xs
xsm
sm
md
lg

ใต้ยังป่วน!ยิง-ฆ่าปาดคอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่/ASTVผู้จัดการรายวัน - โจรใต้ก่อเหตุยิงฆ่าปาดคอเจ้าของสวนปาล์มที่ ต.โคกเคียน เมืองนราฯ แถมชิงรถจักรยานยนต์ ด้าน "มาร์ค" ปากเก่ง บอกรัฐบาล-กองทัพจะไม่ไขว้เขวตกเป็นเหยื่อโจรใต้สร้างสถานการณ์ฟ้องโอไอซี เตรียมยกเครื่องความมั่นคงในพื้นที่ เสริมเขี้ยวเลขาฯ ศอ.บต.สั่งโยกย้าย ขรก.รังแกประชาชนในพื้นที่

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (23 ม.ค.)พ.ต.ท.ดุลยมาน แยนา สวญ.สภ.โคกเคียน อ.เมือง ได้รับแจ้งมีคนถูกเสียชีวิตในสวนปาล์มบริเวณบ้านฮูแตทูวอ ม.4 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายช่วย พรหมสอน อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/14 บ้านโคกบาคา ม.9 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส สภาพศพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ศีรษะ 1 นัดบริเวณคอแผลลึกถูกปาดด้วยของมีคม นอกจากนี้ พบว่าคนร้ายยังนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ซีซี สีน้ำเงิน ทะเบียน ขจก-551 นราธิวาส ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดอยู่ในสวนไปด้วยอีก 1 คัน

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.00 น.ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักโดยได้บอกกับเพื่อนบ้านจะไปดูแลต้นปาล์ม เพื่อให้เพิ่มผลผลิตเนื่องจากในช่วงนี้ราคาตลาดน้ำมันปาล์มขึ้นราคา โดยขณะที่ผู้ตายเข้าไปในสวนปาล์มได้มีคนร้ายซุ่มอยู่ไม่ทราบจำนวนได้ออกมาจากที่ซ่อนและใช้อาวุธปืนยิงใส่ 1 นัดจนล้มลง จากนั้นคนร้ายได้ใช้ของมีคมปาดคอจนหลอดลมขาดผู้ตายดิ้นพราดและเสียชีวิตดังกล่าว

ที่ จ.ปัตตานีเวลา 09.00 น.คนร้ายได้ยิงนายอับดุลรอแม ดอเลาะห์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/2 ม.5 ต.บ้านกลาง อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี เสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาลปานาเระ เหตุเกิดขณะที่นายอับดุลรอแม ซึ่งเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดนของอำเภอปานาเระ กำลังออกจากการเข้าเวร และกำลังเดินทางไปจับจ่ายตลาดภายในเขตเทศบาลปานาเระ ในระหว่างนั้นได้มีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบเมื่อได้จังหวะคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่บริเวณศีรษะทันที เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว หลังเกิดเหตุยังได้ฉกอาวุธปืนของผู้ตายไปด้วย

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"เมื่อเช้าวานนี้ (23 ม.ค.)ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการถูกโจมตีฐานปฏิบัติการ ฉก.นราธิวาส 38 ซึ่งถือโอกาสนี้แสดงความเสียมายังครอบครัวผู้สูญเสียอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจุดซึ่งรัฐบาลตระหนักดีและทางกองทัพก็ทราบว่ายังมีปัญหาอยู่เพราะโดยเงื่อนไขของภูมิประเทศและโดยเงื่อนไขของสภาพพื้นที่ การปรับวางกำลังนั้น จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุง ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพก็จะได้มีการดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รัฐบาลยังเดินหน้าตามแนวทางซึ่งเรามั่นใจว่าจะเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน คือการยึดเรื่องของการพัฒนา และยึดในเรื่องของการที่จะอำนวยความยุติธรรมสิ่งที่เกิดขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รวมงานระลึกครุวีรชน คือบรรดาครูที่ได้เสียชีวิตกับเหตุการณ์ความไม่สงบในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีแล้ว 138 ราย ขณะเดียวกัน ได้ลงไปที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ที่ได้มีการประกาศยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นอำเภอแรกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ไปติดตามโครงการรัฐบาลที่ได้ทำในรัฐบาลนี้ ทั้งที่ทำต่อเนื่องมาจากปี 50 ในโครงการพนม คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน หรือการโอนเงินให้กับหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หมู่บ้านละ 2 แสนบาทโดยประมาณ และมีการดำเนินการให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เองได้เลือก และตัดสินใจว่า จะใช้เงินไปในลักษณะการพัฒนาพื้นที่อย่างไร หลายหมู่บ้านได้มาแสดงถึงความสำเร็จของการนำเงินในโครงการนี้ไปใช้ในเสริมการดำรงชีพ และการเสริมความปลอดภัยในแต่ละหมู่บ้าน ในแต่ละชุมชน

