่จะเทียบกับไทยได้ ดังนั้น แสนยานุภาพทางการทหารสามารถใช้ได้ โดยไม่ต้องมีการรบจริง รวมทั้งการผลักดันไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทางสงครามเสมอไป และในความเป็นจริงแล้วการที่รัฐบาลกลัวที่เกิดสงครามนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะประเทศไทยไม่ได้ไปรุกรานดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเราก็มีหลักฐานมามากแล้ว ดังนั้น การเกิดสงครามไม่สามารถเป็นไปได้แน่นอน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรียังกังวลว่าหากประเทศไทยถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลกจะทำให้กัมพูชาได้เปรียบนั้น นายอภิสิทธิ์กำลังเข้าใจผิด เพราะการที่ไทยยังอยู่ในที่ประชุมของมรดกโลกทำให้ไทยต้องรับฟังเสียงจากประเทศส่วนใหญ่ และทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบอยู่ในขณะนี้ต่างหาก
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า หากรัฐบาลทำการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันนี้ พรุ่งนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะกลับมาใหม่ เพราะฉะนั้นตนติดว่ารัฐบาลอย่ามาเสียเวลาจะดีกว่า เพราะรัฐบาลไม่สามารถทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน เพราะแผ่นดินนี้คือของคนไทย ไม่ใช่ของกัมพูชา ซึ่งการกระทำของนายสุเทพตนคิดว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความง่อนแง่นมากกว่า ซึ่งข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ทำเพื่อปกป้องแผนดินของประเทศไทย เมื่อเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูก ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องประเทศชาติแต่ทำไม่ได้ การชุมนุมจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการกดดันการทำงานของรัฐบาล
ทั้งนี้ หากนายอภิสิทธิ์ทำตามข้อเรียกร้องได้เมื่อใด พวกตนก็พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านทันที แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ยังไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของพวกตน กลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะปักหลักอยู่ที่นี่ต่อไป อีกทั้งพวกตนยังมีความเป็นมืออาชีพที่หากตัดสินใจเข้าทำเนียบเมื่อใด นายกรัฐมนตรีก็จะอยู่ไม่ได้เมื่อนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่อยากที่จะข่มขู่รัฐบาล แต่รัฐบาลข่มขู่พวกเรามาโดยตลอด
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ มาจากการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียดินแดนไปมากกว่านี้ คนที่เป็นนายกฯ มีหน้าที่แก้ไขปัญหา แต่หากไม่ต้องการแก้ก็ให้ออกไปทำอย่างอื่นแทน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเมื่อใดนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า คงจะต้องพิจารณาไปในแต่ละวันว่ามีความคืบหน้าอย่างใด ซึ่งคงยังไม่สามารถกำหนดได้ในตอนนี้
ส่วนบรรยากาศการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในช่วงเช้ากลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ปฏิบัติภารกิจส่วนตัวภายหลังจากตื่นนอน บางส่วนได้รับประทานอาหารเช้า ไปพร้อมกับรับฟังการเล่าข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์บนเวทีปราศรัย