xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ชี้ใช้ สธ.ประชุม ครม.มีทางหลบเพียบ-ลั่นไพร่แดงปิดล้อมจัดการเฉียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุเทพ” เผยเลือก สธ.เป็นที่ประชุม ครม.เพราะไกลจากเสื้อแดง มีทางเข้า-ออกหลายทาง ที่สำคัญ เฮลิคอปเตอร์สามารถขึ้นลงได้ เตือนหากไพร่แดงบุกปิดล้อมจัดการตามกฎหมายแน่ เพราะถือว่าการชุมนุมไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน เตรียมชง ครม.ขยาย พ.ร.บ.ควมมมั่นคงฯ อีก 7 วัน ลดพื้นที่เหลือ กทม.-นนทบุรี-สมุทรปราการ มั่นใจฝ่าวิกฤตได้ เชื่อทหารไม่ปฏิบัติ ซัด “ทักษิณ-สมุน” ตัวก่อปัญหา เข้าข่ายคอมมิวนิสต์ ปลุกปั่นทำคนไทยแตกแยก เอาความจน-ความรวยแบ่งวรรณะ ไพร่-อำมาตย์ มาอ้าง



นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเลือกกระทรวงสาธารณสุข เป็นสถานที่การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 23 มี.ค.นี้ เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่า อยู่ไกลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จะได้ไม่ต้องมีสภาพเคลื่อนไหวในการเผชิญหน้ากัน จุดของตน ก็คือ พยายามจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน พยายามระมัดระวังไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่เผชิญหน้ากัน ก็ขอร้องผู้ชุมนุมว่า ท่านก็ชุมนุมของท่านไปโดยสงบ ท่านก็จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เรื่องของการทำหน้าที่ของรัฐบาลก็ปล่อยให้รัฐบาลดำเนินการไป ถ้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลมันจะเข้าลักษณะการชุมนุมที่ไม่สงบ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตนก็ได้แต่หวังว่า การประชุมครม.ในวันอังคารที่ 23 มี.ค.จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมกระทรวงสาธารณสุขก่อนที่รัฐมนตรีจะเข้าประชุมกันมีแผนรองรับอย่างไร มีสถานที่สำรองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้บอกไม่ได้ แต่คิดแผนไว้แล้ว

“ตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลทำอะไร เสื้อแดงรู้เรื่องเร็วมาก ผมไปสำรวจดูสถานที่ที่จะประชุม ครม.ที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แต่คิดยังไม่ได้ทันพูดจาอะไรกับ ครม.ตี 3 ตี 4 มีคนโทร.มาถามแล้วจะไปประชุมที่นั่นที่นี่ เหตุที่เลือกกระทรวงสาธารณสุข เพราะมีทางเข้า ออกหลายทาง เฮลิคอปเตอร์สามารถขึ้นลงได้” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในการประชุม ครม.ตนจะได้เสนอขอรับความเห็นชอบขยายเวลา การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง การประกาศพื้นที่ความมั่นคงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะขยายไปอีก 7 วัน คือ จากวันที่ 23-30 มี.ค.ที่ต้องขยายไปถึงวันที่ 30 มี.ค.เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมนัดจะชุมใหญ่วันที่ 24-25 มี.ค.ซึ่งการระดมคนมามากๆ จะเกิดเหตุปัญหาขึ้นได้ ทางตนก็ต้องหาทางป้องกันแก้ไขปัญหาไว้ จะเห็นว่า ความที่เรากำหนดในการแก้ไขป้องกันปัญหา ลดความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชนได้ระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ จะขอปรับพื้นที่ในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ลดลงจะเหลือกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทราปราการ เนื่องจากนนทบุรีเป็นที่ตั้งของหน่วยงานที่สำคัญๆ ส่วนสมุทรปราการเป็นที่ตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิ

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมใน ศอ.รส.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่รักษาการอยู่ตามหน่วยของทหาร ตำรวจทั้งหลาย ได้ตื่นตัวเตรียมรับสถานการณ์ทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะเห็นว่า ขณะนี้มีคนที่พยายามที่จะสร้างสถานการณ์ให้รุนแรง โดยการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ สถานที่ราชการ คือ อาจจะถึงขั้นบุกรุกเข้าไปทำให้เสียหาย นอกจากนั้น ยังได้ขอให้จัดชุดลานตระเวนรอบนอกของที่ตั้งหน่วยทั้งหลาย เพราะเห็นว่า มีความพยายามใช้จรวดอาร์พีจียิงเข้าไปกระทรวงกลาโหม

