xs
xsm
sm
md
lg

แผนปิดประตูตี "มาร์ค" - "แม้ว" ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย หน.ปฏิวัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"อธิการนิด้า" วิเคราะห์ชุมนุมเสื้อแดง เชื่อ รบ.เลือกวิธีเจรจาไม่เป็นผล "แม้ว" ตั้งแง่ล้างคดี-ทวงทรัพย์คืน ชี้ อำนาจฝ่ายบริหารหักล้างตุลาการฟอกความผิดนักโทษชายไม่ได้ เชื่อ "ยุบสภา" ไม่ใช่ทางออก ตราบใด "ทักษิณ" คือตัวปัญหา ด้าน "ส.ว.ไพบูลย์" ยัน "แม้ว" ผู้นำม็อบไพร่ ต่อรองมีเป้าหมายบั่นทอนเบื้องสูง จี้รัฐเลิกเจรจา ก่อนที่ ปชช.จะโทษเป็นต้นตอปัญหา ปล่อยม็อบแดงย่ำยีประเทศ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"  

วันนี้ (22 มี.ค.) รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการเชิญ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา มาร่วมพูดคุยและวิเคราะห์ถึงแผนการต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหลบหนีคดีอาญา ที่ปัจจุบันปลุกสงครามชนชั้นขึ้นมาเป็นอาวุธต่อกรกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายสมบัติ กล่าวถึงยุทธวิธีต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า มีการปรับเปลี่ยนแผนการตลอดเวลา ซึ่งสังคมไทยส่วนหนึ่งก็รับรู้แล้วว่า หากมีการใช้ความรุนแรงเมื่อไหร่ การชุมนุมนั้นจะถือว่าพ่ายแพ้ทันที ดังนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงเล็งเห็นตรงจุดนี้ จึงพยายามสู้ตามสันติวิธี ชุมนุมนอกรอบเท่าที่จะทำได้ โดยเป็นการปลุกระดมมวลชนตามจังหวัดมาร่วมเพื่อทำให้สงครามไพร่ขับไล่ระบอบอำมาตย์

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นเรื่องการเจรจา ตนคิดว่าเราต้องมองปัญหาให้ลึกซึ้งว่าเกิดจากอะไร เพราะหากพิจารณาดีๆ จะเห็นว่ายุทธวิธีการต่อสู้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแกนนำคนเสื้อแดงหรือกลุ่มผู้ชุมนุม หากแต่อยู่ที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ฝ่ายเดียว ดังนั้น ในเมื่อแผนการทุกอย่างถูกกำหนดที่คนๆเเดียว เราก็ต้องนำจุดนี้ไปวิเคราะห์ การที่รัฐบาลจะไปเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดง พวกนี้คงไม่ยอมหยุด เพราะไม่มีอำนาจสั่งการอย่างแท้จริง แต่ถ้าหากจะให้เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง ตนก็คิดว่าต้องดูที่ข้อเสนอว่ามีเป้าหมายเพื่ออะไร โดยเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องทำทุกวิธีทางให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย เนื่องจากโอกาสที่จะกลับมาปลุกม็อบทำเช่นนี้เป็นไปได้ยากแล้ว

นายไพบูลย์ กล่าวถึงเป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ต้องการทรัพย์สินและล้างคดี นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายกระทบถึงสถาบันหลักด้วย ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดสงครามไพร่กับอำมาตย์ แต่ทั้งหมดถือเป็นการบั่นทอนอำนาจของเบื้องสูง ก็เห็นชัดเจนว่า การต่อสู้ครั้งนี้มีการดึงเอาสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยพฤติกรรมที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มันเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่ล่วงละเมิดพระราชอำนาจในการคืนตำแหน่งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ซึ่งบ่งบอกได้ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดแผกแตกต่างไปจากนายกรัฐมนตรีคนอื่น ดังนั้น ถ้าคราวนี้กลับมาได้แล้วคุมอำนาจรัฐและคุมกองทัพได้แบบนี้จะเหลืออะไร พวก ส.ว.จึงได้รวมตัวกันต่อต้านการยุบสภา เพื่อยับยั้งปีศาจตัวใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างการปกครอง

นายสมบัติ กล่าวถึงประเด็นการยุบสภาว่า ต้นเหตุของปัญหาทุกอย่างคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการล้างคดีและกลับมามีอำนาจใหม่ แต่ครรลองของคำว่าประชาธิปไตย คดี พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ในชั้นตุลาการแล้ว ดังนั้น การเจรจาไม่ว่ากับทางสภาหรือทางรัฐบาล จะเอาอำนาจที่ไหนไปหักล้างตุลาการ ซึ่งโดยหลักมันทำไม่ได้ ไม่มีกฏหมายรองรับ แม้แต่ตัวนายกรัฐมนตรีเองที่มีอำนาจบริหาร ก็ไม่สามารถแทรกแซงอำนาจฝ่ายตุลาการได้ เนื่องจากถ้าหากแทรกแซงก็จะกลายเป็นไม่ใช่ประชาธิปไตย ฉะนั้น เรื่องเจรจาถ้าดูเป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีทางไปเป็นได้ในวิสัยปกติ

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ถ้ามีการยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ มั่นใจในขุมกำลังของตัวเองว่าสามารถกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งถ้าหากบรรลุเป้าหมายตรงจุดนี้ ต่อมาก็จะเกิดเรื่องยุ่ง เพราะจะมีการแก้รัฐธรรมนูญหรือนำฉบับปี 2540 มาใช้ หรือมีการแต่งตั้ง โยกย้ายคนของตัวเองได้ตามใจชอบ แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง การเลือกตั้งใหม่ แม้จะได้กลับมาจัดตั้งรัฐบาล แต่ปัญหาในด้านการบริหารประเทศก็ยังมีอยู่ ดังนั้น เชื่อว่าหากต้องการเคลียร์ตัวเองได้อย่างเบ็ดเสร็จหมดทุกอย่าง ต้องเป็นหัวหน้าปฏิวัติเสียเอง เพื่อกุมอำนาจทุกฝ่ายไว้หมด แต่ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำไม่สำเร็จ ประเทศก็จะถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย ระหว่างผู้ที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายไพบูลย์ กล่าวถึงประเด็นการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การที่รัฐบาลไทยไปยอมเจรจาด้วย เท่ากับว่ายกระดับเรื่องนี้ให้ดูมีความสำคัญ ทั้งที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอะไรมาต่อรองเลย ฉะนั้น ถ้าหากจริงใจในการแก้ปัญหาก็ให้ตัวแทนไปคุยกันเบื้องต้นก่อนว่าเป้าหมายต้องอะไรอะไร เพราะถ้าดูฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนได้คืบจะเอาศอก แล้วคนอย่างนายอภิสิทธิ์ จะเอาอะไรไปเจรจากับผู้นำม็อบเสื้อแดง โดยทางที่ดีที่สุด นายกรัฐมนตรีต้องจัดการเรืองนี้ด้วยการใช้อำนาจรัฐในมือ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกอยู่ในฝันร้ายเมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้วที่เกิดความรุนแรง ดังนั้น รัฐบาลก็ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พบกับฝันร้ายต่อไป ในเมื่อยังไม่เข็ดในการใช้มวลชนกดดันรัฐบาล ไม่เช่นนั้นแผนนี้จะไม่มีวันเลิก

นายสมบัติ กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงว่า หากการชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบกฏหมาย รัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่ป้องกันความรุนแรง ซึ่งสภาพที่เป็นอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการแสดงออกว่าพร้อมเจรจา ก็ถือว่าเป็นการเล่นเกมต่อรองกับนายอภิสิทธิ์ โดยใช้กลยุทธ์ด้านมวลชนกดดันรัฐบาล เพื่อทำให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศได้ยาก แต่เรื่องนี้รัฐบาลเคารพกฏหมายมากก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ในแง่ประชาชนหรือภาคธุรกิจอาจมองว่ารัฐบาลไม่จัดการอะไรให้เด็ดขาด จนทำให้คนส่วนใหญ่หรือประเทศเสียหาย

"ถ้าเกมยังยาวเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีอาจจะพลาดพลั้งได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ไม่มีเวลาดูแลปัญหาของประเทศ ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าความเสียหายของประเทศไม่อยู่ที่ผู้ชุมนุม แต่เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีไม่ลาออก เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ นี่จะเป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาทีหลัง" นายสมบัติ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวถึงแผนกดดันรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ต้องการใช้มวลชนกดดันให้รัฐบาลลาออก ซึ่งระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับพ.ต.ท.ทักษิณ กำลังหยั่งเชิงกัน โดยถ้าหากรัฐบาลไม่ใช่ความรุนแรง ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่า ทำไมไม่จัดการแก้ปัญหาเสียที โดยประเด็นต้องมองย้อนไปว่า วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กลัวการชุมนุมเยื้อยือ ดังนั้น ทางทีดีนายอภิสิทธิ์ต้องสู้สถานเดียว เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีหมดภาวะความเป็นผู้นำ เนื่องจากทำอะไรไม่ได้

นายสมบัติ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่าการยุบสภา ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะแม้เลือกตั้งใหม่และชนะการเลือกตั้งมา ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนต่อต้าน ดังนั้น สภาพแบบนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีบทเรียนจากอดีตมาแล้ว คงไม่คิดจะทำแบบเดิมอีก หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างของตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ คือต้องคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จทั้งอย่าง ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วิเคราะห์เรื่องนี้มาอย่างดี เพื่อคุมกลไกทุกอย่าง ไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นกับตัวเองซ้ำสอง

นายไพบุลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช้เรื่องการเมืองหรือเกี่ยวข้องกับมวลชน แต่มันเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว ซึ่งหากมีการเจรจาแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมทำตาม ก็จะมีการตั้งแง่ปัญหาเรื่องใหม่ ดังนั้น ในเมื่อรัฐบาลรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือตัวปัญหา และไม่สามารถให้ได้ตามเงื่อนไขที่เสนอ ก็ควรหาวิธีสู้ให้ถึงที่สุด


นายเติมศักดิ์ จารุปราณ
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น