แกนนำ นปช.มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ประโคมข่าวจะเกิดระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์นำไปสู่การปฏิวัติ เตือนเสื้อแดงหลบอยู่ในที่ตั้ง ล้างท้องรอเวลารีดท่อน้ำเลี้ยง “แม้ว” 12 มี.ค. ขี้โม้อีกแล้วหวังแตกหักภายใน 7 วัน ควันออกหูฉะ “เป็ดเหลิม” เย้ยม็อบ 1 ล้านมาจากไหน กระโดดงับคอเป็นผู้ใหญ่ให้ระวังคำพูด เสี้ยมเลขาศาลฯ ฟ้องหมิ่นพรรคการเมืองใหม่ ฐานปูดข่าวติดสินบนตุลาการ
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. แถลงถึงการพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ.ว่า ในวันดังกล่าวยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ไปศาลฎีกา เพราะทราบมาว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการวางระเบิดในช่วง 1-2 วันนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติ และจากกองกำลังทหารที่ทยอยเข้ามาจำนวน 21 กองร้อย ซึ่งเพียงพอที่จะพลิกทำรัฐประหารได้ทันทีนั้น เราได้กำชับให้คนเสื้อแดงอย่าออกมาเคลื่อนไหว ให้รอเวลาจนถึงวันที่ 14 มี.ค.ซึ่งเป็นวันชุมนุมใหญ่ เวลานั้นจะเป็นการสู้กันโดยใช้ความคิด ไม่มีอารมณ์การตัดสินคดีมาเจือปน หากเกิดเหตุอะไรขึ้นภายในช่วง 1-2 วันนี้คนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล แต่ถ้าเมื่อใดคนเสื้อแดงชุมนุม ในวันที่ 12-14 มี.ค.เราก็พร้อมจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ทั้งนี้เบื้องตันในวันชุมนุมใหญ่เราขอให้ทุกคนอยู่กันเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ 7 วัน แต่ถ้าไม่จบภายใน 7 วันก็จะใช้วิธีสลับกันไปพัก ที่มั่นหลักของเราจะอยู่ที่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน และลานพระบรมรูปทรงม้า หากมีการดาวกระจาย ก็จะไปยังจุดที่จำเป็น โดยไปกัน 3-5 หมื่นคน ยืนยันว่าจะไม่ซ้ำรอยเหตุการณ์เมษาเลือด เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว
ส่วนกรณีที่กลุ่มแดงสยามนำโดยนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ จะชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันตัดสินคดีนั้น ยืนยันว่า กลุ่มนายสุรชัยไม่เกี่ยวกับกลุ่ม นปช. เป็นคนละองค์กร และเราจะไม่รับผิดชอบการกระทำใดๆ ของกลุ่มนายสุรชัย
นายจตุพรกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุถึงกรณีที่มีกระแสข่าวผู้พิพากษา 4 คนถูกซื้อคนละพันล้าน เป็นเพียงการแจ้งเตือนและคงไม่มีการสอบในเรื่องดังกล่าวนั้น กรณีนี้ตนไม่ไว้วางใจนายวิรัช เพราะการที่นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ออกมาปูดข้อมูลสินบนแล้วไม่ดำเนินการใดๆ ซึ่งเป็นการหมิ่นศาลอย่างชัดเจนนั้น เสมือนว่ามีการสมรู้ร่วมคิด เพราะทราบว่ามีผู้มีบารมีบางคน อยากให้มีมติออกมา 9 ต่อ 0 แต่เมื่อทราบว่าเป็นไปตามนั้นไม่ได้ ก็เลยทำการกุข่าวขึ้นเพื่อไม่ต้องการเสียงก้ำกึ่ง 5 ต่อ 4 อยากให้เสียงขาดลอยไปเลย ส่วนเงื่อนไขการได้รับเงิน 25 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ชี้เบาะแสคดียึดทรัพย์นั้น คตส.เขียนระเบียบไว้เอง เรื่องนี้อดีตกรรมการคตส.อย่างนายนาม ยิ้มแย้ม นายแก้วสรร อติโพธิ หรือคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา แม้จะไม่ได้รับเงินนี้ด้วยตัวเอง แต่ที่ผ่านมามีการใช้นอมินีที่วางไว้ไปแจ้งข่าว แจ้งเบะแส ปล่อยตัวเลขบัญชี ครั้งละหมื่นล้าน 2 หมื่นล้าน ซึ่งข้อมูลอยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทย เสมือนกับเป็นการปล้นกลางแดด
นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า คนเสื้อแดงไม่สามารถนำรถกระบะจำนวน 1 แสนคันมาชุมนุมได้ด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ใหญ่ควรวางตัวให้เหมาะสม ให้เหมาะกับการเป็นเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิมควรรู้จักการสะสมความรู้จักซึ่งกันและกัน การที่จะให้สัมภาษณ์อะไรก็ควรระมัดระวัง ส่วนกรณีที่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ระบุว่าจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในสัปดาห์หน้านั้น นายจตุพรกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ตนจะไปพูดคุยกับ พ.อ.อภิวันท์ด้วยตัวเองว่าขอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปเป็นหลังการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า พ.อ.อภิวันท์จะเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปแน่นอน เพราะ พ.อ.อภิวันท์ก็เป็นเสื้อแดงคนหนึ่ง ส่วนการอภิปรายซึ่งอาจจะไม่มี ร.ต.อ.เฉลิมนั้นคงไม่มีปัญหา เพราะอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว และบุคลากรที่ดำเนินการก็มีบุคคลที่มีความสามารถหลายคน