คณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร ประชุมวาระด่วนกรณี 7 คนไทยเจอเขมรจับ “อิทธิเดช” ยันเอ็มโอยู 43 ระบุชัดเป็นพื้นที่โดยชอบของ 2 ชาติระหว่างขั้นตอนปักปันเขตแดน จี้นายกฯ รีบปักเขตโดยด่วน หวังเขมรรีบปล่อยตัวคนไทย
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกมธ. เป็นประธานในการประชุม หลังจากการพิจารณาในวาระอื่นๆ ไปแล้ว นายชุติเดช ปีวิเศษกุลเดช เลขานุการประจำกมธ.ได้เสนอญัตติด่วนจากกรณีที่คนไทย 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับกุมในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง เพื่อขอหารือในที่ประชุม โดยเสนอว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควรเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และกรมแผนที่ทหาร เพื่อให้เข้าชี้แจงกรณีการปักปันเขตแดน เพื่อให้รู้หลักเขตแดนว่าอยู่ที่ใด เพราะที่ผ่านมาทหารพรานไทยได้จับกุมประชาชนกัมพูชาอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทหารกัมพูชาก็ได้จับกุมคนไทยด้วยเช่นกัน
ด้าน นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคมาตุภูมิ ในฐานะรองประธาน กมธ.กล่าวว่า ตนสนับสนุนญัตติของนายชุติเดช เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการที่ไทยและกัมพูชายังไม่มีการปักปันเขตแดน ทั้งนี้ ประชาชนกัมพูชาและไทยที่อยู่ในพื้นที่ในเขตชายแดนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด
ด้าน นายอิทธิเดชกล่าวว่า ที่ผ่านมานายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยรักชาติ ได้ถูกจับกุมไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย.ปี 53 ซึ่งก็ได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ในครั้งนี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก สาเหตุที่เกิดการจับกุมก็เพราะไทยและกัมพูชามีเขตพื้นที่ทับซ้อนกันถึง 13 จุด ซึ่งทับซ้อนในเขตจังหวัดสระแก้ว 10 จุด แม้ว่าจะมีบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการการจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU43 ที่จะช่วยให้ความชัดเจนในเรื่องของการปักปันเขตแดนที่มีการตั้งกรรมาธิการร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาแล้ว แต่ก็ต้องยุติลงเนื่องจากเกิดปัญหาข้อพิพาทกรณีเขาพระวิหาร จึงทำให้การประชุมร่วม กมธ.ระหว่างไทย-กัมพูชาต้องยุติลง
“ในข้อตกลง MOU43 มีเนื้อบางข้อหาระบุว่า ในกรณีที่ยังไม่มีการตกลงเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกัมพูชาของ กมธ.ร่วม จะให้สิทธิฝั่งไทยและกัมพูชาที่ครอบครองพื้นที่ทับซ้อนโดยชอบ ซึ่งหากยังไม่มีข้อตกลงการปักปันชายแดนที่ชัดเจนออกมาก็จะไม่มีใครสามารถเข้าไปชี้จุดได้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นของไทยหรือกัมพูชาบ้าง และผมเชื่อว่า MOU 43 จะเป็นข้อตกลงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ ดังนั้นจึงขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้มีการเจรจาเรื่องการปักปันเขตแดนโดยด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในส่วนกรณีที่คนไทยถูกควบคุมตัวอยู่นั้น ผมรู้สึกเป็นกังวล แต่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยซึ่งทางการกัมพูชาน่าจะปล่อยพี่น้องชาวไทยออกมา จึงขอเป็นกำลังใจให้คนไทยที่ถูกจับกุมให้ได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว” นายอิทธิเดชกล่าว
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกมธ. เป็นประธานในการประชุม หลังจากการพิจารณาในวาระอื่นๆ ไปแล้ว นายชุติเดช ปีวิเศษกุลเดช เลขานุการประจำกมธ.ได้เสนอญัตติด่วนจากกรณีที่คนไทย 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับกุมในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง เพื่อขอหารือในที่ประชุม โดยเสนอว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควรเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และกรมแผนที่ทหาร เพื่อให้เข้าชี้แจงกรณีการปักปันเขตแดน เพื่อให้รู้หลักเขตแดนว่าอยู่ที่ใด เพราะที่ผ่านมาทหารพรานไทยได้จับกุมประชาชนกัมพูชาอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทหารกัมพูชาก็ได้จับกุมคนไทยด้วยเช่นกัน
ด้าน นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคมาตุภูมิ ในฐานะรองประธาน กมธ.กล่าวว่า ตนสนับสนุนญัตติของนายชุติเดช เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการที่ไทยและกัมพูชายังไม่มีการปักปันเขตแดน ทั้งนี้ ประชาชนกัมพูชาและไทยที่อยู่ในพื้นที่ในเขตชายแดนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด
ด้าน นายอิทธิเดชกล่าวว่า ที่ผ่านมานายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยรักชาติ ได้ถูกจับกุมไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย.ปี 53 ซึ่งก็ได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ในครั้งนี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก สาเหตุที่เกิดการจับกุมก็เพราะไทยและกัมพูชามีเขตพื้นที่ทับซ้อนกันถึง 13 จุด ซึ่งทับซ้อนในเขตจังหวัดสระแก้ว 10 จุด แม้ว่าจะมีบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการการจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU43 ที่จะช่วยให้ความชัดเจนในเรื่องของการปักปันเขตแดนที่มีการตั้งกรรมาธิการร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาแล้ว แต่ก็ต้องยุติลงเนื่องจากเกิดปัญหาข้อพิพาทกรณีเขาพระวิหาร จึงทำให้การประชุมร่วม กมธ.ระหว่างไทย-กัมพูชาต้องยุติลง
“ในข้อตกลง MOU43 มีเนื้อบางข้อหาระบุว่า ในกรณีที่ยังไม่มีการตกลงเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกัมพูชาของ กมธ.ร่วม จะให้สิทธิฝั่งไทยและกัมพูชาที่ครอบครองพื้นที่ทับซ้อนโดยชอบ ซึ่งหากยังไม่มีข้อตกลงการปักปันชายแดนที่ชัดเจนออกมาก็จะไม่มีใครสามารถเข้าไปชี้จุดได้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นของไทยหรือกัมพูชาบ้าง และผมเชื่อว่า MOU 43 จะเป็นข้อตกลงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ ดังนั้นจึงขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้มีการเจรจาเรื่องการปักปันเขตแดนโดยด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในส่วนกรณีที่คนไทยถูกควบคุมตัวอยู่นั้น ผมรู้สึกเป็นกังวล แต่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยซึ่งทางการกัมพูชาน่าจะปล่อยพี่น้องชาวไทยออกมา จึงขอเป็นกำลังใจให้คนไทยที่ถูกจับกุมให้ได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว” นายอิทธิเดชกล่าว