"ปานเทพ" จับผิดคลิปตัดต่อ เขมรยัดเยียดคนไทยล้ำแดน

"ปานเทพ" เผยคลิป 20 นาที เขมรตัดต่อวกไปวนมาจูงใจให้คนเข้าใจว่าคนไทยรุกล้ำเขตแดนเขมรจริง ซัดกรมแผนที่ทหารมั่วบอกล้ำแดนทั้งที่ยังเดินสำรวจไม่ถึง ด้าน "เทพมนตรี" อัด "ศิริโชค" พูดชุ่ยๆ อาจลามเสีย สด๊กก๊กธม อีก พร้อมแนะนำให้ไปหาหนังสือ THE CLAY MARBLE อ่าน แล้วจะรู้ว่าบ้านหนองจานอยู่ตรงไหน


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"  

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน วันที่ 19 ม.ค.2554 เวลา 20.30-22.00 น.โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้รับเกียรติจาก นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมวิเคราะห์ว่า หมู่บ้านหนองจาน แท้จริงแล้วอยู่ในประเทศไทยหรือกัมพูชา

นายเทพมนตรี กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่ นายศิริโชค นำภาพจาก UNBRO มาแสดงว่า บ้านหนองจานอยู่ในประเทศกัมพูชา ว่า ถ้าบ้านหนองจานอยู่ฝั่งเขมรต้องเป็นชื่อของเขมร แต่ปรากฎว่าในผังเดียวกันนี้มีชื่อ หนองเสม็ด หมากมุ่น น้ำยืน ดังนั้นหากยึดถือตามตรรกะที่นายศิริโชคใช้ แสดงว่า หนองเสม็ด หมากมุ่น ก็ต้องเป็นของกัมพูชาด้วยอย่างนั้นหรือ หากรัฐบาลยังปล่อยให้นายศิริโชค พูดชุ่ยๆอยู่อย่างนี้ ในที่สุดเราจะเสียปราสาท สด๊กก๊กธม หากนายศิริโชค อยากรู้เขตแดนจริงๆ กล้าหรือไม่ที่จะเอาบันทึกด้วยวาจาเมื่อ 90 กว่าปีที่แล้ว ออกมาจากกองกำลังสุรนารี กับกองกำลังบูรพา จากช่องสะงำ มาจนถึงหลักที่ 51 แล้วเราจะได้รู้หลักเขตแดนอยู่ตรงไหน

นายปานเทพ กล่าวว่า ตนใจกว่างพอที่จะรับฝังข้อเท็จจริงที่ นายศิริโชค นำมาถกเถียง แต่อย่าลืมว่ากรณีนี้มีชีวิตคนที่หวงแหนแผ่นดินเป็นเดิมพัน เราควรเสนอแนวคิดให้เป็นคุณกับ 7 คนไทย ได้ออกจากคุกโดยไม่มีมลทินติดตัว ที่นายศิริโชค เสนอว่าค่ายหนองจานอยู่ในฝั่งกัมพูชา เกิดประโยชน์กับคนไทยตรงไหน เราต้องตั้งคำถามว่าทำไมค่ายอพยพ บางพื้นที่ล้อมรั้วขณะที่บางพื้นที่ไม่ล้อมรั้ว ถ้าพื้นที่ไหนเป็นของประเทศไทยต้องล้อมรั้ว สาเหตุที่ต้องล้อมเพราะป้องกันไม่ให้เขารุกล้ำเข้ามามากกว่านี้ ทั้งนี้หลังจากนายศิริโชค ออกมาโต้แย้งเช่นนี้ ทำให้มีพยาน จากฝ่ายความมั่นคง กาชาติ ทหาร รวมถึงประชาชนในพื้นที่ มาให้ข้อมูลยืนยันว่าพื้นที่นั้นคือประเทศไทย

การที่จะพิสูจน์ว่าสระน้ำที่ยูเอ็นขุดอยู่ในเขตใคร และคนไทยล้ำแดนเขมรหรือไม่ กรณีนี้จากคำพูดของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศที่ดิน ส.ค.1 อยู่ในเขตไทย เมื่อชาวบ้านอ้างว่าสระน้ำที่ยูเอ็นขุดอยู่ในพื้นที่ของเขา ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 ประกอบกับที่ดินของนายบุญจันทร์ อยู่ติดสระน้ำโดยทิศใต้ของที่ดินอยู่ติดกับเส้นเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อลากเส้นถึงเขตจากมุมที่ดินชาวบ้านถึงหลักที่ 46 จะได้เส้นดั้งเดิมตามที่ชาวบ้านอ้างสิทธิ์ ซึ่งแนวเส้นนี้จะต่างจากแผนที่ L7018 โดยกินเข้าไปในพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นของเขา จึงสรุปได้ว่าสระน้ำที่ยูเอ็นขุดอยู่ในเขตไทยแน่นอน หากจะดูจุดที่จับคนไทยว่าล้ำแดนหรือไม่นั้น ปัญหาก็คือยังไม่มีการกำหนดว่าเส้นเขตแดนแท้จริงแล้วยึดถือจุดไหน ไทยได้สิทธิครอบครองที่ดิน เมื่อพ.ศ. 2498 ก่อนการอพยพของเขมร แน่นอนว่าไม่มีแรงจูงใจในการเคลื่อนย้ายหลักเขตแดน เส้นเขตแดนต้องต่างจากแผนที่ L7078 แสดงว่าพื้นที่นี้เป็นของไทย ดังนั้นจะด่วนสรุปหรือยอมรับให้คนไทยถูกศาลกัมพูชาพิพากษาไม่ได้ และรัฐบาลก็ไม่ควรหลอกชาวบ้านอีกต่อไป ว่าข้อสงวนในเอ็มโอยู 43 กำหนดให้ห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพใดๆ หากยังตกลงปักปันเขตแดนไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริง กัมพูชา ก็ไม่ต้องการให้ตกลงกันได้อยู่แล้ว เพราะจะได้ใช้สิทธิ์ข้อสงวนในเอ็มโอยู อาศัยอยู่ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

นายเทพมนตรี กล่าวว่าคลิปสุดท้ายที่ออกมาเผยแพร่ ภาพที่เราเห็นเป็นตอนที่กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติคุยกับทหารเขมร จากนั้นก็มีทหารเขมรขีรถมอไซค์ไป แท้จริงแล้วยังมีคลิปต่อจากนี้อีก มีการถ่ายต่อเนื่องว่าไปถ่ายที่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง แสดงว่าตอนนั้นเขายังไม่ได้ถูกจับ แต่สำนักข่าวเขมรให้ภาพว่าคนไทยถูกจับแล้ว ซึ่งความเป็นจริงกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติอาจถูกจับที่หนึ่ง แล้วนำตัวไปค่ายทหาร

นายปานเทพ วิเคราะห์คลิปที่นำมาเผยแพร่ความยาว 20 นาที ว่า มีการตัดต่อหลายช่วงวกไปวนมา โดยช่วงแรกถลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติเดินลัดเลาะไปตามคันนา แล้วเลี้ยวซ้ายเดินตามถนนมุงหน้าสู่หมู่บ้าน จากนั้นมีการตัดต่อให้ดูเหมือนเดินเข้าไปลึกกว่าหมู่บ้านที่จะไป เมื่อดูต่อไปในคลิป นายวีระพูดว่า "เดี๋ยวเราจะถามชาวบ้าน ชาวบ้านเขารู้ตัวดีว่าเป็นชาวเขมรหรือชาวไทย" เมื่อเป็นดังนี้ภาพต่อไปที่ควรจะเป็น คือ ภาพไปสัมภาษณ์ชาวบ้าน แต่ดันตัดต่อให้ไปเดินอยู่ในป่า เพื่อจงใจทำให้คนเข้าใจผิด ว่า คนไทยเดินรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา


ในการนี้นายปานเทพ ได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทำไมกรมแผนที่ทหาร ถึงรู้ได้ว่า จุดที่คนไทยถูกจับรุกล้ำดินแดนเขมร 55 เมตร ในเมื่อคณะที่ไปสำรวจไม่มีใครเดินไปถึงพื้นที่จริงเลย ตรงนี้นายปานเทพ ได้กำหนดจุดโดยแบ่งช่วงเหตุการณ์เป็นจุดๆ ตั้งแต่ 1-6 ชี้ให้ดูช่วงเริ่มต้นในคลิปเป็นจุดที่ 3 เดินไปจนถึงจุดที่ 5 แล้วเอาช่วงที่ 1 กับช่วงที่ 2 มารวมกันเป็นช่วงที่ 6 จากนั้นคำนวณเวลาจากคลิป โดยประเมินว่าช่วงเวลาเท่าไรในพื้นที่เช่นนี้ คนจะเดินได้ไกลแค่ไหน แล้วเอามามาร์คจุดสรุปว่าคนไทยรุกล้ำ 55 เมตร อย่างไรก็ดีตนให้ประเด็นวิเคราะห์อีกข้อหนึ่ง ถ้าหากกัมพูชามั่นใจว่าคนไทยเดินรุกล้ำเข้าไปจริง เขาไม่จำเป็นต้องตัดต่อคลิปเช่นนี้

นายเทพมนตรี กล่าวเสริมว่าตนอยากเตือนกรมแผนที่ทหาร ว่า หลักเขตที่ 23-51 เรายังมีปัญหากันอยู่ คณะปักปันเขตแดนร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา(เจบีซี)ยังไม่รู้เลยว่าหลักแท้จริงควรอยู่จุดไหน การที่ท่านไปรู้ว่าคนไทยถูกจับห่างจากเส้นเขตแดน 55 เมตร ตกลงคำพูดของท่านเป็นข้อสรุปของเจบีซีในอนาคตใช่หรือไม่ ในเมื่อสำนักงานที่ดินออก ส.ค.1 เมื่อ พ.ศ. 2498 จากปากคำชาวบ้านเขายืนยันตอนตั้งค่ายใหม่ๆหลักเขตยังอยู่ที่เดิม แต่มีการเคลื่อนย้ายอยู่เรื่อย อย่างไรก็ดี หากนายศิริโชคอยากรู้ว่า บ้านหนองจานอยู่ที่ไหน ให้ไปหาหนังสือ THE CLAY MARBLE อ่าน การกระทำของนายศิริโชคกำลังยก สด๊กก๊กธม ให้เขมร

นายปานเทพ กล่าวทิ้งท้ายว่า มีขนวนการทำลายความน่าเชื่อถือของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้วยการหยิบประเด็น ว่าเสื้อเหลืองรวมกับเสื้อแดง ตรงนี้เป็นการสร้างภาพทางมายาคติ ทำให้คนที่มีความเชื่อมีความหวาดกลัวต่อการร่วมชุมนุม เพื่อต้องการไม่ให้เข้าร่วมชุมนุม ที่จริงไม่ควรแบ่งแยก เรื่องการรักษาอธิปไตยเป็นเรื่องของคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หรือเป็นเรื่องใครเกลียดใครชอบรัฐบาล หรือนิยมชมชอบสีไหน พร้อมกับย้ำว่า การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีจุดประสงค์เดียวคือปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งรัฐบาลจะต้อง 1 ยกเลิกข้อผู้พันที่มีต่อแผนที่ 1ต่อ2 แสน และเอ็มโอยู 43 2.ถอนตัวจากภาคีมรดกโลก 3.ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย