นายกฯ ระบุ ยังไม่ถึงเวลาถอดปลั๊กสถานีพีเพิลแชนแนล หากไม่ทำผิดกฎหมาย แนะ ปชช.ใช้วิจารญาณรับฟังข่าวสาร เหตุข่าวปล่อยหนาหู พร้อมคุ้มครอง “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ตามคำร้องขอ แนะป้องกันตัวเอง อย่าแดงถ่อยก่อกวน แต่อยากให้แจ้ง จนท.เข้าคลี่คลายสถานการณ์ภายใน 15 นาที ยันสุดสัปดาห์เกาะติดเสื้อแดงชุมนุมฐานบัญชาการตลอดวัน
วันนี้ (11 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจะปิดสถานีพีเพิลแชนแนลของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงไปแล้ว ตนไม่เห็นว่าจะมีเรื่องนี้ แต่มันมีการออกข่าวแปลกๆ เยอะ เพราะตนถูกสอบถามอยู่เรื่อย ว่า มีการหยุดงานมีการอะไรต่างๆ หรือไม่ ฉะนั้น อยากขอย้ำกับทุกท่าน ว่า ขอให้ได้ช่วยกลั่นกรองข่าวสารต่างๆ รัฐบาลจะได้ชี้แจงสิ่งที่เราจะดำเนินการอะไร เราจะเปิดเผย เราจะทำอย่างโปร่งใสอยู่แล้ว ฉะนั้นการดำเนินการอะไรตรวจสอบมาได้ เราชี้แจงได้ อย่าไปตื่นตระหนกตกใจกับข่าวสารต่างๆ ขณะนี้มีการปล่อยข่าวอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่ได้ปิดดีทีวี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เมื่อถามว่า การเชิญชวนคนมาชุมนุมจะผิด พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเชิญชวนคนมาชุมนุมไม่ผิด เพราะเราไม่ได้ห้ามการชุมนุม การชุมนุมเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ว่าถ้าใครไปเชิญชวนทำผิดกฎหมายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าจะเป็นทีวีหรือไม่ทีวีก็ไม่มีใครสิทธิ์เชิญชวนคนให้ทำผิดกฎหมาย ใช้ความรุนแรง ให้ไปทำลายทรัพย์สินของราชการ หรือให้ไปเอาชีวิตใครอย่างไรอย่างนี้ทำไม่ได้ ถ้าเป็นกรณีของสื่อ ปกติเราจะต้องไปที่ตัวคนพูดหรือคนทำก่อน ยกเว้นแต่ว่าสื่อนั้นมีบทบาทเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่คนรู้สึกไม่ปลอดภัยมันลามไปยังสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา อย่างเช่น มัสยิด มีการออกคำเตือนไปยังมัสยิดทั่วกรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันเป็นปัญหาจากประสบการณ์ปีที่แล้วส่วนหนึ่ง เราได้ซักซ้อมทำความเข้าใจ ตนได้คุยกับผู้แทนราษฎรซึ่งเขาก็ห่วงใยเรื่องนี้ ก็ได้มีการอธิบายไปว่าเราจะช่วยกันดูแล อย่างที่ตนเรียนไปว่าอย่าตื่นตระหนก ขอให้ทุกคนคิดเสียว่าต่างคนต่างช่วยกันทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยได้ เราก็สามารถดูแลได้ เมื่อถามว่า จุดไหนเป็นจุดอ่อนไหว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นคิดว่าวันที่ 12 มี.ค.นี้ สิ่งแรกที่เราต้องดูก่อน คือ เรื่องคมนาคม เพราะเส้นทางต่างๆ เมื่อเริ่มมีรถ หรือคนเข้ามาเยอะ อาจจะมีบางจุดซึ่งเกิดปัญหาจราจร หรือเกิดความสับสนได้ ฉะนั้นตรงนั้นจะเป็นจุดสำคัญ พอวันที่ 13-14 มี.ค.เป็นจุดที่เป็นการชุมนุมใหญ่ ส่วนสถานที่ราชการ หรือสถานที่ตกเป็นเป้าก็มีการดูแลอยู่
เมื่อถามว่า 3 วันนี้รัฐบาลประเมินว่าวันไหนจะแรงที่สุด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้แรงสักวัน แต่คนจะมาอยู่ร่วมกันมากคือวันที่ 14 มี.ค. ช่วงการเดินทางจะเริ่มตั้งแต่ 12-13 มี.ค.เราก็จะบริหารเหตุการณ์สถานการณ์ไป แต่ละวันจะไม่เหมือนกัน เมื่อถามว่า แสดงว่า จะมีการประเมินสถานการณ์รายวัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราติดตามตลอดไม่เป็นวันๆ ส่วนวันที่ 15 มี.ค.จะยุติหรือไม่ต้องถามผู้ชุมนุม
เมื่อถามว่า ชุมชนต่างๆ ตอนนี้เริ่มออกมาดูแลตัวเอง อย่างเช่น นางเลิ้ง หรือดินแดง รัฐบาลทำอะไรได้บ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามีการขอมา เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง ก็ได้มีการขอให้ทุกหน่วยงานไปช่วยดูแลให้
เมื่อถามถึงกรณีที่ ASTVผู้จัดการ มายื่นหนังสือขอความคุ้มครองจากรัฐบาล หรือรัฐคุ้มครองไม่ได้ก็จะใช้สิทธิในการป้องกันตัวเอง เกรงว่า จะเกิดการปะทะของประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำอีกครั้งว่าเรามีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เราได้มีการซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่ทุกกระทรวง ทบวง กรม ฉะนั้น ขอความกรุณาว่าอย่าเอาตัวเองไปอยู่ในแง่ของความขัดแย้ง ป้องกันตัวเองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเขากลัวว่าจะมีคนไปเผาอะไรต่างๆ ก็ไประงับยับยั้งได้ แต่ขอให้แจ้งเรา เราจะรีบเคลื่อนที่และส่งเจ้าหน้าที่ไปคลี่คลาย
เมื่อถามว่า ASTVผู้จัดการ ได้ยื่นหนังสือกับ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น นายกฯรับทราบแล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ครับ จะมีมาเป็นระยะๆ ในส่วนผู้ชุมนุมเองก็เช่นเดียวกัน เราได้ตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงาน เหตุผลคือว่า หากมีผู้ไม่หวังดีจากฝ่ายไหนก็ตามสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาแล้วทำให้เกิดความขัดแย้งความเข้าใจผิด อันนั้นเป็นสิ่งที่บางกลุ่มต้องการ ซึ่งรัฐบาลก็มีคณะทำงานชุดนี้ที่พร้อมเข้าไปเพื่อทำความเข้าใจ
เมื่อถามว่า การตั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานประสานงานกับผู้ชุมนุมนั้นนายกอร์ปศักดิ์จะได้รับการยอมรับจากผู้ชุมนุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราคงไม่มาตั้งแง่กันว่าใครยอมรับใคร ไม่อย่างนั้นต้องมาถามว่า รัฐบาลยอมรับแกนนำผู้ชุมนุมหรือไม่ แต่เราพูดถึงว่าถ้าใครก็ตามที่มีความจริงใจว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองนี้ เคลื่อนไหวภายใต้กฎหมาย และไม่นิยมความรุนแรง เราก็ต้องเอาคนที่สามารถสื่อสารกับคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจต่างๆ เข้ามาพูดทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือต่อแนวทางที่จะปรับเพื่อเดินหน้าต่อไป
เมื่อถามว่า ตอนนี้ได้มีการประสานแล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังครับ ยังไม่มีเหตุ พอถึงเวลาเราก็เฝ้าระวัง นายกอร์ปศักดิ์ ก็จะอยู่ด้วย สมมติว่า เราเห็น เช่น เมื่อเข้ามาเกิดมีบางจุดที่เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้ถนน กับผู้ชุมนุมหรือที่ด่าน นายกอร์ปศักดิ์ก็จะสามารถพูดคุยประสานงานได้ เพื่อให้เหตุการณ์ไม่มีปัญหา นี่คือสิ่งที่เราต้องการทำ
เมื่อถามว่า คิดว่า กลไกนี้เป็นประโยชน์หรือไม่ เพราะทางแกนนำเขาระบุว่ามีด่านก็จะแหกด่านทุกด่าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีดีกว่าไม่มี ตนอยากจะขอย้ำว่าการตั้งด่านเพื่อประโยชน์ของผู้ชุมนุมเองด้วย เพราะมีฝ่ายที่ต้องการสร้างความวุ่นวายเราไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมตกเป็นเหยื่อ ฉะนั้นการที่เราตรวจตราเพื่อไม่ให้มีการแทรกซ้อน เช่น อาจจะมีต่างด้าวเข้ามา ซึ่งไม่ควรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หรือถ้าหากใครไม่หวังดี มีใครสวมรอย มียาเสพติดมีอะไรต่างๆ เราก็ต้องมีการตรวจตรา แต่การตรวจไม่ได้ขัดขวาง แต่เพื่อที่จะให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อถามว่าขณะนี้เขารณรงค์กับผู้ชุมนุมให้ละเมิดกฎหมาย พ.ร.บ.มั่นคง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากมีการละเมิดกฎหมายก็ต้องมีการดำเนินการ
เมื่อถามว่า ในวันที่ 12 มี.ค.ยังทำงานปกติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนทำงานปกติ ซึ่งมีนัดกับผู้ช่วยรัฐมนตรีของสหรัฐอเมริกาที่ทำเนียบรัฐบาล
เมื่อถามว่า ถึงกรณีที่ นายโคทม อารียา จะนำข้อเสนอของฝ่าย นปช.มาหารือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่มั้งครับ ตนเห็น นายโคทม มีเอกสารที่เป็นข้อเสนอถึงผู้ชุมนุมด้วย ถึงรัฐบาลด้วย ก็ไม่มีปัญหา เพราะข้อเสนอหลักของนายโคทมคือสันติวิธี ซึ่งแนวทางที่รัฐบาลประกาศมาตลอด
เมื่อถามว่า หลังวันที่ 14 มี.ค.คิดว่า การบริหารราชการแผ่นดินยังทำได้ปกติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราตั้งใจว่าอย่างนั้น เราจะดูสถานการณ์เพราะงานที่ต้องทำก็ต้องทำต่อ ปัญหาประชาชนไม่ได้มีเฉพาะเรื่องนี้ มีเรื่องทุกเรื่องที่ต้องทำงานต่อ ตนจะพยายามไม่ไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง
เมื่อถามว่า มีปัจจัยแทรกซ้อนอะไรที่นายกฯกังวลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่ามีคนบางกลุ่มที่อยากให้รุนแรงวุ่นวาย เราก็จับตาติดตามใกล้ชิดไม่ให้คนเหล่านั้นทำได้สำเร็จ
เมื่อถามถึงการรักษาความปลอดภัยของนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เหมือนเดิม ส่วนวันหยุด 2 วันนั้น ตนจะอยู่ที่อยู่ศูนย์บัญชาการ
