xs
xsm
sm
md
lg

เปลือยไพร่ตัวแม่ “วิระยา ชวกุล”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

วิระยา ชวกุล

กลางดึกของคืนวันอาทิตย์ (14 มี.ค.) ต่อวันจันทร์ (15 มี.ค.) ถือเป็นการเปิดตัว “ไพร่ตัวแม่”ไพร่ไฮโซ” ไพร่ยุคใหม่” “ไพร่ศักดินา” หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่หลายคนอาจจะเรียกภายหลังนั้น

“วิระยา ชวกุล” ซึ่งมีชื่อนำหน้าว่า “ท่านผู้หญิง” ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ที่ก่อนหน้านั้นมีเพียงข่าวว่าสนับสนุนคนเสื้อแดงอยูไกล ๆ แต่มีความใกล้ชิดกับ นช.ทักษิณ ชินวัตร มายาวนานถึงขั้นมีข่าวลือว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าปกติ

การเปิดตัวเพื่อ"ส่งน้ำเลี้ยง"ให้กำลังใจคนเสื้อแดงที่เวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ที่มีแกนนำอย่าง “วีระ มุสิกพงศ์"ให้การต้อนรับด้วยสายตาหวานซึ้ง และรอยยิ้มที่หวานหยดย้อย

ขณะที่สามทุ่มวันต่อมา (15 มี.ค.) “ไพร่ไฮโซ” ตัดสินใจขึ้นเวทีคนเสื้อแดง หลังจากการโฟนอินของ "ไพร่ตัวพ่อ” ตลอดเวลาประมาณ 10 นาที หล่อนเชื่อมั่นว่า “นช.ทักษิณ และคนเสื้อแดง” มาชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ และจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์

“พี่ปลื้มใจมากนะคะที่ได้รับการต้อนรับอบอุ่นแบบนี้ พี่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ทำแต่การกุศล แต่ก็ยังโดนลูกหลง วันนี้หลายคนคงเห็นข่าวที่ออกเกี่ยวกับพี่ มีคนโทรมาบอก พี่ไม่สนใจ ไม่อยากรับทราบ เชื่อว่าถ้าใครชอบพี่เขาก็ไม่เชื่อ ถ้าใครไม่ชอบก็เชื่อก็ช่างเขา พี่มาวันนี้อยากมาเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน ปลื้มใจที่เห็นทุกคนรักกัน มีความเสียสละ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทุกคนที่มาเชื่อว่าทำด้วยใจสมัคร ทำเพื่อประเทศชาติราชบัลลังก์เท่านั้น พี่โดนกล่าวหาว่าได้รับผลประโยชน์ร่วมกับทักษิณ จริงๆ แล้วพี่รวยกว่าคุณทักษิณนะคะ ลูกก็ไม่มี สามีก็ไม่มี ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร”

“มาวันนี้เพราะเห็นภาพในโทรทัศน์ วันนี้เห็นว่าเป็นการรวมตัวที่ยิ่งใหญ่ ขอแสดงความยินดีกับแกนนำที่สามารถทำให้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่มาเพื่อตัวเอง มาเพื่อเรียกร้อง ประชาธิปไตยจริงๆ”

“ขณะนี้ประเทศไทยขาดเวลานี้คือความถูกต้องและความเป็นธรรม ส่วนตนขอการันตีตนเองว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เกินล้าน”

“คนที่กล่าวหาพี่ พี่อยากถามว่าได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทเท่าเศษหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของพี่หรือเปล่า พี่เชื่อว่าถ้าการมารวมตัวของพวกเราไม่จงรักภักดี พี่จะไม่มายืนตรงนี้เด็ดขาด คนกลุ่มเล็กไม่ถึงสิบคนกล่าวหาคนเป็นล้านว่าไม่จงรักภักดี พี่ไม่รับค่ะ พี่เชื่อว่าน้องทุกคนจงรักภักดี” ท่านผู้หญิงวิระยา กล่าวการันตีคนเสื้อแดง

ประโยคข้างต้น เราไม่เถียงว่าคำพูดของ “วิริยา” ที่ว่าคนเสื้อแดงมีความเสียสละ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ เราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า คนเสื้อแดง ทำเพื่อ นช.ทักษิณถูกต้องไหม


*******


คนเสื้อแดง รู้จักท่านผู้หญิงคนนี้ดีแค่ไหน..

