xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย”ลับดาบรอเชือด มาร์ค-กรณ์-จิ้น-เทือก-จุติ จุดตายลักไก่เปิด3Gเอื้อเอกชน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
การประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยวันอังคารที่ 18 มกราคมนี้ จะมีการหารือกันถึงความชัดเจนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์

ที่แกนนำพรรคและคณะทำงานเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรค หรือที่เรียกกันว่า “คณะกรรมการตรวจสอบรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย (คตร.)” ได้กำหนดกรอบการหาข้อมูลไว้ 3 ประเด็น คือ การทุจริต, เหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง และการบริหารราชการล้มเหลวของรัฐบาล

โดยคาดว่า จะมีการพูดคุยหารือข้อสรุปในหลายเรื่องเช่น ตัวบุคคลที่พรรคจะยื่นชื่อประกบเป็น “นายกรัฐมนตรี”แนบท้ายญัตติไปด้วย รวมถึงตัวผู้นำการอภิปราย

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เชื่อได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะยังไม่มีการแถลงท่าทีที่ชัดเจนในการยื่นญัตติฯ เช่น ตัวรัฐมนตรีหรือวันที่ยื่นญัตติฯ เนื่องจากหากพรรครีบยื่นญัตติทันทีตั้งแต่เปิดสภาฯ จะทำให้เกิดเดทล็อกการเมืองทำให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภาได้

ยิ่งตอนนี้ พรรคประชาธิปัตย์และอภิสิทธิ์ กำลังเจอทางตันในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญสูตร 375+125 ให้เดินหน้าไปได้ เพราะทั้งส.ว.ที่ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 70 เสียงประกาศแล้วว่าไม่เอาสูตร 375+125 แต่จะเอาสูตร 400+100 ของพรรคร่วมรัฐบาล

ทำให้มีโอกาสสูงที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะปั่นป่วนวุ่นวายในการลงมติทั้งวาระ 2 และ 3 รวมถึงส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างหนัก ยิ่งหากพรรคเพื่อไทยลงมาเล่นหนุนสูตร 400+100 ด้วย จะยิ่งทำให้ประชาธิปัตย์ยิ่งกุมเกมลำบาก จนทำให้การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพมีสิทธิ์แท้งกลางที่ประชุมรัฐสภา หากสุดท้าย “อภิสิทธิ์-ปชป.”ไม่สามารถเคลียร์กับพรรคร่วมรัฐบาลได้

ดังนั้นเชื่อได้ว่าพรรคเพื่อไทย คงจะรอจังหวะเหมาะยื่นญัตติฯหลังพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ ยกเว้นแต่จะยุบสภาเสียก่อน !

ขณะนี้จึงเป็นขั้นตอนการแบ่งทีมงานไปรวบรวมข้อมูล และกำหนดประเด็นการอภิปรายกว้างๆไว้ก่อน ส่วนประเด็นที่เป็น “ไม้ตาย”แบบไม่เคยเป็นข่าวมาก่อน จะยังไม่มีการนำมาพูดคุยกันบนโต๊ะที่มีคนเข้าประชุมหลายคน เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล รัฐบาลจะได้เตรียมตัวไม่ทัน

เหมือนอย่างเช่นครั้งก่อน ที่พรรคเพื่อไทยหยิบเรื่อง “ที่ดินเขาแพง”ของ “ตระกูลเทือกสุบรรณ-พร้อมพันธ์” มาอภิปราย ซึ่งข่าวรั่วก่อนวันอภิปรายไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้สุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งหลักได้ แต่กระนั้นก็เสียรังวัดไปพอสมควร

ที่รู้มาก็คือ อภิปรายครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะมาซ้ำรอยแผลเดิมของสุเทพ ในเรื่องที่ดินเขาแพงอีกครั้งในแบบเมดเลย์รวมฮิตที่จะเรียบเรียงเรื่องราวมาฉายซ้ำอีกรอบ ขยายขยี้แผลเดิมที่เป็นแผลเก่า อักเสบขึ้นอีกครั้งกลางสภาฯ

โดยการอภิปรายครั้งนี้ เชื่อได้ว่าเพื่อไทย คงหวังผลทางการเมืองอย่างมาก เพราะประเมินแล้วว่า นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคงยื้อไม่ยุบสภาไม่ได้ หากว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกอย่างพ.ร.บ.เลือกตั้งเสร็จ ก็ต้องยุบสภากลางปีนี้ประมาณเดือนมิถุนายน ฉะนั้นการอภิปรายครั้งนี้จึงหวังผลสองเด้งคือ

เด้งแรกคือ โชว์ผลงานพรรคในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล เพื่อหวังผลต่อการหาเสียงเลือกตั้ง และอีกหนึ่งเด้งคือ ย้ำปมทุจริตของรัฐบาล ที่สังคมกำลังเอือมระอา รวมถึงการด้อยประสิทธิภาพในการบริหารประเทศของอภิสิทธิ์ในเกือบทุกเรื่อง

ตั้งแต่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การปล่อยให้มีการทุจริตคอรัปชั่น รวมถึงที่สำคัญคือการหาเสียงกับคนเสื้อแดง ด้วยการย้ำว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงสั่งการสลายการชุมนุมเมื่อ 19 พ.ค.53 ซึ่งประเด็นที่เพื่อไทยจะนำมาขยายผลมากที่สุดก็คือเหตุการณ์ 6 ศพที่วัดปทุมวนารามนั่นเอง

