xs
xsm
sm
md
lg

พท.หยันรัฐ 99 ปีก็ดับไฟใต้ไม่ได้ จี้ปรับ “เทือก-ป้อม” ออก - ชี้งบกลางปีซ้อนนัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
“เด็จพี่” เสียใจทหารใต้ตาย ซัดรัฐดับไฟใต้ 99 ปี ก็ทำไม่ได้ ฉะแค่เหวี่ยงงบลงพื้นที่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ มีแต่จัดซื้อยุทโธปกรณ์ส่อทุจริต แถมแยกปลาออกจากน้ำไม่ได้ จี้ปรับ “สุเทพ-ประวิตร” ออก เชื่อรัฐตั้งงบกลางปีซ้อนนัย คาดใช้เอื้อประโยชน์เลือกตั้ง ถามเงินเหลือ 26,000 ล้าน จะเอาไปให้ใคร

วันนี้ (23 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ กลุ่มโจรใต้ ได้ก่อเหตุบุกถล่มฐานปฏิบัติการ ร.15121 ฉก. 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บ 6 นาย ที่สำคัญยังยึดอาวุธสงครามไปประมาณ 50 กระบอก กระสุนกว่า 5 พันนัด นับเป็นความสูญเสียอีกครั้งหนึ่ง พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจต่อญาติของวีรบุรุษทหารหาญทุกท่านที่สละชีพเพื่อชาติ เรื่องสถานการณ์ดับไฟใต้ที่ผ่านมา 2 ปีภายใต้การบริหารของนายอภิสิทธิ์ที่มีนโยบายในช่วงหาเสียงว่าจะแก้ปัญหาภาคใต้ภายใน 99 วันทำได้จริง แต่ในวันนี้ตนว่า 99 ปีก็คงแก้ไม่ได้ จากเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืน รวมถึงล่าสุดมีเหตุวางระเบิดรถตำรวจ และยิงประชาชนเสียชีวิต เป็นการสะท้อนความล้มเหลวของนโยบายการแก้ปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลที่บอกรู้ปัญหาภาคใต้ดีที่สุดเพราะมี ส.ส.ภาคใต้มากที่สุด

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ตนและคณะทำงานได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ กรณีดับไฟใต้ พบเพียงแต่เป็นการเหวี่ยงงบลงพื้นที่ ตั้งแต่ ปี 2552 ถึงปัจจุบันรวมกว่า 62,000 ล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณเข้าไปแก้ปัญหาเหมือนกับการดำเนินงานในโครงการต่างๆที่ ผ่านมาของรัฐบาล เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ มีแต่โครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ชำรุด ส่อทุจริต ประกอบด้วย บอมบ์สูท ที่ยังไม่ได้ส่งมอบ 330 ล้านบาท รถปิกอัพหุ้มเกราะ 750 ล้านบาท เรือเหาะตรวจการณ์ของกองทัพบก 350 ล้านที่ยังไม่เหาะ เครื่องตรวจระเบิด GT200 เครื่องละ 1.2 ล้าน ที่ปัจจุบันระงับการใช้งานไปแล้ว อีก 541 ล้าน รวมแล้วคิดเป็นความสูญเสียกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ การแก้ปัญหาก็ยังขาดนโยบาย ขาดยุทธศาสตร์ ขาดยุทธวิธีที่จะแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง การแก้ปัญหาที่บอกว่าเข้าใจ เข้าถึง ก็ยังเป็นแค่ฉาบฉวย โดยตัวเลขที่ตนและคณะทำงานได้รับข้อมูลมาว่าผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกำลังและแนวร่วมประมาณ 7 พันคน แบ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธแค่ 3-4 พันคนเท่านั้นเอง ทั้งที่ประชาชนใน 3 จังหวัดใต้ มีหลายล้านคน รัฐบาลและผู้ที่กำกับดูแลหน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถใช้ยุทธศาสตร์แยกปลาออกจากน้ำ คือแยกคนร้ายออกจากประชาชน

“ถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ ผู้นำรัฐบาล ควรใช้วุฒิภาวะความเป็นผู้นำในการทบทวนปรับเปลี่ยนนโยบายและผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคง เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ที่ถนัดงานการเมืองควรปรับออก แล้วหาคนที่เชี่ยวชาญจริงๆ เข้ามาดูแล รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ที่ผลงาน 2 ปีไม่เป็นที่รู้จักของประชาชน จนประชาชนแทบลืมไปแล้วว่า รมว.กลาโหมชื่ออะไร ควรปรับเปลี่ยนออกไปหาคนใหม่เข้ามาแทน เลิกตอบแทนบุญคุณ เลิกแก้ปัญหาทางการเมือง ควรหันมาแก้ปัญหาดับไฟใต้อย่างจริงจังเสียที” นายพร้อมพงศ์กล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงเรื่องการตั้งงบกลางปีซึ่งเป็นเงินประมาณ 110,000 ล้านบาท และเงิน 84,000 ล้านบาทจะนำไปเป็นเงินชดเชยกองการคลัง โดยอ้างว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนนั้น ตนมองว่าเป็นการซ้อนนัย อีกทั้งการตั้งงบประมาณเร่งด่วนเช่นนี้ก็สอดคล้องกับช่วงเวลาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการพูดคุยกัน และจะนำไปสู่ความต้องการของแกนนำรัฐบาล โดยน่าจะใช้งบตัวนี้เป็นงบทางการเมืองแบบฉุกเฉิน

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งตนมองว่าน่าจะใช้งบตัวนี้เอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งทั่วไปอีกด้วย ตนจึงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเรื่องบกลางปีอีกครั้งหนึ่ง เพราะเงินที่เหลืออีก 26,000 ล้านบาทนั้นจะนำไปเอื้อประโยชน์ให้ใครอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น