ASTVผู้จัดการรายวัน - "นายกรัฐมนตรี"ระบุ ยิงเอ็ม 79 ถล่มราบ 1 ผู้กระทำหวังให้เกิดความรุนแรงวุ่นวาย ยันออก พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ไม่อยู่ในความคิด "สุเทพ" เชื่อหวังยั่วยุทหารตอบโต้ นครบาลเร่งหาหลักฐาน ได้กล้องวงจรปิด 5 ตัว ล่าสุดเอ็ม 79 อีกลูกตกย่านลาดพร้าว บ้าน"อักขราทร" ขณะที่เชียงใหม่มือมืดขว้างระเบิดใส่บ้านพ่อตา “เนวิน”
วานนี้ (16 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่คนร้ายก่อเหตุยิงเอ็ม 79 เข้าไปภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรัดในเรื่องนี้ส่วนการป้องกันการข่าว ก็พยายามเต็มที่ อย่างไรก็ตามการข่าวการก่อวินาศกรรมนั้นยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า เหตุยิงเอ็ม 79 นั้นมีการเชื่อมโยงไปถึงการจับกุมโรงงานผลิตอาวุธหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ยังไม่มี มันไปบ่งบอกอย่างนั้นไม่ได้" เมื่อถามว่า การที่ไปตรวจพบอาวุธ เเละมีการไปยิงถล่มค่ายทหาร มันส่งสัญญาณอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณว่า ยังมีคนที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ความเข้าใจผิด ความขัดเเย้ง อยู่ ซึ่งรัฐบาลยืนยันมาตลอด ส่วนผู้ชุมนุมที่กังวลว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อปูทางไปสู่การใช้กฎหมายพิเศษมาปราบปรามนั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีเเนวคิดเข้าปราบปรามประชาชนผู้ชุมนุมตามกฎหมาย เเละตอนนี้ยังไม่มีการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เมื่อถามว่าล่าสุด มีเหตุระเบิดใกล้บ้านพักนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เเล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้รับรายงานเเล้ว เเต่เป็นคนละซอยกัน
* เร่งตร.หาแหล่งที่มา เอ็ม 79
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ตนกังวลใจอยู่ และได้พยายามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมแหล่งผลิต เอ็ม 79 แต่ไม่รู้ว่า เอ็ม 79 ที่ผลิตเรียบร้อยแล้วไปตกอยู่กับใครบ้าง ซึ่งกรมทหารราบที่ 1 เราเคยใช้เป็นกองบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แต่จากประสบการณ์เราเห็นว่า เป็นสถานที่ที่ป้องกันยาก เพราะอยู่ใกล้ทางด่วน ซึ่งสามารถใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาได้ เราพยายามหาวิธีป้องกัน แต่ทำได้ยาก หากจะนำปืนสไนเเปอร์ขึ้นไปอยู่บนอาคารโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ก็จะถูกกล่าวหาว่าเอากำลังไปซุ่มยิง จึงเปลี่ยนมาใช้กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร. 11 รอ.) เป็นกองบัญชาการแทน ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกินความคาดหมาย
"อยากเรียนไปถึงผู้ที่มุ่งสร้างสถานการณ์ ในลักษณะที่โจมตีค่ายทหาร หรือที่ตั้งของทหาร ขอให้นึกถึงว่า อาจจะไปถูกเด็กที่เป็นลูก และเขาก็จะเกลียดชังท่านมากขึ้น ดังนั้นอย่าทำเลย เพราะไม่เป็นผลดี เราคนไทยด้วยกัน การใช้ความรุนแรงไม่มีประโยชน์ และไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นปกติ ธรรมดาในประเทศไทย ประวัติศาสตร์ประเทศไทย แนวความคิดแตกต่างกันได้แต่เราจะไม่เข่นฆ่ากัน" นายสุเทพกล่าว
* เชื่อแสดงผลงานเอาใจ"ทักษิณ"
ต่อข้อถามที่ว่า เหตุการยิงเอ็ม 79 สงสัย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็เฝ้าระวัง พล.ต.ขัตติยะ อยู่แต่ก็ยังมีกลุ่มอื่นที่ต้องเฝ้าระวังด้วย จากการวิเคราะห์ของตน คิดว่าคนที่ทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับคำสั่งตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างคนต่างพยายามสร้างผลงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนหนักใจ ทั้งนี้แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายก็มีปัญหากันอยู่บ้าง ตนได้ติดตาม และพยายามหาวิธีป้องกัน คนที่ยิงเอ็ม 79 เป็นคนที่ได้รับการฝึกมาแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นทหารหรือตำรวจ เพราะคนธรรมดาเมื่อไปฝึกมา ก็สามารถยิงได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า ศอ.รส.ประเมินว่า กลุ่มใดก่อเหตุ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนสงสัยบางกลุ่มและได้ตรวจสอบติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่ชัดเจน ถ้าชัดเจนจะแจ้งให้ทราบ คิดว่า สิ่งที่ทำเพื่อต้องการยั่วยุให้ทหารออกมาตอบโต้ เพื่อให้เกิดเหตุรุนแรง และนำไปขยายผล ซึ่งตนได้เตือนกำลังพลทุกคนว่า เราทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นต้องอดทน อดกลั้น
เมื่อถามว่า การยิงเอ็ม 79 เข้าไปใน ร. 11 รอ. ในช่วงกลางวัน ถือเป็นการท้าทายอำนาจรัฐหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนกลางวันเป็นช่องโหว่ของตนจริงๆ เพราะถ้าตนตั้งด่านตรวจ ทุกคนจะเดือดร้อนมาก ดังนั้นการตั้งด่านตรวจชุดลาดตระเวน จึงทำเฉพาะตอนกลางคืน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชิวิตอย่างปกติสุขให้มากที่สุด
* ยิงเอ็ม 79 ซอยบ้าน"อักขราทร"
พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เรียก สว.สส.ในสังกัด บก.น.2 ทุกโรงพัก เข้าประชุมหามาตรการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยบ้านพักบุคคลสำคัญ และสถานที่ราชการ หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้ M-79 ยิงใส่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน1 รอ.) ในพื้นที่ สน.บางซื่อ และเหตุการณ์ที่คนร้ายยิง M-79 ใส่บ้านนักธุรกิจในซอยลาดพร้าว 23 ใกล้กับบ้านของนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครอง โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเหตุคนร้ายที่ยิงระเบิด M-79 ใส่บ้านนักธุรกิจภายในซอยลาดพร้าว 23 คนร้ายไม่น่ามีวัตถุประสงค์มุ่งเป้าไปที่บ้านของนายอักขราทร เนื่องจากจุดที่คนร้ายก่อเหตุกับจุดที่เกิดระเบิดขึ้นห่างกันประมาณ 300 เมตร ซึ่งบ้านของนายอักขราทร อยู่ห่างจากจุดที่เกิดการระเบิดประมาณ 300-400 เมตร จึงไม่อยู่ในรัศมีทำการของเครื่องยิงระเบิด M-79 ที่จะสามารถยิงถึงได้ แต่หากคนร้ายยิงจากที่สูงด้วยวิถีโค้งก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ตนเชื่อว่าเป้าหมายของคนร้ายน่าจะเป็นการก่อกวนเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบมากกว่า ซึ่งตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาจุดเสี่ยงที่เป็นยอดตึกสูงในบริเวณใกล้เคียงประมาณ 5 จุดแล้ว แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบพยานหลักฐานและร่องรอยของคนร้ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนและอาคารต่างๆ บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
* 2 เหตุการณ์ไม่น่าเชื่อมโยงกัน
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุดังกล่าวนั้นจากการตรวจสอบกระสุน M-79 พบว่าหัวกระสุนเป็นสีบรอนซ์ ส่วนเหตุที่ ร.1 พัน 1 รอ. ทราบว่าหัวกระสุนเป็นสีทองแดง ซึ่งหัวกระสุนสีทองแดงจะมีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงกว่า ตนได้สั่งการประสานขอกล้องวงจรปิดจากโทลล์เวย์ดอนเมือง ตั้งแต่จุดขึ้นโทลล์เวย์จนกระทั่งจุดสิ้นสุด ประมาณ 9 ตัว พร้อมทั้งกล้องจากทางด่วนในบริเวณใกล้เคียงมาตรวจสอบหารถยนต์ต้องสงสัย แต่เบื้องต้นยังไม่พบรถยนต์ต้องสงสัยของคนร้ายแต่อย่างใด ส่วนคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะยิงมาจากบนโทลล์เวย์ และยิงขณะรถจอดนิ่งมากกว่า และคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 คน อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 ไม่น่ามีส่วนเชื่อมโยงกัน
