กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์จี้รัฐบาลปกป้องสิทธิ 7 คนไทย ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุม ชี้ ต้องได้สิทธิประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี ทั้งควรได้รับสิทธิพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย เป็นธรรม พร้อมเร่งให้รัฐหาข้อยุติปัญหาเขตแดน หวั่นปัญหาขยายวงกว้าง
วันนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์กรณี 7 คนไทย ถูกทหารกัมพูชาจับกุมบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า เป็นกรณีที่สาธารณชนให้ความสนใจอย่างมาก และต้องการให้มีการตรวจสอบ หรือแสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ ประกอบกับคณะกรรมการสิทธิฯได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว โดยขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิทักษ์สิทธิของคนไทยทั้ง 7 คน และดำเนินการให้รัฐบาลหรือกระทรวงการต่างประเทศพิทักษ์สิทธิคนไทยทั้ง 7 คนนั้น เห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นมีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง เพราะส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลและประชาชนทั้งของประเทศไทยและกัมพูชาโดยทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น 1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรอบคอบ และปกป้องสิทธิและเสรีภาพของคนไทยทั้ง 7 คนตามหลักสิทธิมนุษยชน ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองอย่างเคร่งครัด เนื่องจากความไม่ชัดเจนของแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ย่อมมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในการเดินทางโดยเสรีของบุคคล ในการประกอบอาชีพ และสิทธิในทรัพย์สินของประชาชนไทย-กัมพูชา ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
2.คณะกรรมการสิทธิฯขอแสดงความห่วงใยต่อคนไทยทั้ง 7คน ที่ถูกจับกุมบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจังในการทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งระหว่างรอการพิสูจน์และรับรองแนวเขตแดนโดยทั้งสองฝ่าย ขอให้รีบส่งคนไทยทั้ง 7 คนกลับประเทศไทยโดยเร็ว ในระหว่างการดำเนินการ ขอให้รัฐบาลดูแลให้คนไทยทั้ง 7 คน ได้รับการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง อาทิ สิทธิในการได้รับการประกันตัวในระหว่างการพิจารณาคดี สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม สิทธิที่จะได้รับความสะดวกเพียงพอแก่การเตรียมการในการต่อสู้คดี และติดต่อทนายความที่ตนเลือกได้ สิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีโดยไม่ชักช้าเกินความจำเป็น ตลอดจนการอำนวยความช่วยเหลือ เช่น ล่าม เป็นต้น
3.ขอให้รัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งการดำเนินการเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับข้อพิพาทเขตแดนไทย-กัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้ปัญหาขยายวงกว้าง อันจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาระหว่างกัน และส่งผลกระทบต่อสิทธิในการดำรงชีวิตอย่างปกติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยและกัมพูชา และ 4.คณะกรรมการสิทธิฯขอย้ำถึงเจตนารมณ์ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ที่มุ่งประสงค์ให้รัฐบาลประเทศต่างๆ พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และร่วมมือกันในการส่งเสริมให้มีการเคารพสิทธิมนุษยชน อันเป็นรากฐานของเสรีภาพ ความเป็นธรรม และสันติภาพ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสิทธิฯให้ความสำคัญในกรณีดังกล่าว และจะดำเนินการ ติดตาม ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และความคืบหน้าในการดำเนินการของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งรายงานให้สาธารณชนทราบเป็นระยะๆ ต่อไป
วันนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์กรณี 7 คนไทย ถูกทหารกัมพูชาจับกุมบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า เป็นกรณีที่สาธารณชนให้ความสนใจอย่างมาก และต้องการให้มีการตรวจสอบ หรือแสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ ประกอบกับคณะกรรมการสิทธิฯได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว โดยขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิทักษ์สิทธิของคนไทยทั้ง 7 คน และดำเนินการให้รัฐบาลหรือกระทรวงการต่างประเทศพิทักษ์สิทธิคนไทยทั้ง 7 คนนั้น เห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นมีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง เพราะส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลและประชาชนทั้งของประเทศไทยและกัมพูชาโดยทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น 1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรอบคอบ และปกป้องสิทธิและเสรีภาพของคนไทยทั้ง 7 คนตามหลักสิทธิมนุษยชน ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองอย่างเคร่งครัด เนื่องจากความไม่ชัดเจนของแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ย่อมมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในการเดินทางโดยเสรีของบุคคล ในการประกอบอาชีพ และสิทธิในทรัพย์สินของประชาชนไทย-กัมพูชา ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
2.คณะกรรมการสิทธิฯขอแสดงความห่วงใยต่อคนไทยทั้ง 7คน ที่ถูกจับกุมบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจังในการทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งระหว่างรอการพิสูจน์และรับรองแนวเขตแดนโดยทั้งสองฝ่าย ขอให้รีบส่งคนไทยทั้ง 7 คนกลับประเทศไทยโดยเร็ว ในระหว่างการดำเนินการ ขอให้รัฐบาลดูแลให้คนไทยทั้ง 7 คน ได้รับการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง อาทิ สิทธิในการได้รับการประกันตัวในระหว่างการพิจารณาคดี สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม สิทธิที่จะได้รับความสะดวกเพียงพอแก่การเตรียมการในการต่อสู้คดี และติดต่อทนายความที่ตนเลือกได้ สิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีโดยไม่ชักช้าเกินความจำเป็น ตลอดจนการอำนวยความช่วยเหลือ เช่น ล่าม เป็นต้น
3.ขอให้รัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งการดำเนินการเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับข้อพิพาทเขตแดนไทย-กัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้ปัญหาขยายวงกว้าง อันจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาระหว่างกัน และส่งผลกระทบต่อสิทธิในการดำรงชีวิตอย่างปกติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยและกัมพูชา และ 4.คณะกรรมการสิทธิฯขอย้ำถึงเจตนารมณ์ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ที่มุ่งประสงค์ให้รัฐบาลประเทศต่างๆ พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และร่วมมือกันในการส่งเสริมให้มีการเคารพสิทธิมนุษยชน อันเป็นรากฐานของเสรีภาพ ความเป็นธรรม และสันติภาพ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสิทธิฯให้ความสำคัญในกรณีดังกล่าว และจะดำเนินการ ติดตาม ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และความคืบหน้าในการดำเนินการของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งรายงานให้สาธารณชนทราบเป็นระยะๆ ต่อไป