xs
xsm
sm
md
lg

กต.เล็งขอประกัน “วีระ-ราตรี” โยนรัฐคุยเขมร ย้ำคำพิพากษาไม่มีผลเขตแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (แฟ้มภาพ)
เลขาฯ “กษิต” รอดูท่าที “วีระ-ราตรี” โวมีเวลาอุทธรณ์ โยนเจ้าตัวเตรียมเอกสารสู้ เล็งขอประกันต่อ ยันช่วยเต็มที่ ขอดูคำพิพากษาก่อน ให้รัฐคุยเขมรหาทางช่วย เชื่ออีกสักพักคงมีทางออก ยึด 3 แนวทาง แย้มแถลงโต้เพื่อนบ้าน ชี้ ขออภัยโทษทำเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หวังศาลจะรับฟังเหตุผล ย้ำ คำพิพากษาไม่มีผลเขตแดน

วันนี้ (2 ก.พ.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางระหว่างประเทศในการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด แกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ หลังถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก 8 ปี และ 6 ปี ไม่รอลงอาญา ว่า ต้องรอดูการตัดสินใจของนายวีระ และ น.ส.ราตรี ว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องของการอุทธรณ์คดีนั้น มีเวลาแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของเอกสารหลักฐานต่างๆ ขึ้นอยู่กับนายวีระ และ น.ส.ราตรี ในการต่อสู้ แต่ช่วงการรออุทธรณ์นี้ คิดว่า การประกันตัวน่าจะเป็นแนวทางในการที่จะดำเนินการก่อน ยืนยันรัฐบาลยังเดินหน้าให้การช่วยเหลือทั้งสองคนอย่างเต็มที่ทั้งในส่วนการประกันตัวและการต่อสู้คดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงวิจารณ์มีค่อนข้างมาก ว่า คำตัดสินรุนแรงเกินไปหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า คงต้องนำเนื้อหา และรายละเอียดของคำตัดสินมาดูกันอีกครั้ง เมื่อขอรับคำพิพากษามาจะแปลเป็นภาษาไทยอีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจที่มาที่ไปของคำพิพากษาว่าเป็นอย่างไรและโทษนี้มีที่มาที่ไปเกี่ยวเนื่องกับข้อหาใดบ้าง เมื่อถามว่า ข้อหารุนแรงการขออุทธรณ์ และยื่นการประกันตัวคิดว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน นายชวนนท์ กล่าวว่า ตามระเบียบศาลชั้นต้นจะใช้เวลา 5 วันในการพิจารณา ทั้งนี้ ไม่ว่าข้อหาจะเป็นอย่างไร และโทษจะหนักอย่างไร เราคงต้องขอยื่นประกันตัว และคงต้องทำความเข้าใจกับศาลว่าเงื่อนไขต่างๆ ในการไม่ออกนอกประเทศ และการวางเงินประกันเราสามารถทำได้อยู่แล้ว ฉะนั้น ต้องขอให้ศาลพิจารณาการประกันตัวดังกล่าวด้วย

เมื่อถามว่า ข้อหาหนักจะสู้คดีอย่างไร นายชวนนท์ กล่าวว่า ต้องสู้กันที่ข้อเท็จจริง และในส่วนของรัฐบาลคงต้องพูดคุยกับทางการของกัมพูชา ว่า มีช่องทางอื่นหรือไม่ในการที่จะช่วยเหลือทั้งสองคน ทั้งนี้ แม้ว่ากระบวนการยังอยู่ในชั้นศาล เราก็เห็นว่าถ้าคำนึงถึงความสัมพันธ์แล้วรัฐบาลกัมพูชาน่าจะมีทิศทาง หรือแนวทางในการที่จะช่วยเหลือสองคนไทยให้มีผลได้มากกว่านี้ เมื่อถามว่า กลไกในส่วนของฝ่ายบริหารเริ่มต้นใช้บ้างหรือยัง นายชวนนท์ กล่าวว่า การพูดคุยในระดับฝ่ายบริหารมีการพูดคุยกันมาโดยตลอดทั้งในระดับฝ่ายบริหาร และในระดับพื้นที่ มีการเจรจาทำความเข้าใจมาโดยตลอด เชื่อว่ารอดูอีกสักระยะน่าจะมีทางออกสำหรับสองคนไทย

เมื่อถามว่า ยังเชื่อในทิศทางที่กระทรวงการต่างประเทศ วางแนวทางการช่วยเหลือไว้ตั้งแต่ต้นถูกต้องแล้ว นายชวนนท์ กล่าวว่า เราพยายามยึดหลัก คือ ประเด็นที่ 1.ทำอย่างไรให้ 7 คนไทยกลับมาประเทศไทยให้เร็วที่สุด 2.สิทธิและอธิปไตยต้องไม่ถูกกระทบกระเทือน และ 3.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะต้องไม่ถูกกระทบกระเทือนเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยึดหลักใน 3 ประเด็นนี้