“ศอ.รส.ยังได้อนุญาตให้ชุดลานตระเวนที่ออกไปตระเวนเส้นทางสายตรวจต่างๆ ได้แต่งเครื่องแบบให้เรียบร้อย และให้มีอาวุธปืนพกติดตัว เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำร้ายประชาชนได้ ที่ทำอย่างนี้เพราะว่า รถกระบะที่คนร้ายได้ทิ้งเอาไว้ตอนไปยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหมนั้น คนร้ายมีปืนกลมือ มีกระสุนมาก ซึ่งในกรณีถ้าหากคนร้ายไปเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจ หรือชุดลานตระเวน คนร้ายอาจใช้ปืนที่มีอยู่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังตัว แต่ได้กำชับชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ต้องแต่งเครื่องแบบชัดเจนว่า เป็นตำรวจหรือทหารที่ทำหน้าที่สายตรวจ” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในจุดอื่นๆ ให้เหมือนเดิมคือไม่พกพาอาวุธใดๆ มีเพียงแต่โล่ห์ กระบองเท่านั้นที่ ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุด ปกป้องชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานแทนประชาชน รวมทั้งการรักษาสถานที่ราชการต่างๆ ให้ปลอดภัย ขอย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายอาสาสมัคร พลเรือน ตำรวจ ทหาร ไม่มีเจตนาจะรบพุ่งกับใคร มีเจตนาเดียวคือ ช่วยกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปกป้องประชาชน ปกป้องประเทศชาติ เท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกประชุม ครม.ที่กระทรวงสาธารณสุข หากกลุ่มคนเสื้อแดงบุกไปจะดูแลกให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่รับผิดชอบให้การประชุมครม.ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย “แต่ผมขอกราบเรียนว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไปปิดล้อมก็จะเข้าข่ายของการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ”

ต่อข้อถามว่า ทำไมไม่เลือก ร.11 รอ.เป็นที่ประชุม ครม.เพราะการดูแลรักษาความปลอดภัยน่าจะง่ายกว่า นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมรู้สึกว่าเป็นท้าทาย เป็นการเผชิญหน้า จึงพยายามประชุมให้ไกลจากผู้ชุมนุมที่สุด เมื่อถามว่า จะไม่เหมือนเหตุการณ์เมื่อ 7 ตุลาฯใช่ไหม ที่ผู้ชุมนุมไปล้อมปิดรัฐสภา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าผู้ชุมนุมคิดจะต่อสู้ด้วยวิธีการอหิงสา ผู้ชุมนุมก็ต้องทำโดยเคารพกฎหมาย การระดมคนมาเป็นแสนมาเป็นล้านรัฐบาลไม่ปิดกั้นอยู่แล้ว รัฐบาลก็ควรทำด้วยวิธีนั้น แต่ถ้าไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมาย ไม่ว่าเป็นรัฐบาลประเทศไหนในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องมีหน้าที่ดูแลรักกฎหมายบ้านเมืองทั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปล้อมกระทรวงสาธารณสุขจริง จะดำเนินการตามกฎหมายคือจับแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามที่จะไม่พูดอะไรไปก่อน เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ตนไปท้าทาย หรือไปข่มขู่อะไรต่างๆ ให้ได้ทราบว่า ตนและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จะพยายามอดทน อดกลั้น และพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างนุ่มนวลที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องดูแลรักษากฎหมายบ้านเมืองไม่ให้มีการฝ่าฝืน

ส่วนที่ระบุกันว่าเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธเข้าไปอยู่ในกระทรวงสาธารณสุขด้วยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างที่ได้เรียนในการปกป้องสถานที่ราชการ หรือการป้องกันหน่วยที่ตั้งต่างๆ ตนได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่มีอาวุธได้ และมีกำหนดกฎเกณฑ์ว่า ใครบ้างที่จะถืออาวุธ และการใช้อาวุธเพื่อปกป้องประชาชน สถานที่ราชการ ปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น ถ้าผู้ชุมนุมไม่บุกรุกคุกคามที่จะไปร้ายเจ้าหน้าที่ หรือเข้าไปทำลายสถานที่ราชการ ก็ไม่ต้องกังวลไม่ไปชุมนุมข้างนอกก็ไม่เป็นไร

