โฆษก ปชป.ยืนยัน “มาร์ค” ไม่เคยพูดยุบสภาเดือน พ.ค. ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ผูกโยกกับเรื่องยุบสภา หวังแกนนำพรรคร่วมฯ หาทางออกสูตร ส.ส.ที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ขณะเดียวกัน ห่วงแก๊งแดงป่วนประกาศก่อม็อบ 25 ม.ค.ตรงกับพันธมิตรฯ นัดเคลื่อนพล หวั่นแดงห้าวจ้องสร้างสถานการณ์
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงความเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับสัดส่วน ส.ส.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคหวังว่าการหารือกับฝ่ายต่างๆ ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่จะบรรลุผลสำเร็จ เพื่อให้ตอบโจทย์การปฏิรูปการเมืองที่คณะกรรมการอิสระเสนอ และยืนยันว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้ผูกโยงกับเรื่องยุบสภา โดยในการประชุมกรรมการบริหารพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ไม่เคยพูดว่าจะยุบสภาเดือน พ.ค. และไม่มี ส.ส.ของพรรคพูดจาข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลว่าถ้าแตกแถวจะยุบสภา ดังนั้น ที่ดีที่สุดตอนนี้คือใช้เวลาที่เหลือหารือกัน ผู้ใหญ่ของพรรคพร้อมคุยกับผู้ใหญ่พรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญประเด็นอื่นให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นนั้น พรรคไม่ปิดรับ เพราะยังมีอีก 4 ประเด็นที่คณะกรรมการอิสระที่ศึกษาและเสนอมา ซึ่งอาจจะมีการผลักดันสมัยประชุมต่อไป หรือสมัยรัฐบาลหน้า ซึ่งเป็นความตั้งใจในการปฏิรูปการเมืองของพรรคอยู่แล้ว
นพ.บุรณัชย์กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งตรงกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า พรรครู้สึกกังวลว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการไม่เหมาะสมและเสี่ยงต่อการเกิดการเผชิญหน้าระหว่างคนไทยด้วยกันเอง เกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่และทำให้ประชาชนเดือดร้อนหากมีการปิดถนน จึงอยากให้แต่ละฝ่ายนำข้อกังวลนี้มาร่วมพูดคุยกับรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลพร้อมร่วมหารือ โดยอยากให้ผู้ชุมนุมทบทวนถึงวันนัดชุมนุมดังกล่าว
“พรรคฯ รู้สึกเป็นห่วงการแฝงตัวของกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง โดยจากหลักฐานที่ปรากฏจะพบว่า มีกลุ่มบุคคลที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยที่กลุ่มคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ได้รับทราบ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอได้มีการจับกุมมาแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ชุมนุมรอให้ทางดีเอสไอขยายผลการสอบสวนให้แล้วเสร็จจึงจะมีการนัดชุมนุม เพราะขณะนี้ได้สามารถสาวถึงแกนนำระดับกลางบางส่วน แต่เชื่อว่า ยังมีบุคคลที่ผ่านการฝึกอาวุธและอยู่ใต้สายงานบังคับบัญชาเดียวกันยังไม่ถูกจับ และยังเคลื่อนไหวนำสู่ความขัดแย้งต่อไป”
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า พรรคขอสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลในการปฏิรูประบบโทรคมนาคมให้แล้วเสร็จก่อนหมดวาระ โดยเฉพาะการเร่งสร้างเครือข่าย 3 จีให้เท่าเทียมประเทศเพื่อนบ้าน และเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยพรรคเห็นว่ามีภารกิจ 3 เรื่องที่ต้องเร่งทำ คือ 1.การแก้ปัญหาสัญญาสัมปทานค่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้แข่งขันเสรี เป็นธรรม โปร่งใส โดยใช้กลไก ครม.หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเคยวินิจฉัยเรื่องนี้ 2.ดาวเทียมไทยคม ต้องแก้สัดส่วนสัมปทานให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยใช้กลไก ครม. เพื่อให้มีการแข่งขันเสรี และเข้าถึงการใช้ดาวเทียม 3.ดำเนินการตามแผนแม่บทบรอดแบนด์ เพื่อให้ครัวเรือนเข้าถึงการใช้อินเตอร์เนท โดยมีเพดานค่าใช้จ่ายไม่เกิน 200 บาท ต่อความเร็ว 2 เมกกะบิตต่อวินาที
นอกจากนี้ พรรคขอสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัว มีเสถียรภาพ และการเติบโตของเศรษฐกิจชุมชน โดยมี 4 เรื่องที่ต้องเร่งเดินหน้าดำเนินการคือ 1.เร่งแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง โดยเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค ไก่ ไข่ เพื่อลดค่าครองชีพ 2.เร่งเพิ่มรายได้ให้ประชาชนทุกกุล่ม ทั้งเกษตรกร และการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงาน 3.เร่งสร้างหลักประกันความมั่นคง คือ ระบบประกันสังคม 4.เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าอีก 4 เส้นทาง ที่จะต้องเริ่มในปีนี้
มีรายงานว่า ในวันที่ 24 ม.ค.นี้พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมเสนอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคเพื่อรับการเลือกตั้ง โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรค เป็นประธาน ส่วนคณะกรรมการจะเป็นบุคคลที่เคยทำหน้าที่เป็นกรรมการยุทธศาตร์ก่อนหน้านี้ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงในบางบุคคลที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้คือ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีและสารสนเทศ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ โดยจะดึงบุคลากรของพรรคเข้าทำหน้าที่แทน อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.กรุงเทพฯ