เมื่อถามว่า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา มีปัญหาซ้อนกันหลายปัญหา และการเคลื่อนไหวภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อสองคนไทยนี้อย่างไรหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า คิดว่า ถ้าแรงเสียดทาน หรือปัจจัยภายนอกเข้ามาน้อย แน่นอนการเจรจาต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ เป็นสิทธิของพี่น้องประชาชนในการที่จะแสดงออก หากมองย้อนกลับไปรัฐบาลก็ดำเนินการทุกอย่างโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทยทั้ง 7 คนอยู่แล้ว ฉะนั้น หากให้เวลาสักนิดและอดทนรอให้รัฐบาลได้เจรจาดำเนินการ ยืนยันการช่วยเหลือคนไทยทั้งสองคนต้องเดินหน้า ส่วนเรื่องการรักษาสิทธิและอธิปไตยก็ต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหาที่พระวิหารก็มีกลไกที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ฝ่ายเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปฏิบัติ เจรจากันอยู่

เมื่อถามว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นเงื่อนไขรัฐบาลต้องทำให้สองคนไทยได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข นายชวนนท์ กล่าวว่า รัฐบาลอยากทำทุกอย่างให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ เราเองก็ยื่นเงื่อนไขกับตัวเองมาตลอดว่าทำอย่างไรให้กัมพูชาปล่อย ตัว 7 คนไทยได้เร็วที่สุด ฉะนั้น ไม่ต้องห่วงไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หรือเงื่อนไขอะไรรัฐบาลก็ดำเนินการเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อถามว่า จะส่งผลให้การชุมนุมแรงขึ้นหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจว่า เราได้พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่และเรื่องสิทธิอธิปไตยที่มีความเป็นห่วงกันอยู่ เราก็ยืนยันไปแล้วโดยมีจดหมาย เอกสารทำความเข้าใจกับทางกัมพูชาไปแล้ว เรื่องนี้ต้องไม่กระทบสิทธิ ขณะเดียวกันกระบวนการเจบีซียังเดินหน้าต่อไป ขอให้รอกันสักนิด ฟังๆ กันสักหน่อย

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีการพูดถึงขั้นเผาสถานทูตกัมพูชาในไทย แต่ทางกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติบอกว่า ถ้ามีการเผาอะไรเกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับพวก เขา นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นใครที่คิดอย่างนั้น ขอความกรุณาให้ทบทวน การดำเนินการอย่างนั้นไม่มีประโยชน์และไม่ช่วยให้สถานการณ์ตรงไหนดีขึ้น การดำเนินการอย่างนั้นมีแต่จะทำร้ายประเทศไทยกันเอง ทำร้ายความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และทำร้ายผู้อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคงดูแลอย่างเต็มที่ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อถามว่า จะมีการออกแถลงการณ์ตอบโต้กัมพูชาอีกรอบหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ ได้ดูเนื้อหาและถ้อยความอยู่และต้องดูว่าจะออกอย่างไร ทั้งนี้เห็นว่าการโต้ตอบรายวันอาจไม่จำเป็น แต่การรักษาสิทธิ การรักษาแนวทาง จุดยืนในการแก้ไขปัญหานั้นสำคัญกว่า

เมื่อถามว่า มีการทำความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพหรือไม่ ทำไมจึงมีการออกมาให้สัมภาษณ์ไม่สอดคล้องกับการสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ไป นายชวนนท์ กล่าวว่า เราเข้าใจกันโดยตลอด แต่ทุกอย่างต้องมองลึก เพราะกระบวนการปฏิบัติงานอาจมองกันคนละส่วน แก้ปัญหากันคนละประเด็น เมื่อถามว่า กระบวนการขออภัยโทษสามารถดำเนินการได้หรือยัง นายชวนนท์ กล่าวว่า ตอนนี้นายวีระ ยังไม่ยอมรับคำตัดสิน การอภัยโทษถ้าจะเป็นไปได้ต้องเป็นกระบวนการที่คำพิพากษาถึงที่สุดแล้วเท่านั้น

เมื่อถามว่า ท่าทีที่แข็งกร้าวของนายวีระ จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ถ้าศาลพิจารณาตรงไปตรงมา มันไม่ควรคำนึงท่าทีของผู้ถูกกล่าวหา ฉะนั้น การเจรจาจะเดินหน้าต่อไปและหวังว่าศาลกัมพูชาจะรับฟังเหตุผล เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับนายวีระก่อนที่จะมีการอุทธรณ์หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายวีระ ที่จะตัดสินใจ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนตามแนวทางนั้นอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า การให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลไทยนั้น ขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือของนายวีระ และ น.ส.ราตรี ด้วยใช่หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า บรรยากาศดี การเจรจาก็จะง่าย ทั้งนี้ยืนยันคำพิพากษาดังกล่าวไม่มีผลต่อเขตแดนไทยกัมพูชาที่มีปัญหาอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น