* วงจรปิด 5 ตัวตรวจยิง ร.1
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เรียกฝ่ายสืบสวน บก.น.5 มาร่วมสอบสวนเพื่อคลีคลายคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิง M-79 ใส่ ร.1 พัน 1 รอ. ในท้องที่ สน.บางซื่อด้วย โดยมีการรวบรวมกล้องวงจรปิดทั้งแต่ดอนเมืองจนถึงทางลงโทลล์เวย์ขาเข้า ซึ่งขณะนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด 5 ตัวแล้ว ส่วนกล้องอีก 2 ตัวบริเวณทางด่วนดอนเมือง และแจ้งวัฒนะ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
* เจ้าของบ้านเกิดเหตุปัดไม่มีความขัดแย้ง
นายวรสิทธิ์ เกียรติทวีอนันต์ นักธุรกิจนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศจีน ฐานะเจ้าของบ้านที่ถูกยิงเอ็ม 79 กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เคยมีความขัดแย้งทางธุรกิจกับใคร ซึ่งบ้านตนกับบ้านนายอักขราทร อยู่กันคนละซอย โดยบ้านนายอักขราทรอยู่ซอยลาดพร้าว 25 ซึ่งขณะที่เกิดเหตุเสียงระเบิดดังมากตกลงมาตรงกลางห้องนอนของลูกเป็น 2 รูใหญ่ แต่โชคดีไม่มีใครอยู่และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
“เป็นความโชคร้ายบนความโชคดี เกิดขึ้นในบ้านแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย ผมก็ยังมีลูกเล็ก ไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อนด้วย” นายวรสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภายในซอยลาดพร้าว 23 เป็นซอยเดียวกับบ้านของ พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และประธานเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง (พีเน็ต) และยังมีบ้านของนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายอาจจะพุ่งเป้าไปที่บ้านของนายอักขราทร แต่พลาดไปตกที่บ้านหลังอื่น
* มือมืดปาระเบิดบ้านพ่อตา“เนวิน”
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น.ของวานนี้ (16 มี.ค.) ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนขว้างระเบิดทำเองขนาดเท่าลูกเทนนิสเข้าใส่บริเวณบริษัทเชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 30 ถนนมหิดล ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของนายคะแนน สุภา พ่อตานายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยระเบิดตกลงบริเวณสนามหญ้า ส่งเสียงดัง และทำให้กระจกแตกเพียง 1 บาน แต่ไม่ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเหตุดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุทันที
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบซีซีทีวีโดยรอบที่เกิดเหตุและเร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีว่าอาจจะเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงการเมืองหรือแก๊งป่วนเมืองที่อาศัยสถานการณ์ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบมีกระจกสำนักงานชั้นล่างแตกเสียหาย 1 บาน คาดว่าคนร้ายจะปาระเบิดแบบทำเองที่มีลักษณะคล้ายลูกเทนนิสเข้ามาตกบริเวณสนามหญ้าแต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจดูกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้านอยู่ แต่ทราบว่าเสียหายไม่สามารถบันทึกภาพได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 มี.ค.) ได้เกิดเหตุประทัดยักษ์ระเบิดที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาประตูช้างเผือก ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเกิดเสียงดังเท่านั้น แต่ไม่มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ในช่วงเกิดเหตุมีวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาพร้อมกัน 2 คัน แล้วโยนประทัดยักษ์ใส่กันที่บริเวณใกล้กับหน้าธนาคารพอดี.