ท่านผู้หญิงคนนี้เป็นคนเหนือแท้ๆ พื้นเพเป็นคน จ.แพร่ บ้านเดียวกับ “แมว” วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็น “แพร่ตัวไม่” เลยทีเดียว เป็นอำมาตย์อยู่ดีๆ ดันลดตัวไปเป็นไพร่ซะนี่

“วิระยา ชวกุล” ปัจจุบันนอกจากจะเป็น “ประธานกรรมการ และเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์”แล้ว
หน้าที่ในปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่ง “กรรมการมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รับผิดชอบดูแลการเงิน การรับบริจาค” “ประธานกรรมการมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์” “กรรมการมูลนิธิศาสตราจารย์นายแพทย์หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร” “ประธานอาสาสมัคร มูลนิธิสายใจไทยฯ แผนกรับบริจาค” “ประธานมูลนิธิท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล เพื่อการวิจัยวิทยาศาสตร์การเพทย์ ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร กรมแพทย์ทหารบก แห่งกองทัพบกไทย”

“ประธานกรรมการ มูลนิธิท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล เพื่อโรคหลอดเลือดสมอง” “กรรมการมูลนิธิศาสตราจารย์นายแพทย์หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร” “กรรมการจัดสร้าง โครงการศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” “ประธานกรรมการที่ปรึกษา โครงการรณรงค์ผ่าตัดตาต้อกระจก เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาฯ มหาราชินี กระทรวงสาธารณสุข” และ “กรรมการที่ปรึกษา สมาคมจิตวิทยาความมั่นคงแห่งประเทศไทย”

*******


ส่วนตำแหน่งหน้าที่งานในอดีต เคยเป็น “ประธานคณะกรรมการจัดหาทุน และกรรมการก่อตั้ง มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” “กรรมการ และเลขาธิการก่อตั้ง สมาคมสตรีนานาชาติ” “ประธานคณะกรรมการจัดหา และส่งเสริมผู้บริจาคโลหิต และประธานคณะกรรมการจัดหาทุน ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย” “ประธานคณะกรรมการจัดหาทุนก่อตั้ง มูลนิธิเพื่อฟื้นฟูการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข” “ประธานคณะกรรมการ โครงการหลวงปู่โต๊ะ 108 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2538”

“กรรมการจัดหาทุน โครงการจัดสร้าง อุทยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สนับสนุนฝึกอบรมเยาวชนเกษตร ในการพัฒนาพื้นที่วัดญาณสังวราราม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” “ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ การจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมจีนเฉลิมพระเกียรติ เมื่อปี พ.ศ. 2539” “กรรมการที่ปรึกษา มูลนิธิโรคหัวใจเด็ก” “ประธานคณะกรรมการกลาง มูลนิธิโรงพยาบาลรามาธิบดี” “ประธานคณะกรรมการจัดหาทุน ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี”

*******


ขณะที่ตำแหน่งทางการเมือง สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ระหว่างปี 2547 เป็นต้นมา ได้รับปูนบำเหน็จเป็น”ประธานที่ปรึกษา นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา เมื่อเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2547” “ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ” “ที่ปรึกษา คณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบริหารงานตำรวจ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2544”

“ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2546” (และต่อมาปี2551 นช.ทักษิณก็ได้เลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยและลาออกในเวลาต่อมา) “กรรมการอำนวยการ กองทุนพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย” “กรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิเอกชนพัฒนาภูมิภาค เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2544” “กรรมการที่ปรึกษา โครงการจัดสร้างสวนเบญจกิติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”

*******


“พี่โดนกล่าวหาว่าได้รับผลประโยชน์ร่วมกับทักษิณ จริงๆ แล้วพี่รวยกว่าคุณทักษิณนะคะ ลูกก็ไม่มี สามีก็ไม่มี ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร”

เราไม่เถียงเช่นกัน ที่ “วิระยา” จะระบุว่า หล่อนรวยกว่าทักษิณ จะจริงหรือไม่ เราไม่ทราบ แต่การใช้หน้าที่จากตำแหน่งทั้งในอดีตและปัจจุบันข้างต้น โดยเฉพาะหลายตำแหน่ง “รับผิดชอบดูแลการเงิน การรับบริจาค” ใช้อำนาจหน้าที่ถูกต้องเหมาะสม โปร่งใสหรือไม่

ล่าสุด ทราบมาว่า “งานประมูลของรักคนดังการกุศล” โรงแรมดังแถวสยามสแควร์ จัดงานประมูลของรักของหวงคนดังการกุศล ภายใต้ชื่อ “ 2nd High Tea Charity Auction ” บริเวณพาสเทล ล็อบบี้เล้าจน์ ของโรงแรม ฯ โดยได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล มาเป็นประธาน

ภายในงานมีเหล่าไฮโซ เซเลบริตี้ และคนดังมาร่วมประมูลหลายท่าน อาทิ ดร. พาชื่น รอดโพธิ์ทอง, พิมพ์สุรางค์ เอี่ยมแจ้งพันธุ์, อลัน นามชัยศิริ, นพพร-พรภัทร วิฑูรชาติ, สมบัติ แสงชาติ, เดช บุลสุข, พล.อ.ต.จุลจรูญ แสงงำพาล, สุวิมล มหากิจศิริ, ดารุณี กฤตบุญญาลัย ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมประมูลอีกมากมาย

“ซึ่งครั้งนี้สามารถประมูลได้จำนวนเงินสูงถึง 3,625,000 บาท โดยรายได้ทั้งหมดจากการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ จะนำไปสมทบทุน มูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์”

มีคนถามว่า “รายได้ทั้งหมดจากการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ” ส่งถึงทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดนหรือยัง”

หากมีการถามต่อว่า หลายปีที่นั่งตำแหน่งกว่า 30 องค์กร รายได้ส่งให้องค์กรนั้นๆมากน้อยขนาดไหน ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วยหรือไม่ ซึ่งทุกองค์กรรับผิดชอบดูแลการเงิน การรับบริจาคทั้งหมดหรือไม่


*********


หากย้อนดูอดีตเมื่อ ปี 2550 “สนธิ ลิ้มทองกุล” แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในขณะนั้นตั้งข้อสังเกตว่า ที่ท่านผู้หญิงวิระยา ระบุว่า องคมนตรีต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ถ้าไม่เช่นนั้นให้ลาออกไป

นายสนธิ เห็นว่า สิ่งที่คุณหญิงวิระยา ระบุออกมานั้น หมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีนั้น มีหลักฐานอะไร หรือจะใช้หลักฐานที่มีคนไปกินข้าวที่บ้านนายปีย์ มาลากุล ซึ่ง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี คาบข่าวไปพูดว่าเขาวางแผนปฏิวัติ ที่สำคัญคนที่ไปกินข้าวซึ่งมีทั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ อดีตประธานศาลฎีกา และประธานศาลปกครอง ฉะนั้นตนจึงไม่กล้าพูดว่าท่านผู้หญิงวิระยา ด้อยปัญญา

“สมมติว่า ถ้าวันหนึ่งผมออกมพูดว่าท่านผู้หญิงวิระยา รับเงินจาก นช.ทักษิณ โดยรับเงินมาเพื่อเล่นงานฝ่ายเสื้อเหลือง ท่านก็ต้องออกมาตีโพยตีพ่ายว่าไม่เป็นความจริง และคงต้องหาว่าผมโกหก แต่ถ้าผมไปเพราะมันมีเบื้องหลัง ฉะนั้นสิ่งที่จะทำลายประเทศชาติ และโครงสร้างสถาบันเพียงเพราะลมปากของ พล.อ.พัลลภ นั้น มันไม่ง่าย และมันไม่โง่ไปหน่อยหรืออย่างไร และที่กรุงศรีอยุธยาแตกก็เพราะมีไส้ศึก ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน คงไม่จำเป็นที่ไส้ศึกต้องเป็นผู้ชาย เพราะอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้”นายสนธิ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ ย้ำว่า ลึกๆ แล้วท่านผู้หญิงวิระยา เองก็รู้ใช่ไหมว่า วันนี้ไม่ได้ใกล้ชิดกับเบื้องพระยุคลบาทอีกแล้ว ใช่หรือไม่ ฉะนั้นอย่าเอาคำพูดว่าใกล้ชิดมาใช้ดีกว่า เพราะคนที่ดึงสถาบันกษัตริย์ เอามาเล่นเพื่อตัวเองนั้น น่าจะเป็นตัวคุณหญิงวิระยา และ นช.ทักษิณ มากกว่า เนื่องจากทำให้ชาติบ้านเมืองวุ่นวายและฆ่ากันเอง ที่สำคัญมีการมองกันว่า ที่ท่านผู้หญิงวิระยาออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งชี้นำ และช่วย นช.ทักษิณ อย่างชัดเจน ซึ่งถ้าตนเป็นคุณหญิงวิระยา จะไปกราบบังคมทูลขอคืนตำแหน่งท่านผู้หญิง เพราะไม่มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวอีกต่อไป

“หลังจากที่คุณหญิงวิระยา ให้สัมภาษณ์ สื่อในเครือข่าย นช.ทักษิณ ก็เอาเรื่องนี้ไปเล่นกันโดยตลอด มิหนำซ้ำเว็บไซต์ชมรมคนรักอุดรฯ ได้ส่งข้อความไปถึงคุณหญิงวิระยา ว่า ขอให้ไปขึ้นเวทีเสื้อแดง การกระทำดังกล่าวของคุณหญิงวิระยา ถือว่าจงใจทำลายความเชื่อถือของ พล.อ.พิจิตร เพื่อช่วย นช.ทักษิณ ดังนั้นตัวตนที่แท้จริงของคุณหญิงวิระยา วันนี้ โผล่ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ที่สำคัญลักษณะการแสดงออกของคุณวิระยา ซึ่งอ้างว่าใกล้ชิดกับในวัง จะเห็นดีกับระบอบทักษิณ เพราะระบอบทักษิณ ซื้อคนเอาไว้มาก ซึ่งบางคนได้เงินเดือนถึง 5 แสนบาท คนพวกนี้จะทำตัวเป็นสายลับอยู่ในวัง ถ้าใครเข้าเฝ้าก็จะส่งข่าวให้รู้ และจะทำทุกอย่างเพื่อป้อนข่าว” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

นายสนธิ กล่าวอีกว่า เดิมทีคนที่ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทนั้น ไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงแต่ว่าไม่เสียหายอะไรหากจะรายงานให้ทราบ เพราะเป็นธรรมชาติที่จะมีการซุบซิบ นินทา แต่ที่เสียหายคือ ท่านผู้หญิงวิระยา ถูกชุบเลี้ยงมา แต่กลับไม่สำนึกในบุญคุณ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ควรที่จะให้ข้อมูลอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญตนอยากเรียนถามว่า ที่มีข่าวว่า มีคนบางคนอาศัยความใกล้ชิด ทำเสื้อขาย โดยไปบังคับให้หน่วยงานราชการสั่งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาให้ซื้อเสื้อ จนกระทั่งมีคนทนไม่ไหว จึงเขียนจดหมายถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ ว่าตัวเองเงินเดือนน้อย แต่กลับถูกบังคับให้ซื้อเสื้อ 2 ตัว ในราคา 500 บาท จนจะไม่มีกินอยู่แล้ว ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตกพระทัย เพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีการกระทำเช่นนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ จึงมีรับสั่งให้ท่านผู้หญิงจรุงจิตร ไปว่าบอกว่าไม่ให้มีการบังคับซื้อ

“นอกจากนี้ยังมีใครบางคน ไปติดต่อธนาคารกรุงไทย โดยอ้างอิงสถาบัน เพื่อให้ธนาคารกรุงไทย ซื้อเสื้อเป็นล็อต ซึ่งมีราคาหลายสิบล้านบาท แล้วท่านผู้หญิงวิระยา ทราบหรือไม่ว่า คนที่ทำเช่นนั้นชื่ออะไร ที่สำคัญเสื้อที่ขายได้ก็อ้างว่าโดยเสด็จพระกุศล ซึ่งไม่มีหลักฐานเงินเข้าออกว่ามีจำนวนเท่าใด ฉะนั้นท่านผู้หญิงวิระยา ยอมรับหรือไม่ว่า คนแบบนี้ คือคนที่ทำให้ชาติบ้านเมืองฉิบหาย ผมไม่เคยทราบว่าคุณวิระยา อายุเท่าไหร่ แต่ผมมองแล้วน่าจะอายุ 60 ปี แต่คนใกล้ชิดบอกว่าคุณวิระยา อายุ 70 ปีกว่าๆ ทำให้ผมตกใจ เพราะหน้าเต่งตึง ถามว่าไปทำศัลยกรรมหน้ามาหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะผู้หญิงทุกคนอยากสวย” นายสนธิ กล่าว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2550 หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือคุณปลื้ม เชิญท่านผู้หญิงวิระยา มาให้สัมภาษณ์กรณีเปิดรับบริจาคเงินทางโทรทัศน์เพื่อช่วยเหลือทหารและตำรวจทางภาคใต้ในวันที่ 13 พ.ค. 2550 ซึ่งขณะนั้น นช.ทักษิณ ยังลี้ภัยอยู่ที่เมืองนอก แต่ นช.ทักษิณ โทรศัพท์เข้ามาบริจาคเงิน 10 ล้านบาท ในนามของ นช.ทักษิณและภริยา ซึ่งหม่อมปลื้มถามว่าจะรับหรือไม่ ท่านผู้หญิงวิระยา ก็บอกว่ารับ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ท่านผู้หญิงวิระยา เอาไปพูดต่อว่า คนไหนที่ว่าดี ทำไมไม่ช่วยบริจาคเงินอย่าง นช.ทักษิณ บ้าง แสดงว่าท่านคุณวิระยา วัดความดีของคน และความจงรักภักดีที่จำนวนเงิน

*******


ท่านผู้หญิงวิระยาเคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวกรณีในปี 2547 จัดทำเสื้อสีฟ้า ซึ่งมีพระนามาภิไธย ส.ก.ออกจำหน่าย โดยมีการออกหนังสือเวียนให้ข้าราชการ และพนักงานของกระทรวงมหาดไทยทุกระดับชั้นซื้อ พร้อมทั้งเร่งให้มีการจัดจำหน่ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2547 เป็นเหตุให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ผ่านกองราชเลขานุการในพระองค์ ถึงปลัดมหาดไทย ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติ “วิธีจำหน่าย” ในลักษณะดังกล่าว และทรงเสียพระราชหฤทัยอย่างยิ่งเมื่อทรงทราบจากฎีการ้องทุกข์หลายฉบับที่ระบุว่าโครงการนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย

อย่างไรก็ตาม สังคมก็ยังไม่ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของท่านผู้หญิงวิระยาเท่าใดนัก ไม่รู้แท้ที่จริงแล้ว เธอทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอยู่หรือไม่ จนกระทั่ง “ท่านผู้หญิง จรุงจิตต์ ทีขะระ” รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยืนยันว่า ท่านผู้หญิงวิระยานั้นไม่เคยเป็นนางสนองพระโอษฐ์ (Lady-in-waiting) ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แต่อย่างใด

“กิจกรรมและธุรกิจทุกประการที่ท่านผู้หญิงวิระยาดำเนินการนั้นเป็นกิจกรรมส่วนตัวของท่านผู้หญิงวิระยา ซึ่งไม่มีความเกี่ยวพันกับสำนักพระราชวังใดๆ ทั้งสิ้น” ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ระบุ

รองราชเลขานุการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ ยังยืนยันด้วยว่า ตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์นั้นต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา นอกจากนี้ ท่านผู้หญิงวิระยายังไม่มีตำแหน่งใดๆ ในสำนักพระราชวังอีกด้วย

มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายเสื้อสีฟ้า

จำนวน เสื้อที่ได้มีหนังสือขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำจำนวน 2 ล้านตัว ปรากฏว่าโครงการนี้จัดจำหน่ายผ่านหน่วยงาน 3 แห่ง คือ กระทรวงมหาดไทยได้รับมา 1 ล้านตัว ธนาคารออมสิน 1 ล้านตัว และธนาคารกรุงไทยอีก 1 ล้านตัว

