ทหารนราธิวาสกระจ่ายกำลังทลายฐานปฏิบัติการณ์ย่อย RKK ที่เจาะไอร้อง เปิดฉากปะทะเดือด 15 นาทีคนร้ายแตกกระเจิง ยึดของกลางได้กว่า 100 รายการพร้อมผู้ต้องหา 1 คน ขณะที่ทหารปัตตานีกว่า 50 นายบุกปิดล้อมตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยปะทะเดือดวืสามัญดจรใต้ดับ 1 ศพจับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย
วานนี้ (9 ก.พ.) พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และ พ.ท.ชัยนรินทร์ เกษมโชติพัฒน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ได้ร่วมสนธิกำลังสั่งการให้ ร.อ.สมบูรณ์ โชติเนตร หัวหน้าฝ่ายข่าว ฉก.นราธิวาส 31 นำกำลังจำนวน 50 นาย ขึ้นพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาบ้านเจาะเกาะ ม.13 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง หลังจากสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ RKK ใช้สถานที่ดังกล่าวตั้งฐานปฏิบัติการณ์ย่อย เพื่อซ่องสุมกำลังเตรียมที่จะวางแผนก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง
โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าขึ้นเทือกเขาที่ลาดชันไปประมาณ 1 กิโลเมตรพบฐานปฏิบัติการณ์ย่อยของกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่ปลูกสร้างด้วยเสาไม้ 4 ท่อนและใช้ผ้าใบกันฝนทำเป็นหลังคา 1 หลังที่ตั้งตะหง่านอยู่บนเนินดิน โดยมีกองกำลังติดอาวุธ RKK จำนวน 6-7 คนเดินและนั่งอยู่รอบฐาน และเมื่อเจ้าหน้าที่กำลังกระจายกำลังกันโอบล้อมอยู่นั้น กองกำลังติดอาวุธ RKK เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกันเป็นละลอกๆนานกว่า 15 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้พากันนำกำลังล่าถอยไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมสมาชิกแนวร่วมได้ 1 คน พร้อมยึดของกลางได้กว่า 100 รายการ อาทิ ชุดลายพรางทหาร กระสุนปืนเอ็ม 16 หมวกไหมพรม เปลสนาม เชือก เวชภัณฑ์ มีดพร้า เป้สะพาย เข็มขัดกระสุน ผ้าโสร่ง เสื้อยืดสกรีนเป็นภาษีลูมี แปลเป็นไทยว่าแผ่นดินใครปกครองและอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวสมาชิกแนวร่วม 1 คนไปทำการตรวจสอบและสอบขยายผลที่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 31 พร้อมประสานแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรงยุติธรรม ทำทำการตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ. เพื่อเก็บหลักฐานขยายผลไปสู่การจับกุมกลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK ต่อไป
ส่วนกำลังอีกจำนวนหนึ่ง พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ได้ส่งกำลังขึ้นไล่ล่าบนเทือกเขา ซึ่งคาดว่ากลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่หลบหนีไปได้นั้น น่าจะมีอาวุธปืน เอ็ม.16 ที่คนร้ายได้บุกปล้นจากคลังอาวุธของร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 39 เมื่อคืนวันที่ 19 ม.ค.54 ที่ผ่านมา
ส่วนที่ จ.ปัตตานีเวลาประมาณ 12.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผบก.หัวหน้าชุดสืบสวนศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ท.ประธาน ตลับทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี 25 พ.ต.ท.เรวัต ศรีจันทับ สว.สส.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กว่า 50 นายเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 172 ม.1 ต.ถนน อ.มายอ หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีผู้ต้องหาซึ่งเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบเข้ามาหลบซ่อนตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว
จากนั้นได้เรียกนายมูฮำหมัดอาดัม วาแม อายุ 26 ปีเจ้าของบ้านมาเปิดประตู ปรากฏว่าคนร้ายซึ่งหลบซ้อนอยู่ในบ้านได้วางแผนหนีออกทางประตูหลังบ้าน เข้าไปในป่าห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตรเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ที่กำลังปิดล้อม คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นประมาณ 10 นาที เมื่อเสียงปืนสงบจึงได้เข้าเคลียพื้นที่ พบศพคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย โดยที่มือขวากำอาวุธปืนขนาด 9 มม.1 กระบอก
ตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายฮานาฟี ดาหาเม็ง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.3 ต.บาโรย อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี สภาพศพถูกยิงเข้าลำตัวและใบหน้า ตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับ ป.วิอาญา ศาลจังหวัดปัตตานี 3 หมาย คือ 1.คดีที่ 413/2551 ยิงนางวิสา หารา เสียชีวิต 2.คดีที่ 476/2551 ยิง ด.ต.ต่วนอาซิ ต่วนกาจิ ผบ.หมู่ สภ.ยะหริ่ง เสียชีวิต และ 3.คดีที่ 347/53 ยิง นายพิชัย เสือแสง ผอ.โรงเรียนบ้านดูสงปาแย เสียชีวิต
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ตกอยู่ด้านหลังบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจควบคุมตัว นายมูฮำหมัดอาดัม วาแม เจ้าของบ้าน และนายตายูดิน นาวา ผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนเพิ่มเติม
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ชาญชัย ภู่ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานีเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำชับให้กำลัง 3 ฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 1 กิโลเมตร เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีแนวร่วมหลบซ่อนตัวอยู่ พร้อมให้วางมาตราการณ์คุมเข้มทันทีทั้ง 3 จังหวัด เพราะเกรงว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะออกมาตอบโต้สร้างสถานการณ์