วานนี้ (16 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่คนร้ายก่อเหตุยิงเอ็ม 79 เข้าไปภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรัดในเรื่องนี้ส่วนการป้องกันการข่าว ก็พยายามเต็มที่ อย่างไรก็ตามการข่าวการก่อวินาศกรรมนั้นยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า เหตุยิงเอ็ม 79 นั้นมีการเชื่อมโยงไปถึงการจับกุมโรงงานผลิตอาวุธหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ยังไม่มี มันไปบ่งบอกอย่างนั้นไม่ได้" เมื่อถามว่า การที่ไปตรวจพบอาวุธ เเละมีการไปยิงถล่มค่ายทหาร มันส่งสัญญาณอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณว่า ยังมีคนที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ความเข้าใจผิด ความขัดเเย้ง อยู่ ซึ่งรัฐบาลยืนยันมาตลอด ส่วนผู้ชุมนุมที่กังวลว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อปูทางไปสู่การใช้กฎหมายพิเศษมาปราบปรามนั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีเเนวคิดเข้าปราบปรามประชาชนผู้ชุมนุมตามกฎหมาย เเละตอนนี้ยังไม่มีการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เมื่อถามว่าล่าสุด มีเหตุระเบิดใกล้บ้านพักนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เเล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้รับรายงานเเล้ว เเต่เป็นคนละซอยกัน
* เร่งตร.หาแหล่งที่มา เอ็ม 79
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ตนกังวลใจอยู่ และได้พยายามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมแหล่งผลิต เอ็ม 79 แต่ไม่รู้ว่า เอ็ม 79 ที่ผลิตเรียบร้อยแล้วไปตกอยู่กับใครบ้าง ซึ่งกรมทหารราบที่ 1 เราเคยใช้เป็นกองบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แต่จากประสบการณ์เราเห็นว่า เป็นสถานที่ที่ป้องกันยาก เพราะอยู่ใกล้ทางด่วน ซึ่งสามารถใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาได้ เราพยายามหาวิธีป้องกัน แต่ทำได้ยาก หากจะนำปืนสไนเเปอร์ขึ้นไปอยู่บนอาคารโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ก็จะถูกกล่าวหาว่าเอากำลังไปซุ่มยิง จึงเปลี่ยนมาใช้กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร. 11 รอ.) เป็นกองบัญชาการแทน ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกินความคาดหมาย
"อยากเรียนไปถึงผู้ที่มุ่งสร้างสถานการณ์ ในลักษณะที่โจมตีค่ายทหาร หรือที่ตั้งของทหาร ขอให้นึกถึงว่า อาจจะไปถูกเด็กที่เป็นลูก และเขาก็จะเกลียดชังท่านมากขึ้น ดังนั้นอย่าทำเลย เพราะไม่เป็นผลดี เราคนไทยด้วยกัน การใช้ความรุนแรงไม่มีประโยชน์ และไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นปกติ ธรรมดาในประเทศไทย ประวัติศาสตร์ประเทศไทย แนวความคิดแตกต่างกันได้แต่เราจะไม่เข่นฆ่ากัน" นายสุเทพกล่าว
* เชื่อแสดงผลงานเอาใจ"ทักษิณ"
ต่อข้อถามที่ว่า เหตุการยิงเอ็ม 79 สงสัย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็เฝ้าระวัง พล.ต.ขัตติยะ อยู่แต่ก็ยังมีกลุ่มอื่นที่ต้องเฝ้าระวังด้วย จากการวิเคราะห์ของตน คิดว่าคนที่ทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับคำสั่งตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างคนต่างพยายามสร้างผลงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนหนักใจ ทั้งนี้แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายก็มีปัญหากันอยู่บ้าง ตนได้ติดตาม และพยายามหาวิธีป้องกัน คนที่ยิงเอ็ม 79 เป็นคนที่ได้รับการฝึกมาแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นทหารหรือตำรวจ เพราะคนธรรมดาเมื่อไปฝึกมา ก็สามารถยิงได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า ศอ.รส.ประเมินว่า กลุ่มใดก่อเหตุ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนสงสัยบางกลุ่มและได้ตรวจสอบติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่ชัดเจน ถ้าชัดเจนจะแจ้งให้ทราบ คิดว่า สิ่งที่ทำเพื่อต้องการยั่วยุให้ทหารออกมาตอบโต้ เพื่อให้เกิดเหตุรุนแรง และนำไปขยายผล ซึ่งตนได้เตือนกำลังพลทุกคนว่า เราทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นต้องอดทน อดกลั้น
