สระแก้ว - ปธ.หอฯ สระแก้ว หวั่นการประท้วงเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทยบานปลายจนกระทบแผนเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่และการค้าบริเวณตลาดโรงเกลือที่กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบทั้งจากปัญหาน้ำท่วมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในช่วงกลางปี ขอร้องกลุ่มผู้ประท้วงและคัดค้านอย่าใช้ความรุนแรง
นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว เผยถึงการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ บริเวณแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทยที่ถูกตั้งข้อหาบุกรุกเขตแดนกัมพูชาว่า หากยังยืดเยื้อคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน และการค้าบริเวณตลาดโรงเกลือที่กำลังกลับมาคึกคัก หลังจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบทั้งจากปัญหาน้ำท่วม และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตั้งแต่ช่วงกลางปี
ขณะเดียวกัน หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดสระแก้ว ก็พยายามป้องกันที่จะไม่ให้เกิดภาพการปะทะกันเอง ระหว่างกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติที่เดินทางมาร่วมชุมนุมและกลุ่มประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้มีการชุมนุมบริเวณชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีขึ้นระหว่างคนไทยด้วยกัน
“ผมในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการปกป้องแผ่นดินไทย แต่อยากวอนให้กลุ่มผู้มาร่วมชุมนุมศึกษาพื้นที่บริเวณชายแดนให้แน่ชัด เพราะขณะนี้ก็ยังไม่มีใครระบุได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของใคร ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนไทยตกเป็นเครื่องมือของผู้สูญเสียผลประโยชน์ เพราะขณะนี้ที่ดินบริเวณสระแก้วมีราคาสูงขึ้นเกือบ 100% จากนโยบายการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม ก็เลยอยากให้ทุกฝ่ายศึกษาข้อมูลให้แน่ชัดก่อน”
นายบำรุงยังเผยอีกว่า ตนและประชาชนจำนวนมากในจังหวัดสระแก้วสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มาโดยตลอดเพราะเห็นว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องในการปกป้องดินแดนของชาติ แต่จากการเข้าไปของกลุ่มคนไทย 7 คน เป็นการเคลื่อนไหวของคนเพียงกลุ่มเดียวที่ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของที่ดิน โดยไม่ใช่การดำเนินงานของกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยขณะนี้ยังไม่มีการตรวจสอบพื้นที่ที่ชัดเจน จึงฝากวอนไปยังผู้ร่วมชุมนุมว่าให้ศึกษาพื้นที่ให้ชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ราคาที่ดินของจังหวัดสระแก้วไม่เพียงเปรียบได้กับราคาทองคำเท่านั้น แต่ปัจจุบันขยับขึ้นไปสูงถึงระดับเพชรแล้ว
นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว เผยถึงการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ บริเวณแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทยที่ถูกตั้งข้อหาบุกรุกเขตแดนกัมพูชาว่า หากยังยืดเยื้อคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน และการค้าบริเวณตลาดโรงเกลือที่กำลังกลับมาคึกคัก หลังจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบทั้งจากปัญหาน้ำท่วม และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตั้งแต่ช่วงกลางปี
ขณะเดียวกัน หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดสระแก้ว ก็พยายามป้องกันที่จะไม่ให้เกิดภาพการปะทะกันเอง ระหว่างกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติที่เดินทางมาร่วมชุมนุมและกลุ่มประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้มีการชุมนุมบริเวณชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีขึ้นระหว่างคนไทยด้วยกัน
“ผมในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการปกป้องแผ่นดินไทย แต่อยากวอนให้กลุ่มผู้มาร่วมชุมนุมศึกษาพื้นที่บริเวณชายแดนให้แน่ชัด เพราะขณะนี้ก็ยังไม่มีใครระบุได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของใคร ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนไทยตกเป็นเครื่องมือของผู้สูญเสียผลประโยชน์ เพราะขณะนี้ที่ดินบริเวณสระแก้วมีราคาสูงขึ้นเกือบ 100% จากนโยบายการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม ก็เลยอยากให้ทุกฝ่ายศึกษาข้อมูลให้แน่ชัดก่อน”
นายบำรุงยังเผยอีกว่า ตนและประชาชนจำนวนมากในจังหวัดสระแก้วสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มาโดยตลอดเพราะเห็นว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องในการปกป้องดินแดนของชาติ แต่จากการเข้าไปของกลุ่มคนไทย 7 คน เป็นการเคลื่อนไหวของคนเพียงกลุ่มเดียวที่ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของที่ดิน โดยไม่ใช่การดำเนินงานของกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยขณะนี้ยังไม่มีการตรวจสอบพื้นที่ที่ชัดเจน จึงฝากวอนไปยังผู้ร่วมชุมนุมว่าให้ศึกษาพื้นที่ให้ชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ราคาที่ดินของจังหวัดสระแก้วไม่เพียงเปรียบได้กับราคาทองคำเท่านั้น แต่ปัจจุบันขยับขึ้นไปสูงถึงระดับเพชรแล้ว