วานนี้ (9 ก.พ.) พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และ พ.ท.ชัยนรินทร์ เกษมโชติพัฒน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ได้ร่วมสนธิกำลังสั่งการให้ ร.อ.สมบูรณ์ โชติเนตร หัวหน้าฝ่ายข่าว ฉก.นราธิวาส 31 นำกำลังจำนวน 50 นาย ขึ้นพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาบ้านเจาะเกาะ ม.13 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง หลังจากสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ RKK ใช้สถานที่ดังกล่าวตั้งฐานปฏิบัติการณ์ย่อย เพื่อซ่องสุมกำลังเตรียมที่จะวางแผนก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง
โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าขึ้นเทือกเขาที่ลาดชันไปประมาณ 1 กิโลเมตรพบฐานปฏิบัติการณ์ย่อยของกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่ปลูกสร้างด้วยเสาไม้ 4 ท่อนและใช้ผ้าใบกันฝนทำเป็นหลังคา 1 หลังที่ตั้งตะหง่านอยู่บนเนินดิน โดยมีกองกำลังติดอาวุธ RKK จำนวน 6-7 คนเดินและนั่งอยู่รอบฐาน และเมื่อเจ้าหน้าที่กำลังกระจายกำลังกันโอบล้อมอยู่นั้น กองกำลังติดอาวุธ RKK เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกันเป็นละลอกๆนานกว่า 15 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้พากันนำกำลังล่าถอยไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมสมาชิกแนวร่วมได้ 1 คน พร้อมยึดของกลางได้กว่า 100 รายการ อาทิ ชุดลายพรางทหาร กระสุนปืนเอ็ม 16 หมวกไหมพรม เปลสนาม เชือก เวชภัณฑ์ มีดพร้า เป้สะพาย เข็มขัดกระสุน ผ้าโสร่ง เสื้อยืดสกรีนเป็นภาษีลูมี แปลเป็นไทยว่าแผ่นดินใครปกครองและอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวสมาชิกแนวร่วม 1 คนไปทำการตรวจสอบและสอบขยายผลที่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 31 พร้อมประสานแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรงยุติธรรม ทำทำการตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ. เพื่อเก็บหลักฐานขยายผลไปสู่การจับกุมกลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK ต่อไป
ส่วนกำลังอีกจำนวนหนึ่ง พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ได้ส่งกำลังขึ้นไล่ล่าบนเทือกเขา ซึ่งคาดว่ากลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่หลบหนีไปได้นั้น น่าจะมีอาวุธปืน เอ็ม.16 ที่คนร้ายได้บุกปล้นจากคลังอาวุธของร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 39 เมื่อคืนวันที่ 19 ม.ค.54 ที่ผ่านมา
ส่วนที่ จ.ปัตตานีเวลาประมาณ 12.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผบก.หัวหน้าชุดสืบสวนศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ท.ประธาน ตลับทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี 25 พ.ต.ท.เรวัต ศรีจันทับ สว.สส.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กว่า 50 นายเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 172 ม.1 ต.ถนน อ.มายอ หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีผู้ต้องหาซึ่งเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบเข้ามาหลบซ่อนตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว
จากนั้นได้เรียกนายมูฮำหมัดอาดัม วาแม อายุ 26 ปีเจ้าของบ้านมาเปิดประตู ปรากฏว่าคนร้ายซึ่งหลบซ้อนอยู่ในบ้านได้วางแผนหนีออกทางประตูหลังบ้าน เข้าไปในป่าห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตรเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ที่กำลังปิดล้อม คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นประมาณ 10 นาที เมื่อเสียงปืนสงบจึงได้เข้าเคลียพื้นที่ พบศพคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย โดยที่มือขวากำอาวุธปืนขนาด 9 มม.1 กระบอก
ตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายฮานาฟี ดาหาเม็ง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.3 ต.บาโรย อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี สภาพศพถูกยิงเข้าลำตัวและใบหน้า ตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับ ป.วิอาญา ศาลจังหวัดปัตตานี 3 หมาย คือ 1.คดีที่ 413/2551 ยิงนางวิสา หารา เสียชีวิต 2.คดีที่ 476/2551 ยิง ด.ต.ต่วนอาซิ ต่วนกาจิ ผบ.หมู่ สภ.ยะหริ่ง เสียชีวิต และ 3.คดีที่ 347/53 ยิง นายพิชัย เสือแสง ผอ.โรงเรียนบ้านดูสงปาแย เสียชีวิต
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ตกอยู่ด้านหลังบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจควบคุมตัว นายมูฮำหมัดอาดัม วาแม เจ้าของบ้าน และนายตายูดิน นาวา ผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนเพิ่มเติม
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ชาญชัย ภู่ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานีเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำชับให้กำลัง 3 ฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 1 กิโลเมตร เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีแนวร่วมหลบซ่อนตัวอยู่ พร้อมให้วางมาตราการณ์คุมเข้มทันทีทั้ง 3 จังหวัด เพราะเกรงว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะออกมาตอบโต้สร้างสถานการณ์