เมื่อถามว่า การยิงเอ็ม 79 เข้าไปใน ร. 11 รอ. ในช่วงกลางวัน ถือเป็นการท้าทายอำนาจรัฐหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนกลางวันเป็นช่องโหว่ของตนจริงๆ เพราะถ้าตนตั้งด่านตรวจ ทุกคนจะเดือดร้อนมาก ดังนั้นการตั้งด่านตรวจชุดลาดตระเวน จึงทำเฉพาะตอนกลางคืน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชิวิตอย่างปกติสุขให้มากที่สุด
* ยิงเอ็ม 79 ซอยบ้าน"อักขราทร"
พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เรียก สว.สส.ในสังกัด บก.น.2 ทุกโรงพัก เข้าประชุมหามาตรการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยบ้านพักบุคคลสำคัญ และสถานที่ราชการ หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้ M-79 ยิงใส่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน1 รอ.) ในพื้นที่ สน.บางซื่อ และเหตุการณ์ที่คนร้ายยิง M-79 ใส่บ้านนักธุรกิจในซอยลาดพร้าว 23 ใกล้กับบ้านของนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครอง โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเหตุคนร้ายที่ยิงระเบิด M-79 ใส่บ้านนักธุรกิจภายในซอยลาดพร้าว 23 คนร้ายไม่น่ามีวัตถุประสงค์มุ่งเป้าไปที่บ้านของนายอักขราทร เนื่องจากจุดที่คนร้ายก่อเหตุกับจุดที่เกิดระเบิดขึ้นห่างกันประมาณ 300 เมตร ซึ่งบ้านของนายอักขราทร อยู่ห่างจากจุดที่เกิดการระเบิดประมาณ 300-400 เมตร จึงไม่อยู่ในรัศมีทำการของเครื่องยิงระเบิด M-79 ที่จะสามารถยิงถึงได้ แต่หากคนร้ายยิงจากที่สูงด้วยวิถีโค้งก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ตนเชื่อว่าเป้าหมายของคนร้ายน่าจะเป็นการก่อกวนเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบมากกว่า ซึ่งตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาจุดเสี่ยงที่เป็นยอดตึกสูงในบริเวณใกล้เคียงประมาณ 5 จุดแล้ว แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบพยานหลักฐานและร่องรอยของคนร้ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนและอาคารต่างๆ บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
* 2 เหตุการณ์ไม่น่าเชื่อมโยงกัน
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุดังกล่าวนั้นจากการตรวจสอบกระสุน M-79 พบว่าหัวกระสุนเป็นสีบรอนซ์ ส่วนเหตุที่ ร.1 พัน 1 รอ. ทราบว่าหัวกระสุนเป็นสีทองแดง ซึ่งหัวกระสุนสีทองแดงจะมีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงกว่า ตนได้สั่งการประสานขอกล้องวงจรปิดจากโทลล์เวย์ดอนเมือง ตั้งแต่จุดขึ้นโทลล์เวย์จนกระทั่งจุดสิ้นสุด ประมาณ 9 ตัว พร้อมทั้งกล้องจากทางด่วนในบริเวณใกล้เคียงมาตรวจสอบหารถยนต์ต้องสงสัย แต่เบื้องต้นยังไม่พบรถยนต์ต้องสงสัยของคนร้ายแต่อย่างใด ส่วนคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะยิงมาจากบนโทลล์เวย์ และยิงขณะรถจอดนิ่งมากกว่า และคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 คน อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 ไม่น่ามีส่วนเชื่อมโยงกัน
* วงจรปิด 5 ตัวตรวจยิง ร.1
