เผย “เรือเหาะ” ยังอยู่สภาพเดิม บ.อ้างสัญญาตรวจรับไปแล้ว

แหล่งข่าว ทบ.ยืนยันพรุ่งนี้ มีพิธีตรวจรับและส่งมอบ เรือเหาะจากบริษัท Aria International สหรัฐอเมริกา โดยสภาพเรือเหาะยังเหมือนเดิม บ.อ้างสัญญาตรวจรับไปแล้วเมื่อเมษายน ปี 52

แหล่งข่าวใน ทบ.เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการอภิปรายและวิจารณ์ถึงคุณสมบัติของเรือเหาะตรวจการณ์ มูลค่า 340 ล้านบาท ที่กองทัพบกไทยได้จัดซื้อจากสหรัฐอเมริกา ที่ไม่สามารถใช้การได้และการส่งมอบล่าช้า เพราะอุปกรณ์ที่ได้ตกลงกันไม่เป็นไปตามสเปคที่ได้ทำสัญญา จนถูกคณะกรรมมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เรียกให้กองทัพไปชี้แจง กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ให้เร่งให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการตรวจรับ และส่งมอบเรือเหาะ Sky Dragon ในวันศุกร์ที่ 5 มี.ค.นี้ ที่ จ.ปัตตานี เพื่อสยบข่าวอื้อฉาว หลังจากที่ยื้อเวลามา 6 เดือน จนเกิดปัญหาคณะกรรมการนายทหารระดับพันเอก 1 นาย และพันโท 1 นายได้ประกาศลาออก เพราะไม่อยากเสี่ยงรับเรือเหาะเจ้าปัญหา

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ในวันศุกร์ที่ 5 มี.ค.นี้ ที่กองพลทหารราบที่ 15 สนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเก็บเรือเหาะ (airship) จะมีพิธีตรวจรับและส่งมอบ เรือเหาะ จาก บริษัท Aria International สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เลื่อนกำหนดส่งมอบ มาตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.52 แต่ทาง ทบ.ไม่ได้เรียกค่าปรับเรื่องการส่งมอบล่าช้า โดยอ้างว่าเพราะ ทบ.ต้องการให้ทางบริษัท เพิ่มประสิทธิภาพในหลายด้านให้เอง เช่น จากที่จะส่งสัญญาณภาพจากเรือเหาะ มาได้แค่ที่ รถหุ้มเกราะบังคับด้านภาคพื้นแค่คันเดียว ก็ขอให้เชื่อมสัญญาณภาพสด เรียลไทม์ ไปยัง หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ปฏิบัติการต่างๆในเวลาเดียวกันด้วย

“ปัญหาที่เกิดขึ้นมาตลอด 6 เดือน ตั้งแต่การที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ยอมขายกล้องตรวจการณ์ ทั้ง 5 ตัวให้ แต่เมื่อบริษัทไปเดินเรื่องจนได้มาจึงมาติดตั้ง แต่ก็มีปัญหาเรื่องการเชื่อมสัญญาณทำให้ระบบล่ม โดยเฉพาะการติดตั้งกับเฮลิคอปเตอร์อีก 3 ลำ รวมทั้งมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บ จนทำให้เกิดรอยรั่วซึม ราว 20 จุด ทำให้ต้องมีการแก้ไข จนเกิดคำถามว่า เป็นเรือเหาะใหม่ถอดด้าม หรือว่าของต้นแบบที่สร้างมานานแล้ว และยังมีปัญหาการลอยตัวไม่ได้ตามที่กำหนด” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า หลังจากที่พยายามแก้ไขมาแล้วเรือเหาะก็ยังไม่สามารถใช้ได้ตามที่ระบุในร่างสัญญา และไม่มีอะไรดีขึ้น แม้กระทั่งเลยกำหนดมา 6 เดือนแล้ว อีกทั้งทางบริษัท ต้องการให้ ทบ.รับมอบและจ่ายเงิน ส่วนที่ค้างอีก 30% ของราคาเต็ม 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และขอร้องให้ ทบ.รับมอบไปเลย

“ทั้งๆ ที่ยังมีปัญหา แต่ ผบ.ทบ.ก็สั่งให้คณะกรรมการตรวจรับในวันศุกร์นี้เลย เพื่อลดกระแสทางการเมืองที่มีการตรวจสอบ ทั้งเรื่อง จีที 200 และเรือเหาะ รวมทั้งเห็นใจบริษัท ทำให้มีคณะกรรมการที่เป็นระดับพันเอก 1 นาย และพันโท 2 นายลำบากใจ และกลัวความผิดในภายหลัง ทำให้ประธานคณะกรรมการ ซึ่งเป็นนักบินสังกัดกองทัพภาค 4 และคณะกรรมการที่เป็นนักบินของ กรมขนส่ง ทบ.ขอลาออก แต่ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ยังไม่อนุมัติ โดยอ้างว่าตนเองไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง ให้เป็นเรื่องของ กรมขนส่งทหารบก” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวเผยว่า จากการตรวจสอบล่าสุดก่อนจะส่งมอบวันศุกร์นี้ พบว่าบริษัทยังไม่สามารถทำตามที่ ทบ.ร้องขอ เรื่องการเชื่อมสัญญาณภาพไม่สมบูรณ์ โดยบริษัท อ้างสัญญาที่ทำไว้เมื่อ 23 เม.ย.52 ว่า คณะกรรมการทางเทคนิคได้ตรวจรับ ก่อนการบรรจุหีบห่อ แล้วส่งมาถึง บรรจุก๊าซฮีเลี่ยม ลอยให้ดูว่าลอยได้ ก็จบตรวจรับ โดยในสัญญาไม่ได้ระบุว่า ต้องลอยตัวได้ระยะเท่าไหร่ หรือต้องขึ้นบินให้ดู หรือตรวจสอบระบบต่างๆ จึงจะตรวจรับได้

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้เรือเหาะสามารถลอยตัวได้แค่ประมาณ 1 หมื่นฟุต หรือประมาณ 1 กิโลเมตรเศษเท่านั้น ทั้งๆ ที่ตามสเปกระบุว่า ต้องลอยได้สูงถึง 3 กิโลเมตร หรือกว่า 3 หมื่นฟุต โดยทางบริษัทอ้างว่าน้ำหนักดังกล่าวเป็นการลอยตัวสำหรับเรือเหาะเปล่าๆ แต่เมื่อติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมาก จนลอยได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้น แม้ระยะ 1กิโลเมตร จะบินทำการได้ แต่ก็เสี่ยงเกินไปที่อาจจะถูกลอบโจมตีจากขบวนการก่อความไม่สงบ ที่อาจมีอาวุธยิงที่ร้ายแรง ก็ตาม

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ที่สำคัญที่สุด คือ สเปกของ airship aeros 40D sky dragon นี้ กลับกลายเป็น บอลลูนท่องเที่ยว ไม่ใช่บอลลูนด้านความมั่นคง และมีแค่ 1 ที่นั่งเท่านั้น ไม่มีที่นั่งหรือห้องโดยสารสำหรับลูกเรือ หมายถึงนักบินคนเดียวเท่านั้น จากเดิมที่ ทบ.ตั้งไว้ 2-4 คน ที่อาจทำให้ต้องเสริมแต่งกันเอง ทั้งนี้ บริษัทอาจนำส่วนนี้ออกเพื่อลดน้ำหนัก เพื่อให้เรือเหาะลอยตัวปฏิบัติการได้ แต่อาจจะไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร เพราะลอยสูงกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว