"เทพมนตรี" แฉข้าราชการกต.ใจเขมร ถึงขั้นเพ็ดทูล "ในหลวง" เมื่อตอนปี 2551 ว่าข้อสงวนสิทธิ์ในการทวงปราสาทพระวิหารหมดเวลาแล้ว ท้าฟ้องเลยจะได้เห็นดีกัน พร้อมจี้กต.ตีพิมพ์ภาคผนวก 2 เล่ม ที่นำไปสู้กับศาลโลกออกมาเผยแพร่ เพราะคนไทยควรได้รู้ว่าเอาเอกสารอะไรไปสู้เราถึงได้แพ้ทั้งๆที่ควรจะชนะ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ปาฐกถาโดย "อ.เทพมนตรี ลิมปพยอม"
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ กล่าวในเวทีสัมมนา "รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ถ่ายทอดทางสถานีเอเอสทีวี ทีวีของประชาชน จากโรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น โดยนายเทพมนตรีกล่าวว่า ข้อสงวนสิทธิ์ในการทวงปราสาทพระวิหารคืน ที่เราเคยไปสงวนไว้ที่สหประชาชาติ ปรากฎว่าเมื่อปี 2551 มีข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เพ็ดทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าขณะนี้กัมพูชากำลังทำแผนบริหารจัดการเพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แล้วยังเพ็ดทูลผ่านทางสำนักราชเลขาขาธิการด้วยว่าข้อสงวนสิทธิ์ที่เราเคยไปสงวนเอาไว้ที่สหประชาชาติมันหมดเวลาแล้ว
" ถ้ากระทรวงต่างประเทศจะฟ้องผม ฟ้องผมคนเดียวคนอื่นไม่เกี่ยว แต่ขอให้ฟ้อง จะได้เห็นดีกัน" นายเทพมนตรี กล่าว
นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า เวลานั้นหม่อมเสนีย์ ปราโมช ไปต่อสู้ที่ศาลโลก ซึ่งหม่อมเสนีย์ ปราโมช ก็สู้สุดชีวิตในการที่จะไปขึ้นศาลโลก และได้บอกให้จอมพลสฤษดิ์ ลงโทษ ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล ด้วย ตามมาตรา 17 ข้อหาเหมือนกับว่าไม่กล้าไปขึ้นศาลโลกกับกัมพูชา ก่อนออกจากกรุงเทพฯหม่อมเสนีย์ ปราโมช ก็ได้ไปหาร่างทรงพระเจ้าตากสินฯ ซึ่งตนก็ไม่เชื่อว่าเป็นพระเจ้าตากฯจริงหรอก และร่างทรงก็บอกว่าชนะ 1000% หม่อมเสนีย์ซึ่งมีความเชื่อเรื่องพวกนี้ ด้วยเหตุนี้เองจึงพร้อมใจไปที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เพื่อไปสู้กับศาลโลก
นายเทพมนตรียังกล่าวอีกว่า แปลกมากเวลากลับจากศาลโลกไทยเราพิมพ์แต่คำตัดสินออกเผยแพร่ แต่ไม่แปลเอกสารภาคผนวก ที่มี 2 เล่ม ซึ่งเก็บไว้ที่กรมสนธิสัญญา กระทรวงต่างประเทศ เพราะมันน่าสนใจกว่าคำตัดสิน มันเป็นเอกสารที่ทั้ง 2 ฝ่ายเอาเอกสารมาสู้กัน จะไม่พูดถึงกัมพูชาเพราะเขาไม่พิมพ์อยู่แล้ว แต่คนไทยควรมีโอกาสได้รู้ว่าเอกสารทั้งหลายที่เราเอาไปต่อสู้วันนั้นมันมีอะไร มันมีอะไรแพลมออกมาที่เราสรุปได้ว่าเราน่าจะสู้ได้ และสู้ได้มากด้วย แต่ทำไมเราแพ้
"ถ้าวัดกันโดยหลักฐาน กรณีสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จไปเขาพระวิหาร ศาลไม่ได้สั่งให้บริเวณรอบปราสาทเป็นของเขมร แต่นักวิชาการที่มีใจเขมร เอาแต่พฤติการณ์การเสด็จราชดำเนินของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพขึ้นไป แต่ไม่ยอมบอกเอกสารท้ายภาคผนวกว่าที่ กรมพระยาดำรงราชานุภาพไปวันนั้น ฝ่ายไทยสู้แบบไหน แต่นักวิชาการเลือกใช้หลักฐานให้คนไทยเข้าใจผิด รวมทั้งข้าราชการกระทรวงต่างประเทศบางกลุ่มด้วย ขอเรียกร้องวันนี้เลยให้เอาเอกสารภาคผนวกสองปึกมาเผยแพร่เพราะคนไทยควรจะได้รู้"นายเทพมนตรี กล่าว
กัมพูชาขอให้ศาลตัดสิน 5 ข้อ ซึ่งวันที่ตัดสินศาลแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสและใช้เวลาแปลเป็นอังกฤษ ตอนนั้นศ.ดร.สมปองก็ แปลเป็นไทย และสอบทานภาษาฝรั่งเศสด้วย เพราะท่านถนัดทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ แต่กระทรวงต่างประเทศดันไปจ้างฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แต่มีคุณสมบัติพิเศษคือเข้าข้างกระทรวงต่างประเทศนั่นคือเหตุผลที่เขาจ้าง
นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า การกลับมาจากศาลโลกกลับมาพร้อมกับเหตุผลที่จะมอบอธิปไตยให้กัมพูชา ศาลไม่ได้ยอมรับแผนที่นั้น คนที่กลับมาจากศาลคือคนที่นั่งฟังคำพิพากษาศาลโลก และศาลโลกให้เฉพาะตัวปราสาทจริงๆ แต่นักวิชาการที่เข้าข้างกระทรวงต่างประเทศเวลานี้ดันไปเอาข้อที่ศาลให้ถอนทหารและตำรวจออกจากอาณาบริเวณที่เป็นดินแดนของกัมพูชา เอาไปรวมกับข้อที่ศาลตัดสินให้อธิปไตยตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ทำให้ดูว่าศาลให้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นของกัมพูชาไปด้วย
ไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้นที่จะเอาอาณาบริเวณนั้นแต่กระทรวงต่างประเทศที่มีอำนาจเชื่อถือได้ก็ปันใจให้กัมพูชาด้วย เวลาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเลยง่าย และแยบยลเหมือนว่าคนไทยทั้งประเทศกินแต่หญ้า โดยการไปขอให้กัมพูชาขึ้นเฉพาะตัวปราสาทก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเอาพื้นที่โดยรอบไป นี่คือเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศ
"เวลานั้นท่านถนัด คอมันตร์ ได้ทำข้อสงวนสิทธิ์ทวงปราสาทพระวิหารคืน โดยระบุว่ารัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกปราสาทพระวิหารคืนในอนาคต ที่น่าสนใจกว่านั้นคือนายอภิสิทธิ์ ที่เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านได้อภิปรายนายสมัคร โดยบอกว่าข้อสงวนที่ว่านี้ยังคงอยู่ และหากมีรัฐบาลในอนาคตอาจจะใช้ข้อสงวนสิทธิ์นี้ แล้วมาบัดนี้ตัวเองเป็นนายกฯยังสงสัยว่าเหมือนกับถ้อยคำ ที่ท่านถนัด เขียนไปหรือไม่ว่ารัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าท่านเป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าท่านแน่จริง สั่งทหารขึ้นไปยึดปราสาทพระวิหารพรุ่งนี้เลย"นายเทพมนตรี กล่าว
นายเทพมนตรีกล่าวต่ออีกว่า เสียดายมากที่นายกฯพูดแบบไม่รับผิดชอบ ท่านนายกฯตระบัดสัตย์ สิ่งที่ตนสะเทือนใจอีกอันคือหลอกชาวบ้านสระแก้วว่าจะคืนที่ดิน ที่มีโฉนดอยู่แล้วแต่ถูกกัมพูชาเข้ามายึด ตนก็นึกสะอิดสะเอียน ท่านไปหลอกชาวบ้านเพียงเพื่อผัดวันประกันพรุ่งไป เพราะท่านจะทำไม่ได้เลยนอกจากสั่งกองกำลังบูรพาไล่พวกกัมพูชาออกไป ปัจจุบันก็คือหมู่บ้านโจกเจีย นั่นก็คือที่ 7 คน ถูกจับนั่นแหละ ที่ท่านไปรับปากว่าจะเอาคืนเขา
นายเทพมนตรีกล่าวว่า ขอพูดถึงยูเนสโก้หน่อย มติที่ 31 บอกว่ากัมพูชาต้องให้ไทยเห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่นายนพดลไปทำจอยท์คอมมูนิเก ศาลปกครองสั่งไม่ให้ใช้ เราทำหนังสือไปบอกว่าไม่ให้ใช้ แต่กรรมการมรดกโลก 21 ชาตินั้นมันเข้าข้างกัมพูชา เลยให้ขึ้นทะเบียนไปเฉพาะตัวปราสาท แล้วยังมาเขียนคำหวานว่าให้ไทยมาร่วมกับ 7 ชาติสิ แล้ว สก อาน จะมาเมืองไทยกุมภาพันธ์ เราจะไปต้นรับ สก อาน ด้วยกัน อย่างน้อยๆเรามี 3 พันคน ไปล้อมมันทุกวัน ไปชูป้ายมันทุกวัน