นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ กรณีที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะจัดงบประมาณกลางปีเพิ่ม 1 แสนล้านบาท ว่า เป็นการจัดงบประมาณแบบมีวาระซ่อนเร้น เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง และต่อรองแบ่งปันงบประมาณกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่เคยใช้วิธีการบริหารงานโดยใช้ลักษณะต่อรอง หรือแบล็กเมล์ทางการเมือง ต่างจากยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีการบริหารงานในลักษณะการต่อรอง ข่มขู่ทางการเมืองตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องควบรวมพรรคการเมืองเพื่อบีบบังคับ ส.ส.เข้าสังกัดพรรคตัวเอง โดยใช้วิธีการนำเอาคดีความมาต่อรอง เพื่อให้หลุดพ้นจากคดีความ
ทั้งนี้ การที่กระทรวงการคลัง จัดเก็บรายได้เกินประมาณการที่กำหนดไว้ ก็เป็นเพราะความสามารถของรัฐบาลที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และการนำเงินจากการเก็บรายได้ทั้งหมดมาจัดทำงบประมาณกลางปี เพื่อแก้ปัญหาและนำไปฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งจะสามารถนำเงินงบประมาณมาชำระคืนเงินคงคลังในภายหลังได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคเพื่อไทยจะตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส ก็สามารถใช้สิทธิ์ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงความจำเป็นโดยอ้างว่ารัฐบาลจะหมดวาระในเวลาอีกไม่นานนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง เป็นผู้ดูแล รับผิดชอบในเรื่องการจัดทำงบประมาณ ก็ได้ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นให้ทราบมาแล้ว ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องชี้แจงเพิ่มเติมอีก และเชื่อว่าทุกฝ่ายย่อมเข้าใจในเหตุผลของรัฐบาล
ทั้งนี้ การที่กระทรวงการคลัง จัดเก็บรายได้เกินประมาณการที่กำหนดไว้ ก็เป็นเพราะความสามารถของรัฐบาลที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และการนำเงินจากการเก็บรายได้ทั้งหมดมาจัดทำงบประมาณกลางปี เพื่อแก้ปัญหาและนำไปฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งจะสามารถนำเงินงบประมาณมาชำระคืนเงินคงคลังในภายหลังได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคเพื่อไทยจะตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส ก็สามารถใช้สิทธิ์ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงความจำเป็นโดยอ้างว่ารัฐบาลจะหมดวาระในเวลาอีกไม่นานนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง เป็นผู้ดูแล รับผิดชอบในเรื่องการจัดทำงบประมาณ ก็ได้ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นให้ทราบมาแล้ว ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องชี้แจงเพิ่มเติมอีก และเชื่อว่าทุกฝ่ายย่อมเข้าใจในเหตุผลของรัฐบาล