เท่ากับว่าจัดทำเกินไป 1 ล้านตัว

เงิน ที่ได้จากการขายเสื้อรวมแล้ว 480 ล้านบาท โครงการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2547 ผ่านไป 5 ปี ทำไมจนถึงบัดนี้ยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแต่อย่างใด

เสื้อ สีฟ้าในโครงการนี้ มีการจัดจำหน่ายตัวละ 400 บาท จัดทำ 3 ล้านตัว รวมแล้ว 1,200 ล้านบาท แถมบอกไม่หักค่าใช้จ่าย ด้วยโครงการเกิดขึ้นเพราะอยากเห็นทุกคนใส่เสื้อฟ้า แล้วทำไมขณะนี้มีเงินในบัญชีแค่ 480 ล้านบาท

เงินอีก 720 ล้านบาทหายไปไหน?

ไม่ นับข้อสงสัยอีกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องโยกเงินในบัญชีธนาคารออมสินไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ โดยอ้างว่ามีดอกเบี้ยสูงกว่า ซึ่งน่าสงสัยว่า เพราะต้องการจะกินดอกเบี้ยผสมในเงินต้นส่วนที่หายไป 720 ล้านบาทหรือไม่ นี่เป็นข้อสงสัยที่แม้เธอจะเปลือยตัวตนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการส่อให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของท่านผู้หญิงวิริยามากยิ่งขึ้น
 

*******


หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ใกล้ชิด เจ้านายสูงศักดิ์ แต่กลับมาขึ้นเวทีกับพวกคนที่จะล้มเจ้า กระทั่งกลุ่ม 40 ส.ว.อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาเรียกร้องให้ถวายคืนเครื่องราชฯ และเลิกใช้คำนำหน้านามว่า “ท่านผู้หญิง” ที่ได้รับพระราชทานมา

“เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจุลจอมเกล้า เดิมพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน จึงมีจารึกบนดวงตราว่า เราจะทำนุบำรุงวงศ์ตระกูลของเราให้เจริญ ต่อมาได้ขยายพระราชทานแก่สตรีสามัญผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วย เมื่อท่านผู้หญิงวิระยา เลือกที่จะขึ้นเวทีสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณอย่างโจ่งแจ้งแล้ว ควรจะถวายคืนเครื่องราชฯ และเลิกอ้างพระองค์ท่านเพราะไม่ได้เข้าไปในวังนานแล้ว”ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา เรียกร้อง

----------------------------------------------------------------

พี่ไม่ไปเป็นสีแดง เพราะสีแดงโง่

ลิงค์คลิปวีดีโอที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูป “คุณหญิงวิระยา ชวกุล ด่าแดงโง่” http://www.youtube.com/watch?v=OaoVydBD2uU โดย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องหนึ่ง เมื่อปี 2550 ถึงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ที่ขณะนั้นมีการขับไล่ คมช.และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีใจความว่า

พิธีกรรายการ - ท่านผู้หญิงถือเป็นต้นตำรับสีเสื้อเลยก็ว่าได้ ตกเป็นข่าวโดยเฉพาะกรณีของ “เสื้อสีฟ้า” มา 5 ปีแล้ว และก็มีการแบ่งเป็นสีเหลือง สีแดง จนมีความคิดที่แตกแยกร้าวฉาน ท่านผู้หญิงตอนนี้สีอะไร สีแดงหรือไม่?

ท่านผู้หญิงวิระยา - ไม่ “สีแดงโง่” เพราะมันเต็มไปหมด

พิธีกรรายการ - ทำไมละครับ?

ท่านผู้หญิงวิระยา - ไม่รู้ พี่ว่าเขาโง่ อย่าถามพี่เพราะในส่วนตัว พี่ไม่ไปเป็นสีแดงเพราะสีแดงโง่ สิ่งที่เขาผ่านๆ มาเขาไม่ฉลาดใช่ไหม เขา “get into the trap” (ติดบ่วงแกนนำเสื้อแดง) หมดเลย

พิธีกรรายการ - ยังไงครับ?

ท่านผู้หญิงวิระยา - ก็ไม่รู้ แต่เท่าที่พี่สัมผัสมา และดูมา ดูแล้วว่า “ไม่ใช่” เขาไม่ฉลาด


กำลังโหลดความคิดเห็น