**ลั่นรัฐบาล-กองทัพไม่ตกเป็นเหยื่อ

ทั้งนี้ นายกรัฐนตรียังคงยืนยันแนวทางนี้ ทำให้ในปัจจุบันสถิติความถี่ในเรื่องของความรุนแรงลดลง แม้ยังลดไม่มากอย่างที่ต้องการ แต่มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน และได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนอย่างมาก สามารถทำให้การดูแลความสงบเรียบร้อย ทำได้ง่ายขึ้น แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นราธิวาส ยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่หลายๆ พื้นที่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะช่วงนี้ฝ่ายตรงข้ามก็มีความพยายามในการที่จะยั่วยุ ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อจะนำเหตุการณ์ตรงนี้ไปเป็นเงื่อนไขในการประชุมประเทศมุสลิม หรือ โอไอซี ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและโดยเฉพาะกองทัพได้มีการหารือพูดกันอย่างชัดเจนว่า แนวทางของเราจะไม่ไขว้เขว หรือตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุ แต่การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดูแลความมั่นคง หรือความปลอดภัยของประชาชน และกำลังพลเองก็มีปรับหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เรื่องนี้ทางกองทัพจะได้ดำเนินการ รัฐบาลจะติดตามต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันกฎหมายใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีผลบังคับใช้แล้ว วันจันทร์ที่ 24 ม.ค.นี้ จะเป็นครั้งแรกที่จะได้มีการประชุมคณะกรรมการด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กพต.เป็นกลไกหลักในการดูแลนโยบายของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และระเบียบต่างๆ ที่จะออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งระเบียบที่จะให้เลขาธิการ ศอ.บต.สามารถที่จะเอาข้าราชการที่ปฏิบัติตนไม่ดี ไม่เป็นธรรม ไปรังแกประชาชนในพื้นที่ ออกจากพื้นที่ได้และอีก 2 ระเบียบจะนำเข้าสู่การพิจารณาเป็นครั้งแรก เป็นความก้าวหน้าของการเดินทางที่จะปรับนโยบาย และแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างยั่งยืน

ช่วงเย็นนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ ร้อยเอกกฤษ คัมภีรญาณ ผู้บัญชาการกองร้อย ร.15121 เฉพาะกิจ นราธิวาส 38 ที่เสียชีวิตจากเหตุผู้ก่อความไม่สงบยิงถล่มฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ ที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ศาลาทักษิณประดิษ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน โดยได้พูดคุยกับบิดามารดาของร้อยเอกกฤษ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ทั้งนี้ จะมีการพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร้อยเอกกฤษในวันที่ 29 ม.ค.นี้

**มท.รายงานทุ่ม 969 ลบ.ติด CCTV

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (24ม.ค.) จะได้รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอผลการติดตามการดำเนินการตามโครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดหรือ CCTV ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทยรายงานว่า ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท ไทยทรานสมิชชั่น อินดัสทรี จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.53

สำหรับวงเงินประมาณสนับสนุนเป็นงบผูกพันข้ามปี 2550-52 วงเงินไม่เกิน 969 ล้านบาท โดยงบที่ใช้จ่ายปี 50 จำนวน 145 ล้านบาท สามารถพิจารณาปรับการใช้หากไม่พอให้ขอสนับสนุนงบกลางปี ส่วนงบปี 51 จำนวน 386 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 437 ล้านบาท ให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายปี 52 ทั้งนี้ ในการติดตั้งหน่วยงานร่วมดำเนินการคือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในภาค 4 เป็นศูนย์บัญชาการในทุกพื้นที่

**มทภ.4แจงความคืบหน้ายิงถล่มฐานฯ

ที่ห้องรับรองชั้น 2 อาคาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหารกองร้อยทหารราบที่ 15121 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าการเข้าปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามมีการเตรียมการมาค่อนข้างดี เริ่มต้นด้วยการโจมตีทางด้านหน้าและข้างฐานปฏิบัติการ ด้วยอาวุธนานาชนิด พร้อมกับการตัดไฟภายในฐาน เมื่อกำลังพลได้เข้าป้องกันทางด้านหน้า จึงเกิดช่องว่างทางด้านหลังทำให้ผู้ก่อการที่อยู่ด้านหลังเข้าจู่โจมเข้ามาในฐานปฏิบัติการ แล้วเกิดการต่อสู้ประมาณ 30 นาทีคนร้ายจึงล่าถอยไป ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต 4 นายและบาดเจ็บ 6 นาย ขณะนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทางราชการ

สำหรับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะไม่หลงกลกับดักของฝ่ายตรงข้าม ที่ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ เพื่อยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชน หวังให้หยุดนโยบายการสร้างความเจริญ สร้างความสันติสุข ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะปฏิบัติตามนโยบายต่อไปเพื่ออุดช่องว่าง ไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายล่าสุดพอจะทราบแล้วว่ามีส่วนใดที่เข้าปฏิบัติการ ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตาม ขอยืนยันว่าจะติดตามจนกว่าจะได้ตัวผู้ที่ก่อเหตุ รวมทั้งติดตามสิ่งของคืนกลับมาด้วย โดยกลุ่มที่มาปฏิบัติการในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันมาจากหลายพื้นที่ และมีความมั่นใจว่ากลุ่มคนร้ายไม่ได้มีกองกำลังมากมายขนาดนั้น

สำหรับอาวุธปืนขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากว่าในจุดเกิดเหตุที่มีเพลิงไหม้นั้นก็มีอาวุธอยู่จำนวนหนึ่งที่ถูกเพลิงไหม้ไปด้วย ทางนิติวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยอมรับว่ามีอาวุธส่วนหนึ่งที่ถูกคนร้ายนำไปด้วยจริง แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้

ในส่วนของมาตรการในการดูแลพื้นที่โดยเฉพาะฐานปฏิบัติการต่างๆ นั้น หลังเกิดเหตุตนได้ประชุมหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจทุกหน่วยและได้สั่งการในการป้องกัน ปิดช่องว่าง ซึ่งปัจจุบันทุกหน่วยก็มีความพร้อมแล้ว ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษคือพื้นที่รอบๆ เทือกเขาบูโด ที่กองกำลังฝ่ายตรงข้ามสามารถลัดเลาะผ่านเข้ามาได้

ส่วนกรณีมีข่าวว่าอาจจะมีหนอนบ่อนไส้นั้น ในกรณีปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็งเมื่อปี 47 นั้นก็มีการปล่อยข่าวในลักษณะนี้ออกมาว่ามีหนอนบ่อนไส้ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยพุทธไทยมุสลิมและฝ่ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นยุทธวิธีเดียวกันกับครั้งก่อน ที่ต้องการสร้างความแตกแยก แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะไม่หลงกลแต่อย่างใด

**เด็จพี่เย้ยดับไฟใต้เหลว 99ปีก็ทำไม่ได้

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องสถานการณ์ดับไฟใต้ที่ผ่านมา 2 ปีภายใต้การบริหารของนายอภิสิทธิ์ ที่มีนโยบายในช่วงหาเสียงว่าจะแก้ปัญหาภาคใต้ภายใน 99 วัน ทำได้จริง แต่ในวันนี้ตนว่า 99 ปีก็คงแก้ไม่ได้ จากเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืน รวมถึงล่าสุดมีเหตุวางระเบิดรถตำรวจและยิงประชาชนเสียชีวิต เป็นการสะท้อนความล้มเหลวของนโยบายการแก้ปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ

พรรคประชาธิปัตย์บอกว่า รู้ปัญหาภาคใต้ดีที่สุดเพราะมี ส.ส.ภาคใต้มากที่สุด ตนและคณะทำงานได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ กรณีดับไฟใต้พบเพียงแต่เป็นการเหวี่ยงงบลงพื้นที่ตั้งแต่ปี 52 ถึงปัจจุบันรวมกว่า 62,000 ล้านบาทเป็นการใช้งบฯเข้าไปแก้ปัญหาเหมือนกับการดำเนินงานในโครงการต่างๆ ที่ผ่านมาของรัฐบาลเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ มีแต่โครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ชำรุด ส่อทุจริต

"ถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ ผู้นำรัฐบาลควรใช้วุฒิภาวะความเป็นผู้นำในการทบทวนปรับเปลี่ยนนโยบายและผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคง เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่ถนัดงานการเมืองควรปรับออก แล้วหาคนที่เชี่ยวชาญจริงๆ เข้ามาดูแล รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ที่ผลงาน 2 ปีไม่เป็นที่รู้จักของประชาชน จนประชาชนแทบลืมไปแล้วว่า รมว.กลาโหม ชื่ออะไร ควรปรับเปลี่ยนออกไป หาคนใหม่เข้ามาแทน เลิกตอบแทนบุญคุณ เลิกแก้ปัญหาทางการเมือง ควรหันมาแก้ปัญหาดับไฟใต้ อย่างจริงจังเสียที".
กำลังโหลดความคิดเห็น