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เรียกฝ่ายสืบสวน บก.น.5 มาร่วมสอบสวนเพื่อคลีคลายคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิง M-79 ใส่ ร.1 พัน 1 รอ. ในท้องที่ สน.บางซื่อด้วย โดยมีการรวบรวมกล้องวงจรปิดทั้งแต่ดอนเมืองจนถึงทางลงโทลล์เวย์ขาเข้า ซึ่งขณะนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด 5 ตัวแล้ว ส่วนกล้องอีก 2 ตัวบริเวณทางด่วนดอนเมือง และแจ้งวัฒนะ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
* เจ้าของบ้านเกิดเหตุปัดไม่มีความขัดแย้ง
นายวรสิทธิ์ เกียรติทวีอนันต์ นักธุรกิจนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศจีน ฐานะเจ้าของบ้านที่ถูกยิงเอ็ม 79 กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เคยมีความขัดแย้งทางธุรกิจกับใคร ซึ่งบ้านตนกับบ้านนายอักขราทร อยู่กันคนละซอย โดยบ้านนายอักขราทรอยู่ซอยลาดพร้าว 25 ซึ่งขณะที่เกิดเหตุเสียงระเบิดดังมากตกลงมาตรงกลางห้องนอนของลูกเป็น 2 รูใหญ่ แต่โชคดีไม่มีใครอยู่และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
“เป็นความโชคร้ายบนความโชคดี เกิดขึ้นในบ้านแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย ผมก็ยังมีลูกเล็ก ไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อนด้วย” นายวรสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภายในซอยลาดพร้าว 23 เป็นซอยเดียวกับบ้านของ พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และประธานเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง (พีเน็ต) และยังมีบ้านของนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายอาจจะพุ่งเป้าไปที่บ้านของนายอักขราทร แต่พลาดไปตกที่บ้านหลังอื่น
* มือมืดปาระเบิดบ้านพ่อตา“เนวิน”
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น.ของวานนี้ (16 มี.ค.) ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนขว้างระเบิดทำเองขนาดเท่าลูกเทนนิสเข้าใส่บริเวณบริษัทเชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 30 ถนนมหิดล ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของนายคะแนน สุภา พ่อตานายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยระเบิดตกลงบริเวณสนามหญ้า ส่งเสียงดัง และทำให้กระจกแตกเพียง 1 บาน แต่ไม่ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเหตุดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุทันที
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบซีซีทีวีโดยรอบที่เกิดเหตุและเร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีว่าอาจจะเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงการเมืองหรือแก๊งป่วนเมืองที่อาศัยสถานการณ์ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบมีกระจกสำนักงานชั้นล่างแตกเสียหาย 1 บาน คาดว่าคนร้ายจะปาระเบิดแบบทำเองที่มีลักษณะคล้ายลูกเทนนิสเข้ามาตกบริเวณสนามหญ้าแต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจดูกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้านอยู่ แต่ทราบว่าเสียหายไม่สามารถบันทึกภาพได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 มี.ค.) ได้เกิดเหตุประทัดยักษ์ระเบิดที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาประตูช้างเผือก ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเกิดเสียงดังเท่านั้น แต่ไม่มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ในช่วงเกิดเหตุมีวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาพร้อมกัน 2 คัน แล้วโยนประทัดยักษ์ใส่กันที่บริเวณใกล้กับหน้าธนาคารพอดี.