xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” จวก รบ.ยกเรื่องสงครามกลบเกลื่อน เลี่ยงปกป้องแผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์
“ปานเทพ” ยันไทยมีแสนยานุภาพเหนือกว่ากัมพูชามากมายไม่เกิดสงครามแน่นอน จี้ รบ.ใช้ให้เป็นกดดันเขมรทำ MOU ฉบับใหม่ที่เป็นธรรม พร้อมถามถ้าไม่ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ จะสามารถนำที่ดินมาคืนได้อย่างไร


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์”  

วันที่ 25 ม.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า คนในรัฐบาลมักจะใช้คำว่าสงครามทำให้ประชาชนหวาดกลัวในการปกป้องอธิปไตย ซึ่งเป็นหน้าที่ของทหารและรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ โดยต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีแสนยานุภาพเหนือกว่ากัมพูชามากมาย เพียงลำพังเท่านี้ก็ไม่มีการรบเกิดขึ้นแล้วในทางปฏิบัติ เราจึงขอให้รัฐบาลใช้แสนยานุภาพทางทหารไปเจรจาต่อรอง เพื่อไม่ให้ไทยต้องเสียเปรียบอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

“วันนี้เราสูญเสียอธิปไตยไปแล้วในหลายพื้นที่ที่คนไทยเข้าไปไม่ได้ เข้าไปทำกินก็ไม่ได้ แถมยังมีธงชาติและทหารกัมพูชายึดครองอยู่ ยังมีการใช้อำนาจเหนือดินแดนไทยเหมือนเป็นพื้นที่ของกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวอีกด้วย” นายปานเทพกล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลพยายามเบี่ยงเบนประเด็นในการไม่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ จึงหยิบยกเรื่องสงครามมากลบเกลื่อนให้ประชาชนหวาดกลัว ทั้งที่อำนาจต่อรองแสนยานุภาพทางการทหารสามารถนำไปสู่การเจรจาให้กัมพูชาถอยออกจากพื้นที่รุกล้ำประเทศไทยอยู่หรือนำไปสู่ข้อตกลงหรือ MOU ฉบับใหม่ที่เป็นธรรม โดยไม่ต้องรบกัน สามารถทำได้ แต่เมื่อมี MOU 2543 กลายเป็นพันธนาการทางการทหาร เหมือนมัดแสนยานุภาพทางการทหารของไทยให้หมดสิ้นไป กัมพูชาถึงได้เหิมเกริมในการรุกล้ำยึดครองและแสดงอธิปไตยเหนือดินแดนไทยอย่างต่อเนื่องบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

นายปานเทพกล่าวอีกว่า นายกฯอภิสิทธิ์รับปากกับชาวบ้านหนองจานที่ไปร้องเรียนว่าถูกรุกล้ำที่ดินทำกิน ไม่สามารถเข้าไปทำกินได้ ว่าจะช่วยนำที่ดินมาคืน แต่หากไม่ทำการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ จะสามารถนำที่ดินมาคืนได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้ทางกัมพูชาก็อาศัย MOU 2543 ในข้อ 5 เป็นข้ออ้างว่า พื้นที่ใดที่มีการยึดครองอยู่แล้วห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจนกว่าการเจรจาจะแล้วเสร็จ ซึ่งกัมพูชาก็ทำทุกวิถีทางไม่ให้การเจรจาแล้วเสร็จเพื่อให้สามารถยึดครองไปอย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา ดังนั้น ที่ดินของชาวบ้านจึงไม่มีโอกาสได้คืนมาเลย ซ้ำร้ายกว่านั้นจะขยายตัวชุมชนเพิ่มมากขึ้นจนประเทศไทยไม่สามารถผลักดันได้ ทั้งที่สามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งในอดีตเคยเกิดขึ้นมาเมื่อปี 48 ที่บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งทหารไทยมีการประกาศว่าจะดำเนินการปะทะ เพราะเห็นว่ากัมพูชามีการสร้างถนนเกินขอบเขต เพียงแต่ประกาศจะรบและปะทะทำให้กัมพูชาถอนชุมนุมออกภายในครึ่งวัน แสดงว่าแสนยานุภาพของไทยมีมากกว่า ไม่ต้องมีการปะทะจริงก็ถืออำนาจการต่อรองที่มากแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น