เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ยื่นหนังสือถึง “มาร์ค” ผ่านผู้ว่าฯสระแก้ว

สระแก้ว -กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ยื่นหนังสือถึง “มาร์ค” ผ่านผู้ว่าฯสระแก้ว เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หลัง 7 คนไทยถูกทหารเขมรจับกุมในราชอาณาจักรไทย พร้อมขอให้แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโดยด่วน

บ่ายวันนี้ (4 ม.ค.) ที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ อำเภออรัญ จังหวัดสระแก้ว ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ประกอบด้วย ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, ดร.มาลีรัฎฐ์ เอี่ยวสกุล, นายสุนทร รักษ์รงค์ และ นายทศพล แก้วทิมา ได้ยื่นหนังสือผ่าน นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 ถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่อง การสูญเสียดินแดนของราชอาณาจักรไทย

ข้อความในหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหา ดังนี้ คือ นับตั้งแต่ได้มีบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก( MOU) ปี 2543 และข้อกำหนดอำนาจหน้าที่และแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรไทย กับราชอาณาจักรกัมพูชา (TOR) ปี 2546

จึงก่อให้เกิดกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา และบันทึกการประชุม ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และบันทึกการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อันเป็นสัญญาหรือสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ผูกพันราชอาณาจักรไทย จำนวนหลายฉบับ ทั้งที่ได้ผ่านมติของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาแล้ว และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีกหลายฉบับ

ผลของสัญญาหรือสนธิสัญญาดังกล่าว ทำให้ราชอาณาจักรไทยต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยดินแดนและผลประโยชน์จำนวนมากมายมหาศาลอันประมาณค่ามิได้

โดยเฉพาะกรณีในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ที่มีราษฎรหลายรายร้องทุกข์ ว่า ที่ดินของตนมีเอกสารเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) หรือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) หรือใบจอง (น.ส.2) หรือแบบแจ้งการครอบครองทำประโยชน์ชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) เคยทำประโยชน์เรื่อยมาและตกทอดเป็นมรดก แต่มาบัดนี้ไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ได้ รวมทั้งได้ยื่นคำร้องขอออกโฉนดที่ดิน ปรากฏว่า เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่า ไม่สามารถเข้าไปทำการรังวัดที่ดินให้ได้ เพราะที่ดินดังกล่าวนั้นทหารกัมพูชาได้ยึดถือครอบครองเป็นของราชอาณาจักรกัมพูชาเสียแล้ว

ล่าสุด 7 คนไทย ประกอบด้วย นายวีระ สมความคิด เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ พร้อมด้วย นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพฯ และกรรมาธิการรัฐสภา และพวกอีก 5 คน เพื่อเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ในที่ดิน น.ส.3 ของ นายเบ พูลสุข ที่ระบุว่า ที่ดิน ซึ่งทิศใต้จดหลักเขตแดนประเทศกัมพูชา หลักเขตที่ 46 ระหว่างที่จะเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว ได้มีกองกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาจับกุม 7 คนไทยดังกล่าวไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครผิดใครถูก ดังนั้น ควรจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย 1.เจ้าพนักงานที่ดิน, ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย, ผู้แทนกระทรวงกลาโหม, ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญ 2.ตัวแทนภาคประชาชน เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในพื้นที่บริเวณหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา หลักที่ 45-47 เพื่อประโยชน์แห่งความถูกต้อง ยุติธรรม น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากยื่นหนังสือแล้ว กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ต้องการที่จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่หลักที่ 46 อีกครั้ง หลังจากที่ช่วงของวันนี้ได้เดินทางไปแล้ว นำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แต่เดินทางไปไม่ถึง โดยได้มีการเจรจากับ นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 และผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา โดยใช้เวลาเจรจานานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้

ทั้งนี้ เนื่องจากหน่วยงานทางภาครัฐเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเป็นปัญหาระหว่าง 2 ประเทศ ดังนั้น ควรให้กระทรวงการต่างประเทศ เข้ามาดูแลและรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางกลุ่มตัวแทนดังกล่าวสร้างความไม่พอใจและโต้เถียงกันอยู่ในเวลานี้ และคาดว่า ในวันนี้อาจจะไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้