“ปานเทพ” โต้ “นายกฯ” ชาวบ้านยืนยันที่ชาวกัมพูชาอพยพเข้ามาอยู่เป็นที่ดินของไทยทั้งหมด มีเอกสารสิทธิบริเวณบ่อน้ำของยูเอ็น นายกฯ อ้างแนวปฏิบัติการหลังจากหลักเขตถูกย้ายเข้ามาแล้ว ชี้เอ็มโอยู 43 เปิดช่องให้เขมรยื้อการเจรจาไร้ข้อสรุปก็จะครองครองที่ไปไม่มีกำหนดเวลา ศาลกัมพูชาอ้างแนวรั้วลวดหนามเป็นเขตแดน พธม.เตรียมแถลงข่าว 10.00 น. พรุ่งนี้ (24 ม.ค.)
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ช่วงข่าว “ทีวีไทย” ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ NBT ชี้แจงกรณีคนไทย 7 คน ถูกจับกุมในกัมพูชา โดยนายปานเทพระบุว่า ในช่วงระหว่างหลักเขตที่ 46 และ 47 จากการสำรวจของพันธมิตรฯ ชาวบ้านบอกว่าบริเวณสระน้ำของยูเอ็น เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ของนายหมา และที่ดินทางด้านขวาของสระน้ำเป็นที่ดินของนายบุญจันทร์ เกตุธาตุ โดยพื้นที่ที่ชาวกัมพูชาอพยพเข้ามาอยู่บริเวณนั้น เป็นที่ดินของไทยทั้งหมด ซึ่งเส้นแนวปฏิบัติการที่นายกฯ ใช้อ้างอิงนั้นเป็นเส้นที่เกิดขึ้นหลังจากมีการเคลื่อนย้ายหลักเขตแล้ว และการที่นายกฯ ระบุว่า 7 คนไทยได้ล้ำเขตปฏิบัติการเข้าไป แล้วคนไทยที่ถูกจับอีก 2 คนจะต่อสู้ในศาลได้อย่างไรต่อไป
ประการที่ 2 การมีเอ็มโอยู 2543 ทำให้เกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากพื้นที่ที่เป็นของคนไทย แต่ชาวกัมพูชาเข้ามายึดที่ดินทำกินนั้น ตามเอ็มโอยู 2543 ข้อ 5 ระบุว่าให้มีการคงสภาพแวดล้อมต่างๆ ในพื้นที่ ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทำให้ชาวกัมพูชาที่เข้ามายึดครองที่ดินทำกินของชาวบ้าน สามารถคงอยู่ได้โดยไม่มีเวลาจำกัด ตราบใดที่การเจรจายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
ประการที่ 3 จากคำพิพากษาของศาลกัมพูชา ที่ระบุว่าเส้นเขตแดนที่กัมพูชาอ้างถึงนั้น คือแนวรั้วลวดหนาม ดังนั้น กัมพูชาจึงใช้อำนาจอธิปไตยบนพื้นที่ดังกล่าว และไทยก็ยอมรับการใช้อำนาจของกัมพูชาโดยไม่ได้คัดค้าน ไม่มีการผลักดัน ซึ่งนายกฯ อ้างว่ายึดตามเอ็มโอยู แต่ในทางปฏิบัติคนไทยไม่สามารถเข้าไปทำกินในพื้นที่ได้ และเมื่อเข้าไป ในพื้นที่ก็ถูกชาวกัมพูชาจับกุม แปลว่าเอ็มโอยูทำให้เกิดปัญหาแล้ว ซึ่งขณะนี้มีหลายพื้นที่ที่ชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามา แต่ยังไม่มีพื้นที่ที่คนไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนกัมพูชา ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวถูกรุกล้ำที่ดินเขาเรียกร้องมา 30 ปี ไม่เคยได้ ถ้าทางกัมพูชายังไม่ยอมเจรจาให้แล้วเสร็จเขาก็จะยึดครองที่ดินนั้นไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะแถลงข่าวเรื่องนี้ในเวลา 10.00 น. ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) และจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เพื่อขอให้ยกเลิกเอ็ม โอยู 2543, ให้ถอนตัวจากการเป็นภาคีมรดกโลก และให้รัฐบาลผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาออกไป
