xs
xsm
sm
md
lg

ข้อเสนอพันธมิตรฯ หรือท่าทีคนในรัฐบาลกันแน่ที่ “อันตราย” ต่อชาติ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดการชุมนุมของภาคประชาชนในนามกลุ่ม “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” และแนวร่วมคนไทยรักชาติ ได้เริ่มขึ้นตามกำหนดเมื่อวันอังคารที่ 25 มกราคม ท่ามกลางความสนใจของหลายฝ่ายว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาในบ้านเมืองหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการจับตากันอย่างใกล้ชิดต่อไป

อย่างไรก็ดีการออกมาแสดงพลังครั้งนี้เป้าหมายเพื่อแสดงความห่วงใยต่อการ “สูญเสียอธิปไตย” หรือ “ศักดิ์ศรี” ของชาติถูกทำลาย ซึ่งสาเหตุของการออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวมาจากคนในรัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นแหละ

แต่ก่อนอื่นต้องทบทวนข้อเสนอ 3 ข้อของกลุ่มพันธมิตรฯ ดังนี้ 1.ให้ยกเลิกบันทึกข้อตกลงปักปันและสำรวจเขตแดนทางบกร่วมไทย-กัมพูชาปี 2543 (เอ็มโอยู 43) 2.ให้ถอนตัวจากกรรมการมรดกโลก และ 3.ให้ผลักดันชาวกัมพูชาพ้นไปจากอธิปไตยของไทย

ถามว่าข้อเสนอทั้ง 3 ข้อของกลุ่มพันธมิตรฯดังกล่าวเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมืองตรงไหน ตรงกันข้ามหากจะว่าไปแล้วอันตรายที่ว่าน่าจะเกิดขึ้นกับ “คนขายชาติ” มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับฝ่ายกัมพูชาบางคนมากกว่า จนต้องมีท่าที “เกรงใจ” จนผิดปกติมากกว่ากัน
 

ถามว่ากรณีเอ็มโอยู 43 เป็นการ “ดื้อตาใส” ของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการกลบเกลื่อนความผิดและความผิดพลาดของตัวเองกรณีที่ทำเอาไว้ กรณีไปยอมรับแผนที่ของฝ่ายกัมพูชาที่ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ทำให้ไทยต้องเสียเปรียบ สูญเสียอธิปไตยตามแนวชายแดนทั้งทางบกต่อเนื่องลงไปในทะเลในอนาคตอีกนับล้านไร่ หลังจากที่ผ่านมาได้เริ่มเสียเปรียบและถูกอ้างสิทธิ์โดยฝ่ายกัมพูชามาตลอด

กรณีกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว และมีความคืบหน้าในเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบ ซึ่งองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กำลังจะมีการประชุมชี้ขาดในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะเดียวกันที่ผ่านมามีการตั้งตัวแทนจาก 7ชาติสมาชิกเป็นคณะกรรมการบริหารพื้นที่ จนเป็นที่สงสัยว่ามี “ผลประโยชน์” แอบแฝง การที่เรียกร้องให้ไทยถอนตัวจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อแสดงการประท้วงการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรมและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียอธิปไตยและสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติให้กับประเทศมหาอำนาจในอนาคต

หรือข้อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยผลักดันทหารกัมพูชา และชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามา ทั้งในรูปแบบของการเข้ามาตั้งถิ่นฐานกึ่งถาวรและถาวร ออกมาอย่างแข็งขัน และโดยเร็วที่สุด ข้อเรียกร้องดังกล่าวมาทั้งหมดนี้มันเป็นอันตรายต่อชาติตรงไหน ตรงกันข้าม นี่คือการทวงคืนศักดิ์ศรีของชาติที่ถูกกระทำย่ำยีโดยรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่เคยคำนึงถึงความสัมพันธ์กับไทยเลยแม้แต่น้อย

หรือเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับท่าทีของรัฐบาลและคนในรัฐบาลที่มีท่าทีเป็นมิตร เกรงอกเกรงใจ “ฮุนเซน” ผู้นำทรราชของกัมพูชา อย่างผิดสังเกต โดยยอมแม้กระทั่งละเลยศักดิ์ศรีของชาติ ยอมแม้กระทั่งการยกดินแดนให้กับต่างชาติโดยพลการ พร้อมทั้งยัดเยียดความผิดให้คนไทยเพื่อนร่วมชาติจนต้องไปตกระกำไปติดคุกในกัมพูชา เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันทั้งสองฝ่ายแล้วฝ่ายไหนถือว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองมากกว่ากัน

การออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ภาคประชาชนอย่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลที่นำโดยนายกฯ อภิสิทธิ์ยกเลิก 3 ข้อเรียกร้องดังกล่าวข้างต้น ของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ระบุว่า เป็นข้อเสนอที่อันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในที่นี้ย่อมหมายถึงกัมพูชา รวมไปถึงฮุนเซน ผู้นำของกัมพูชา ถือว่าเป็นท่าทีที่สมควรตำหนิอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเป็นการบิดเบือนอย่างร้ายกาจแล้ว ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากบทบาทที่ผ่านมาย้อนหลังแล้วถือว่าคนผู้นี้มีส่วนอย่างสำคัญในการย่ำยีหัวใจของคนไทย ยอมอ่อนข้อให้กับต่างชาติ จนทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียอธิปไตย

คำพูดของ รองนายกฯ สุเทพ ที่เคยระบุว่า 7 คนไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาลึกเข้าไปถึง 1.2 กิโลเมตร พร้อมทั้งให้ยอมรับคำตัดสินของศาลกัมพูชา ซึ่งคำพูดของเขาออกมาในทำนองเดียวกับผู้นำคนสำคัญอื่นๆ ในรัฐบาล ไม่เว้นแม้แต่นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ท่าทีที่เกิดขึ้นล้วนตรงข้ามกับความรู้สึกของคนไทยที่เห็นว่าคนพวกนี้ไม่ได้รักษาศักดิ์ศรีของคนไทยและประเทศชาติ แสดงความอ่อนแออ่อนข้อให้ต่างชาติอยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำพฤติกรรมที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เกิดเป็นข้อสงสัยตามมาอีกว่าพวกมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ ในลักษณะเข้าไป “สวมแทน” ผลประโยชน์ในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยไปตกลงกันไว้ ใช่หรือไม่

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากท่าทีและคำพูดของคนในรัฐบาลดังกล่าวเปรียบเทียบกับ ข้อเรียกร้อง 3 ข้อของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและคนไทยรักชาติทั้งปวงที่ออกมาในครั้งนี้ อย่างไหนถือว่ามีอันตรายต่อบ้านเมืองมากกว่ากัน เพราะถ้าให้สรุปนาทีนี้รับรองว่า คนในรัฐบาลชุดนี้ไม่น่าไว้วางใจ และไม่รักษาอธิปไตย ศักดิ์ศรีของคนไทยอย่างแน่นอน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น