การอภิปรายครั้งนี้ เป้าใหญ่จึงไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็น “อภิสิทธิ์”ที่เพื่อไทยจะเล่นทั้งเรื่องเสื้อแดง ปัญหาทุจริต ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ซึ่งทีมงานซักฟอกเพื่อไทยกำลังนั่งดูข้อมูลกันอยู่ก็มีหลายคน แต่ยังไม่ตกผลึก เพราะมีส.ส.เพื่อไทยบางคนที่ถนัดด้านการศึกษาก็จะพยายามเสนอกับแกนนำพรรคที่เป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องการอภิปรายว่า ควรอภิปรายรัฐมนตรีด้านการศึกษาด้วยหรือไม่

บางคนจับเรื่องกระทรวงพาณิชย์ การประมูลขายข้าว -สินค้าเกษตรกรรม ก็จะพยายามบอกผู้ใหญ่ในพรรคว่าควรจะต้องอภิปรายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นต้น เพราะส.ส.เพื่อไทยหลายคนต่างก็ต้องการสร้างผลงานในการอภิปรายครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ “นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร”พอใจ จะได้มีเครดิตในพรรคไว้เสริมบารมีตอนเลือกตั้ง

ในเรื่องเศรษฐกิจ นอกจากอภิสิทธิ์แล้ว “ขุนคลัง”กรณ์ จาติกวนิช ก็คงต้องโดนเพื่อไทยอภิปรายหนักควบคู่กันไปด้วย ในฐานะตัวหลักของรัฐบาลในเรื่องเศรษฐกิจ

โดยภาพรวมเศรษฐกิจ ก็ชัดเจนว่า ตัวหลักของพรรคที่จะอภิปรายเพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลผิดพลาดในการออกนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็คือ “โดเรมิ่ง-มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์"ซึ่งแม้หลายคนจะบอกว่า กระดูกเทียบกับ “มาร์ค-กรณ์”แล้ว ยังคนละเบอร์ แต่ข่าวแจ้งมาว่า มิ่งขวัญ มุ่งมั่นกับภารกิจนี้มาก ซุ่มซ้อมติวเข้มมานานเป็นเดือนแล้ว ของอย่างงี้ มันก็ต้องให้โอกาสกันบ้าง

นอกจากนี้ มีข่าวว่าเพื่อไทยกำลังแกะรอยข้อมูลการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจบางคนอยู่ว่า มีอะไรผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่ เพื่อที่จะดูว่ามีการออกนโยบายหรือการทำงานอะไรที่เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการค้ากำไรผ่านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ ซึ่งแม้จะรู้ว่าค่อนข้างจะแกะรอยยาก เพราะของแบบนี้ หากรัฐมนตรีคนที่เพื่อไทยกำลังแกะรอยู่ คิดจะวางแผนทำจริง ก็ยากจะแกะรอยได้เพราะเคยเห็นความผิดพลาดที่นายใหญ่เพื่อไทย “ทักษิณ”เคยทำกับแอมเพิล ริช-วินมาร์ก แล้วเรื่องอะไรจะมาให้แกะรอยได้ง่ายๆ !

อีกหนึ่งคนที่คงหนักพอกันคือ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ซึ่งครั้งที่แล้วโดนเรื่องประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงของชิโน-ไทย ฝ่ายค้านเล่นอภิปรายจนส.ส.เพื่อแผ่นดิน ยกสวนไม่ไว้วางใจ มาคราวนี้ ก็คงหนักอีกชุดใหญ่ เพราะส.ส.เพื่อไทย ขอจองชื่ออภิปรายกันล้นหลาม

ข่าวยังไม่ยืนยันแต่ร่ำลือกันในพรรคหนาหูว่า อภิปรายครั้งนี้ชวรัตน์มีสิทธิ์คางเหลือง เพราะคนส่งข้อมูลให้ก็พวกข้าราชการมหาดไทยทั้งนั้น โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการประมูล-การจัดซื้อจัดจ้างอะไรหลายอย่างในกระทรวง ที่เกี่ยวพันกับคนของพวกเครือข่ายภูมิใจไทย

รัฐมนตรีอีกหนึ่งกระทรวง ที่ข่าวยังไม่สะเด็ดน้ำแต่แว่วมาว่า ทีมซักฟอกด้านเศรษฐกิจเพื่อไทยกำลังหาข้อมูลอยู่ อันเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องทำนองผลประโยชน์ทับซ้อนของการประมูลงานด้านโทรคมนาคม มีการสมยอมให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเปิดบริการระบบโทรศัพท์ 3 จีบนคลื่น 800 เพื่อไปทดสอบว่าทำ 3 จีได้ไหม

แต่บริษัทดังกล่าวกลับลักไก่เอาโครงการไปทำสัญญาทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ และไม่มีใบอนุญาตให้ใช้ในการพาณิชย์ โดยที่บริษัทดังกล่าวก็รู้กันดีว่า มีสายสัมพันธ์อันดีกับพรรคประชาธิปัตย์เสียด้วย

ไม่รู้ "จุติ ไกรฤกษ์"รมว.ไอซีที สะดุ้งหรือเปล่า ?
กรณ์ จาติกวณิช
ชวรัตน์ ชาญวีรกูล
สุเทพ เทือกสุบรรณ
จุติ ไกลฤกษ์
กำลังโหลดความคิดเห็น