“ปณิธาน” สงสัยเกลือเป็นหนอนงัด “คลังแสง” กองทัพภาค 4 สั่งเข้มอาวุธยุทโธปกรณ์พื้นที่เสี่ยง ไม่เว้นพื้นที่ทหารในเขต กทม.ตกเป็นเป้า คาดแดงชุมนุมไม่เกิน 7 วัน เผย คตม.รายงานอาจมีระเบิด-วางเพลิง ยันยังไม่ประกาศเป็นวันหยุด เตรียมสรุปมาตรการรับมือการชุมนุมสัปดาห์นี้ ยันกำหนดการเยือนออสเตรเลียอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
วันนี้ (7 มี.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีงัดคลังแสง กองพันทหารช่างที่ 401 ซึ่งเป็นพื้นที่ในการดูแลของกองทัพภาค 4 ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่พอสมควร และมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่จึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องนี้ ส่วนจะเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อสรุป แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ เพราะฉะนั้นการสอบสวนจะต้องทำอย่างละเอียด
เมื่อถามว่า ถือเป็นความหละหลวมของทางกองทัพภาค 4 หรือไม่นั้น นายปณิธาน กล่าวว่า คนที่เข้าไปน่าจะรู้ระบบพอสมควร แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน ส่วนจะเป็นคนในหรือไม่นั้นก็กำลังตรวจสอบอยู่เช่นกัน กับพื้นที่ภาคอื่นนั้นก็มีการเฝ้าระวังกันอย่างเต็มที่ เพราะมีรายงานว่ามีความพยายาม กทม.บางส่วนก็มีรายงานว่า มีความพยายามในการที่จะเข้าไปทำการทำนองนี้อยู่ ซึ่งก็ได้กำชับกระทวง ทบวง กรมต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงที่มีเจ้าหน้าที่ ที่ต้องใช้ยุทโธปกรณ์ ให้ดูแลเข้มงวดในเรื่องอาวุธเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงนี้ได้กำชับไปแล้ว
เมื่อถามว่า ทางด้านการข่าวมีการประเมินหรือไม่ว่า การชุมนุมจะรุนแรงและกินเวลานานแค่ไหนอย่างไร นายปณิธาน กล่าวว่า สัปดาห์นี้ก็จะดำเนินการในการเฝ้าระวัง และเข้มงวดในเรื่องการดำเนินการทางกฎหมายมากขึ้น เพราะเชื่อว่าถ้ามาตรการต่างๆ ดำเนินไปได้ด้วยดี การชุมนุมก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ว่าผู้ที่มาชุมนุมคาดว่าน่าจะมาชุมนุมนานกว่าคราวก่อน และขึ้นอยู่กับความพร้อมในการเตรียมการชุมนุม จะมีมากน้อยขนาดไหนในชั้นต้นคาดว่า 3-4 วันแรกไม่น่ามีปัญหาขลุกขลักในแง่การชุมนุม เพราะผู้ชุมนุมเตรียมการมาอย่างดีในหลายเรื่อง แต่เท่าที่ทราบจะมาชุมนุมประมาณ 5-7 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอื่นด้วย
เมื่อถามว่า มีนักวิชาการออกมาติติงรัฐบาล ว่า การออกมาโหมกระพือข่าวในเรื่องการชุมนุม จะเป็นการปลุกเร้ากลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เนื่องจากว่าประชาชนมีความกังวลค่อนข้างมาก การสำรวจความเห็นของประชาชนเห็นได้ชัดว่า มีความเป็นกังวลในเรื่อง การชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีความเป็นกังวลประชาชนจึงต้องการทราบข้อมูลต้องการเห็นชัดเจนว่า รัฐบาลมีมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจ และในขณะเดียวกัน ต้องการให้รัฐบาลบริหารจัดการผู้ที่มาชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจราจร สถานที่ รัฐบาลก็ยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปเป็นการทำตามกฏหมายและเจตนารมณ์ของประชาชนในเรื่องการจัดระเบียบ และเปิดกว้างให้มีการชุมนุมโดยไม่ปิดกั้น สิ่งที่รัฐบาลขอคือความร่วมมือระหว่างผู้ที่มาชุมนุมกับเจ้าหน้าที่และประชาชน ชุมชนต่างๆ นั้น สัปดาห์หน้าก็จะมีการจัดระเบียบต่างๆ เพื่อให้การชุมนุมผ่านพ้นไปได้ด้วยดี รัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมกันต่อต้าน ดูจะเป็นการเอาม็อบมาชนม็อบหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เรียก แต่ชุมชนต่างๆ มีการเตรียมพร้อม เพื่อที่ต้องการจัดระบบป้องกันและบรรเทาเหตุการณ์ที่อาจมีการแทรกซ้อนหน่วยอาสาสมัคร และ สาธารณภัยแห่งต่างๆ ก็จะมีการประชุมกันทุกอย่างเป็นไปตามหน้าที่
“กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระบุให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นมหาดไทยและหน่วยงานอื่นๆเตรียมการในการบรรเทาสาธารณภัยในกรณีที่มีการชุมนุม ก็จะต้องมีการเตรียมการ และในวันจันทร์ตอนบ่ายก็จะมีการประชุมที่ทำเนียบฯ เพื่อจัดระเบียบ ทั้งหมดโปร่งใส” นายปณิธาน กล่าว
เมื่อถามว่า รัฐบาลเตรียมประกาศให้ช่วงที่มีการชุมนุมเป็นวันหยุดราชการหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ยังรอดูความเป็นจริง เพราะไม่อยากให้กระทบ กระเทือน ต่อประชาชน การหยุดทำให้เกิดความไม่สะดวกเกิด ผลกระทบต่อรายได้ และต้องดูการชุมนุมมีผลกระทบต่อการจราจรที่เกี่ยวเนื่องกับนักเรียน โรงเรียน หรือแหล่งธุรกิจ อาจจะต้องมีการจัดระบบในเรื่องนี้ และขณะนี้คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ (คตม.) กำลังพิจารณาอยู่ช่วงในว่าสัปดาห์หน้าคงจะมีข้อสรุปในเรื่องมาตรการต่างๆ เพิ่มขึ้น
เมื่อถามว่า ลักษณะการก่อวินาศกรรมในที่ประชุม คตม.รายงานว่า มีลักษณะอย่างไรบ้าง นายปณิธาน กล่าวว่า มีการติดตามการให้ข่าว การโน้มน้าว ระดมคนบางกลุ่มให้นำเอาอาวุธเข้ามา หรือทำการต่างๆตามที่ชักจูง เช่น การพยายามที่จะใช้อุปกรณ์บางอย่างเพื่อทำให้เกิดการวางเพลิง การทำระเบิดต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นคนที่แอบแฝงต้องการสร้างความปั่นป่วนต่างๆ
เมื่อถามว่า กับกำหนดการของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปออสเตรเลียในระหว่างวันที่ 13-17 มีนาคมนั้น นายปณิธาน กล่าวว่า นายกฯอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการบ้างเล็กน้อย โดยนายกรัฐมนตรีอาจจะเดินทางกลับก่อนกำหนด เพราะต้องการมาร่วมประชุม ครม.ในวันที่ 16 มีนาคม แต่ก็ต้องดูว่าจะกลับมาทันหรือไม่ และสำหรับการเดินทางไปออสเตรเลียในครั้งนี้จะไม่มีนางพิมพ์เพ็ญ ภริยาเดินทางไปด้วยแต่อย่างใด
