xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.ไล่ชาวสระแก้วถามกรมที่ดินหลังเขมรยึดที่นา ยังไม่เพิ่มกำลังชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (แฟ้มภาพ)
โฆษก ทบ.ยันกองทัพยังไม่เพิ่มกำลังริมชายแดน แต่อาจปรับกำลังบ้าง ชี้ สัมพันธ์ทหาร 2 ชาติ ยังดีอยู่ อ้างตามตัวทีม “พนิช” กลับแล้วแต่ดื้อ ยันกองทัพพยายามช่วยแล้วเผย “ประยุทธ์” ให้รอดูกระบวนการยุติธรรมก่อน รับยังไม่มีข้อมูลชัดโดนจับตรงไหน แต่คาดใกล้พื้นที่พิพาทราว 50 เมตร ไล่ชาวบ้านถามกรมที่ดินเรื่องเอกสารสิทธิ ชี้ยังไม่รับรองว่าอยู่จุดไหนของโลก


วันนี้ (5 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเพิ่มเติมกำลังแต่อย่างใด เพราะความสัมพันธ์ระหว่างทหารของกัมพูชากับกองกำลังบูรพา มีการติดต่อประสานงานที่ดีกันอยู่เหมือนเดิม แต่คงมีการปรับขยับกำลังบ้างเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยไม่ได้ซีเรียสอะไร ส่วนเหตุการณ์ที่ 7 คนไทยถูกทางกัมพูชาจับกุมตัวไปนั้น เราได้พยายามแจ้งและตามกลับมา แต่ปรากฏว่า ท่านยังเดินไปยังพื้นที่ที่เกิดเหตุ แต่เราไม่ได้ต่อว่า ใครถูก ใครผิด วันนี้ถือเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียนด้วยกันทุกฝ่ายว่าในการติดต่อทำอะไรก็แล้วแต่ในพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาจะต้องมีการติดต่อประสานงานกันให้ดี หากกองกำลังของเรามีการรับทราบข้อมูล และมีการติดต่อไปยังกองกำลังของกัมพูชาว่าจะมีการเข้าไปดูพื้นที่เพื่อจุดประสงค์ในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินคงไม่มีปัญหาอะไร

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุคนไทยถูกจับไป ผู้บังคับหน่วยทุกระดับของทหารในทุกพื้นที่ตั้งแต่ ผบ.กองร้อย ผบ.พัน ผบ.กองกำลังบูรพา ผบ.ทบ.จนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทุกคนพยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาตลอด เพื่อหาทางช่วยเหลือ แต่จะเห็นว่า ทางกัมพูชาส่งคนไทยลงไปในพื้นที่ส่วนหลังค่อนข้างเร็ว ทำให้เกินขีดความสามารถของกองทัพเพียงลำพังที่จะติดต่อประสานงานต่อไปได้ ขณะนี้ต้องรอดูกระบวนการยุติธรรมของเขาต่อไป อยากให้ทุกฝ่ายอดทนและรอกระบวนการ การสร้างแรงกดดันด้วยวิธีการต่างๆ อาจทำให้การช่วยเหลือคนไทยให้กลับมาด้วยความยากลำบากมากขึ้น แต่กรณีที่กลุ่มต่างๆ จะเข้าไปในพื้นที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน คือ ต้องยื่นความประสงค์กับหน่วยงานฝ่ายปกครอง คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อแจ้งมายังกองกำลังที่ดูแลชายแดน และทำเรื่องตามขั้นตอนจนถึง รมว.กลาโหม ว่า อนุญาตหรือไม่ อย่างไร แต่ถ้าเป็นไปได้คงเข้าไปเฉพาะผู้แทนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่ที่คนไทยถูกจับกุมนั้น ตนยังไม่มีข้อมูลว่า เป็นพื้นที่ตรงไหนแน่ แต่น่าจะอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่แนวเขตพิพาทน่าจะอยู่ประมาณหน้า ซุ้มประตูวัดโจกเจีย น่าจะประมาณ 50-55 เมตรจากแนวพิพาท ซึ่งการจะวัดพิกัดให้แน่ชัดก็ต้องดูประกอบกับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 5 หมื่น

"ส่วนเรื่องแผนที่ในมาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนนั้น นำมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่เกิดปัญหาได้น้อย แต่พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารใช้ประโยชน์ได้มาก เพราะมีแนวเส้นเขตที่เห็นชัดเจน เช่น แนวสันปันน้ำ ทำให้ดูออกง่ายและชัดเจน แต่หากเป็นพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินต่อแผ่นดิน และปักปันด้วยหมุดเขต แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนจะดูยาก เพราะขนาดของแผนที่มีมาตราส่วนที่ใหญ่ เพราะ 1 มิลลิเมตร เท่ากับ 200 เมตรในภูมิประเทศจริง ทำให้มองแทบไมออก ทางไทยจึงพยายามยึดมาตราส่วน 1 ต่อ 5 หมื่น คือ 2 ซม.ในแผนที่เท่ากับ 1 กม.ในภูมิประเทศจริง ส่วนเรื่องเอกสารสิทธิ์ควรถามทางกรมที่ดินจะดีกว่า ส่วนเอกสารที่มีปัญหาไม่ว่า จะเป็น ส.ค.1 หรือ น.ส.3 นั้น เป็นเอกสารที่ยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการว่า จุดตรงนั้นอยู่ตรงไหนบนผืนโลก" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เล่าถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความต่างๆ ท่านบอกว่า ต้องรอกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกัน ทุกหน่วยงานทั้งทหาร ฝ่ายความมั่นคง ภาคพลเรือน จะช่วยติดต่อประสานงาน ทั้งทางการและส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ได้ จากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เล่าให้ฟังประกอบกับข้อมูลที่มีอยู่พบว่า ไม่ได้เป็นความตั้งใจของกลุ่มบุคคลดังกล่าว อาจจะไม่รู้ว่าเลยเขตแล้วหรือยัง จากเดิมจะมีลวดหนามอยู่ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว แต่จะมีหลักเขตปักอยู่กับแนวเส้นเขตและพื้นที่แม็กซิมัมเคลม คือ พื้นที่ที่ต่างคนต่างอ้างซึ่งทำให้ดูลำบาก

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเครือข่ายคนไทยรักชาติ เดินทางไปชุมนุมที่ใกล้ชายแดนมาก ว่า ผบ.ทบ.ให้นโยบายไปว่า ต้องชี้แจงทำความเข้าใจร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเพื่อทำความเข้าใจใน 2 ประเด็น คือ คนในพื้นที่ กับคนที่ไปแสดงความคิดเห็นจะทะเลาะและปะทะกันไม่ได้ ต้องไม่ให้คนไทยทะเลาะกัน ประเด็นที่ 2 คือ การแสดงความคิดเห็นในพื้นที่สามารถทำได้ในกรอบของกฎหมาย แต่ต้องควบคุมวิธีการปฏิบัติให้ดีและเหมาะสมพอควร เพื่อไม่ทำให้เกิดแรงกดดันจนทำให้กระบวนการช่วยเหลือคนไทยยากขึ้นไปกว่าเดิม โดย พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ.ได้รับนโยบายไปแล้ว ส่วนกำลังในบริเวณบ้านหนองจาน ฉก.ตชด.12 ยังคงดูแลเป็นปกติ ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน และขึ้นควบคุมทางยุทธการกับกองกำลังบูรพา ดังนั้น แนวทางการปฏิบัติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น