“ผมจะดูแลให้การประชุมเป็นไปอย่างตลอดรอดฝั่ง จะเห็นว่า ตนพยายามทุกอย่างมที่จะหลีกเลี่ยง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา โดยมีกำลังมากพอที่จะดูแลสถานการณ์ได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่า เหตุการณ์จะซ้ำรอยอย่างที่กระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเรื่องเฉพาะหน้ากะทันหัน และเราไม่ได้เตรียมการ เพราะไม่คิดว่า ผู้ชุมนุมจะมีพฤติการณ์อย่างนั้น ขณะนี้คิดว่า ผู้ชุมนุมน่าจะเข้าใจดีว่า ที่ชุมนุมกันมาก็ดีอยู่แล้ว พี่น้องประชาชนก็มาร่วมชุมนุมกันได้ รัฐบาลไม่ได้สกัดกั้น ตรงข้ามดูแลอย่างดี ไม่ให้ใครเข้าไปทำร้ายผู้ชุมนุม ซึ่งเราได้ข่าวมาตลอด วันไหนได้ข่าวว่าจะมีคนไปวางระเบิดเวทีเราก็ยังเอาผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดไปตรวจสอบให้อย่างนี้เป็นต้น ได้ข่าวว่าจะเป็นหวัดก็ส่งหมอไปดูแลให้ นี้ก็ทำอย่างดีแล้ว ฉะนั้นเมื่อรัฐบาลจะทำงานของรัฐบาล ผู้ชุมนุมก็อย่าไปก่อกวน ข่มขู่คุกคามก็แล้วกัน วันที่ 24-25 มี.ค.จะมาอีกก็ได้ไม่ว่ากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกลายเป็นการโยงกันหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาบอกว่า รัฐบาลจะจับกุมแกนนำ นายสุเทพ กล่าวว่า จะจับเฉพาะคนที่ทำผิดกฎหมาย อย่างนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ไปขอหมายศาลซึ่งศาลก็อนุญาตแล้ว เพราะนายอริสมันต์ยังคงปลุกปั้นยุยงให้คนทำผิดกฎหมายมีผลต่อความมั่นคงต่อบ้านเมือง

สำหรับเรื่องการเจรจานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ยังเป็นไปได้อยู่ เมื่อผู้ชุมนุมส่งสัญญาณมาว่าจะเจรจาด้วย และมีคนกลางเข้ามาติดต่อรัฐบาลก็ร่วมมือมาโดยตลอด แต่เมื่อผู้ชุมนุมไม่ประสงค์เจรจาด้วยก็ไม่เป็นไร วันข้างหน้านึกได้มาเจรจากันใหม่ก็ไม่เสียหายอะไร เพียงแต่ว่าไม่เจรจากันก็ไม่ต้องโกรธกัน ก็ชุมนุมไป อย่างที่ทำมาก็ดีแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงจำนวนผู้ชุมุนมหรือไม่ว่า ถ้ามีจำนวนมากจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของผู้ชุมนุมได้ นายสุเทพ กล่าวว่า แกนนำต้องมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลควบคุมผู้ชุมนุมให้ชุมนุมโดยสงบ เหมือนที่ตนดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายให้อยู่ในแนวทางที่รัฐบาลได้กำหนดเอาไว้ เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องการแค่ความไม่รุนแรง แต่การชุมนุมที่ไม่ยืดเยื้อภาพลักษณ์ของประเทศชาติจะเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ในประเทศไหนๆ เขาก็มีการชุมนุมกันได้ ตราบใดที่ไม่ทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่า กรณีเกิดเหตุยิงอาร์พีจีผู้ชุมนุมก็กล่าวหารัฐบาลเป็นคนทำ และรัฐบาลก็มองว่า อาจจะเกิดความแตกแยกในบรรดาแกนนำจนมาก่อเหตุ อย่างนี้จะหาจุดร่วมกันอย่างไร ให้คนได้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกคนมีดุลพินิจวิจารณญาณ พวกตนเป็นรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะสร้างสถานการณ์ และเรื่องนี้จะมีความจริงปรากฏชัดขึ้น ยืนยันว่า ตนจะทุ่มสรรพกำลังเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ “ทันทีที่จับได้จะเห็นว่า หน้าตาคล้ายผมหรือคล้ายใคร” ผู้สื่อข่าวถามว่า นานหรือไม่ที่จะจับคนผิดมาลงโทษได้ นายสุเทพ กล่าวว่า กำลังทำอย่างขมักขะเม้นทุกเวลา ดูว่าคนขว้างระเบิดธนาคารกรุงเทพฯเราก็จับได้ ดำเนินคดีได้

ต่อข้อถามว่า การที่มีการสั่งเปลี่ยนกำลังและเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารแสดงว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า มีทั้ง 2 อย่างกำลังพลที่เหนื่อยก็ต้องสับเปลี่ยน บางทีตนมีความจำเป็นที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องขอเพิ่ม ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเตรียมการอะไร อย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือนายวีระ มุสิกพงษ์ กังวลใจที่ออกมาพูด ตนไม่ใช่เป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมขนาดนั้น แก้สถานการณ์ไปตามความจำเป็น เนื่องจากจะต้องมีการประชุม ครม.ต้องมีการเตรียมกำลังมาเพิ่ม เพราะที่มีอยู่ก็เต็มตามสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส.ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าปัญหาที่แท้จริงมันเป็นปัญหาเรื่องความเลื่อมล้ำทางชนชั้น หรือเป็นปัญหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เอง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าคนไทยทุกคนตอบได้ เราอยู่กันมาไม่เคยรังเกียจคนชั้นนั้นคนชั้นนี้ของประเทศ ประเทศไทยไม่ได้แบ่งชนชั้นวรรณะ คนมีเงินกับคนไม่มีเงินไม่ใช่คนละพวกกัน ไม่ใช่เป็นศัตรูกัน

“ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคุณทักษิณและบริวารต้องการที่จะหาเหตุผล ต้องการที่จะใช้ปลุกระดม การปลุกระดมมวลชนที่มีฐานะแตกต่างทางสังคม ลุกขึ้นมาเป็นศัตรูกัน ผมเคยเห็นมาก่อนแล้ว เมื่อตอนเด็กตอนที่คอมมิวนิสต์มายุยงปลุกปั่น แต่สมัยนั้นพรรคคอมมิวนิสต์ต้องแอบๆทำ เพราะมีกฎหมายห้ามเอาไว้ วันนี้พวกคุณทักษิณและบริวารกระทำการอย่างโจ่งแจ้ง เพราะไม่มีกฎหมายที่จำกัดสิทธิ์เหล่านั้น ผมเชื่อว่า คนไทยยอมรับไม่ได้หรอกครับ ที่จะใช้ใครมาปลุกปั่นให้คนไทยแตกแยกกันเอง ในครอบครัวเดียวกัน เกิดจากพ่อแม่เดียวกันก็ยังมีคนที่รวย และจน เป็นพี่เป็นน้องกัน ฐานะต่างกัน แล้วจะมาแยกกันได้อย่างไรว่าใครเป็นไพร่เป็นอำมาตย์ ถ้าเอาความรวย ความจนมาแยกอย่างที่คุณทักษิณพยายาม และผมก็ไม่เข้าใจคุณทักษิณเป็นไพร่หรืออำมาตย์ผมก็ตอบไม่ถูก ประชาชนคนอื่นคงงงเหมือนกัน และคุณวีระผมก็ไม่แน่ใจเป็นไพร่หรืออำมาตย์ เพราะเมื่อก่อนจนเดี๋ยวนี้ดีขึ้น แล้วนายวีระจะมาปลุกให้คนไทยรังเกียจเดียดฉันท์กันทำไมผมคิดว่าคนไทยทั้งประเทศคงไม่เห็นด้วย”

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อไปถึงเมื่อไร แต่รัฐบาลยินดีที่จะให้ชุมนุมเท่าไรก็ได้ นานเท่าไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ทำให้พี่น้องประชาชน คนกรุงเทพฯ หรือคนจังหวัดไหนเขาเดือดร้อน ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายได้ทั้งนั้นแหละ

ส่วนคดียิงระเบิดอาร์พีจี 2 ครั้งนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบ แต่เราอย่าลงลึกในรายละเอียดของคดี ยืนยันมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ

เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมที่เขาไม่ได้มาเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพราะมองรัฐบาล 2 มาตรฐานมีจำนวนเท่าไร นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่า จริงๆ ประชาชนไม่ได้รู้สึกเรื่อง 2 มาตรฐาน แต่ประชาชนที่มาส่วนหนึ่งเขามีความเดือดร้อนส่วนตัวอย่างเรื่องที่ทำกินเป็นต้น อย่างนั้นมี แต่ในกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีกี่ฝักกี่ฝ่ายตนไม่รู้ ส่วนกรณีที่มีผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่คนกรุงเทพฯทั้งหมด ข้อเท็จจริงคือเขามีประมาณ 65,000 คน ซึ่งมีมาก่อนแล้วประมาณ 30,000 คน ส่วนที่เหลือระดมมาจาก กทม.และจังหวัดใกล้เคียงอีกประมาณ 35,000 คน ซึ่งเราเข้าใจ และในวันที่ 24-25 มีนาคม ที่เขาจะระดมกันอีกรอบนั้น เรายังประเมินไม่ได้ว่าจะมีจำนวนเท่าไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผบ.เหล่าทัพเกิดอาการแกว่งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่แกว่ง ทุกอย่างเรียบร้อย ต่อข้อถามว่าการปฏิวัติลืมไปได้เลยใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มี เมื่อถามว่า เราจะมีโอกาสเห็นการสลายการชุมนุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเองไม่ต้องการเห็นและไม่อยากให้มีโอกาสนั้นและยืนยีนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ยิงเอ็ม 79 เข้าการะทรวงสาธารณสุข นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงยิงไม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น