“มาร์ค” นั่งหัวโต๊ะ ครม.ถกช่วย 7 คนไทยที่ถูกเขมรควบคุมตัว ขณะที่ สศช.เสนอหนังสือรายงานกรอบการใช้งบฯ และกระจายความรับผิดชอบแก้หน่วยงานต่างๆ ตามแผนปฏิรูปประเทศไทย 4 ด้าน ส่วนพาณิชย์ต้องเคลียร์ปัญหาผู้ผลิต ผู้ค้าน้ำมันปาล์มกักตุนสินค้า
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (11 ม.ค.) ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมประเด็นที่น่าติดตาม คือ มาตรการการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมฐานรุกล้ำเขตแดน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้เชิญนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมฝ่ายความมั่นคงเข้าหารือแนวทางช่วยเหลือเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) หลังพบว่าสถานการณ์การช่วยเหลือไม่สู้ดีนัก โดยนายอภิสิทธิ์จะนำผลการหารือเข้าที่ประชุม ครม.
นอกจากนี้ยังมีวาระสำคัญที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอหนังสือรวมเล่มแผนปฏิรูปประเทศไทย 4 ด้านต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรายงานกรอบการใช้งบประมาณและกระจายความรับผิดชอบแก่หน่วยงานต่างๆ โดยแผนปฏิรูปประเทศไทย 4 ด้าน คือ 1.การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและขยายระบบสวัสดิการชุมชน 2.การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 3.การสร้างอนาคตของชาติ ด้วยการพัฒนาคน เด็กและเยาวชน และ 4.นโยบาย “ปฏิบัติการร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย” ในส่วนของกระบวนการประชาวิวัฒน์กับปัญหา 9 ประกาศ (นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เป็นประธาน)
ด้าน กระทรวงพาณิชย์ จะรายงาน ครม.ถึงการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวด (ลิตร) จากลิตรละ 38 บาท เป็น 47 บาท หรือปรับเพิ่มลิตรละ 9 บาท แต่ปรากฏว่าประชาชนยังประสบกับความขาดแคลนทั้งที่กระทรวงพาณิชย์ทราบดีว่า ผู้ผลิตผู้ค้ารายใดทำการกักตุน แต่กลับไม่ยอมดำเนินการทางกฎหมาย
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข เสนอแก้ไขกฎหมายจากเดิมที่ห้ามขายบุหรี่ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เตรียมยื่นแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางซึ่งเป็นโครงการใหม่ จำนวน12-13 โครงการ รวม 5,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท