“มาร์ค” ตอบไม่ถนัดเหตุคลังแสงถูกงัด อ้างได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้วตั้งแต่ 4 มี.ค.แต่แม่ทัพภาคที่ 4 ยังไม่แจ้งอย่างเป็นทางการ ขอเวลาตรวจสอบ พร้อมปลุกประชาชนออกมาต่อสู้กับความรุนแรง โดยไม่ใช้กำลัง และตกเป็นเหยื่อข้อมูลบิดเบือน วอนฝ่ายค้าน-สื่อ ให้ความร่วมมือนำเสนอข้อเท็จจริง
วันนี้ (7 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภายหลังออกรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” กรณีที่มีการงัดคลังแสง กองพันทหารช่างที่ 401 ว่า จริงๆ แจ้งมาตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เมื่อถามว่าเป็นคลังแสงในต่างจังหวัด การควบคุมจะหละหลวมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบ
เมื่อถามว่า ทำไมเกิดขึ้นที่พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 4 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ เมื่อถามอีกว่า แม่ทัพได้รายงานมาแล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า แม่ทัพยังไม่ได้รายงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ประการแรก ก็อยากจะบอกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์ในเรื่องของการปาระเบิดธนาคาร และรวมไปถึงการที่มีคนได้ออกคลิปที่พูดถึงเรื่องของระเบิดนั้น มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ขณะนี้ก็ได้มีการจับกุมทั้งผู้ขับมอเตอร์ไซค์ที่ได้พาคนไปปาระเบิด ก็จับกุมได้แล้ว คนที่อยู่ในคลิปเสียง ซึ่งได้เผยแพร่ที่พูดถึงเรื่องการระเบิด ก็ถูกจับถูกควบคุมตัวอยู่ และรวมทั้งคนอื่นๆ ซึ่งได้มีการกระทำความผิด เช่น มีอาวุธไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น หรือแม้กระทั่งการพาผู้ต้องหาหลบซ่อน รวมทั้งความผิดอื่นๆ ถ้ามีการยุยงส่งเสริมให้มีการทำผิดกฎหมายนั้น รัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จุดยืนของตนของรัฐบาลนั้นชัดเจน เรื่องของการชุมนุมทางการเมืองนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่พึงกระทำได้ รัฐบาลไม่ได้ถือว่าการชุมนุมนั้นเป็นเรื่องของการที่จะเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล แต่เป็นการชุมนุมแสดงออกทางการเมือง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รับสิทธิตามรัฐธรรมนูญกำกับเอาไว้ชัดเจนว่า ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยไม่สมควร เพราะฉะนั้นประการแรก ก็คือว่า เรามีความจำเป็นเข้มงวดในเรื่องของการที่จะต้องตรวจตราในเรื่องของอาวุธ ประการที่ 2 คือว่า เราจำเป็นที่จะต้องช่วยจัดระเบียบ เพราะว่าถ้ามีการชุมนุมและมีการเดินทางเข้ามากันอย่างมาก ก็ส่งผลกระทบต่อเรื่องของการจราจร การสัญจรไปมา และการใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เราไม่ได้ห้ามการชุมนุม แต่เราขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่ตัดสินใจว่าจะมาชุมนุมนั้น ว่า ขอให้ความร่วมมือในเรื่องของการจัดระเบียบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจอดรถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยานพาหนะ หรือเรื่องอื่นๆ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากจะย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลจะทำนั้น รัฐบาลไม่ได้ขัดขวางการชุมนุม เพียงแต่ว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ผมอยากจะเรียนว่าจริงๆ ขณะนี้สถานการณ์ของบ้านเมืองในประเทศนั้น โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี นโยบายหลายเรื่องกำลังมีการขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือว่า การตรวจสอบรัฐบาลในปัจจุบันก็สามารถทำได้ผ่านกลไกของรัฐสภา ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว ผมอยากจะเรียนว่าผมไม่ขัดข้องที่พี่น้องประชาชนอยากจะมาชุมนุมแสดงออกโดยสงบ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีความชัดเจนว่ามีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งต้องการเห็นความวุ่นวาย ความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ไม่ใช่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่จะมาชุมนุมละครับ แต่เป็นคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งมีวาระแอบแฝงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
“วันนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับผู้ที่จะมาชุมนุม หรือคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมือง แต่วันนี้สิ่งที่ผมอยากจะเชิญชวน ก็คือว่า อยากให้พี่น้องประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ต่อสู้กับคนที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีแต่ความรุนแรงและความวุ่นวาย เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเล็กๆ อยากจะขอความร่วมมือว่าฝ่ายที่ต้องการความสงบนั้น ผมเชื่อว่าประกอบไปด้วย ทั้งรัฐบาล ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนทั่วไป และผมเชื่อว่า คนชุมนุมส่วนใหญ่ที่ต้องการจะแสดงออกทางการเมือง เพื่อเรียกร้องในเรื่องที่เป็นอุดมการณ์ความเชื่อของเขา ขอความกรุณาว่า 3 กลุ่มนี้ผนึกกำลังกันมาต่อสู้กับคนที่ต้องการความรุนแรง เพราะเราคงต้องการที่จะเห็นสังคมไทยนั้น เป็นสังคมที่มีความสงบ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเป็นสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขอความร่วมมือตรงนี้จากพี่น้องประชาชนทุกคน และผมเชื่อว่า เราจะสามารถผ่านและฟันฝ่าวิกฤตการณ์หรือปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีการชุมนุม ซึ่งอาจจะมีความสุ่มเสี่ยงต่อเหตุการณ์แทรกแซงซ้อนได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอความร่วมมือทั้งจากสื่อมวลชน รวมไปถึงนักการเมืองฝ่ายค้านด้วย รัฐบาลมีจุดยืนชัดเจนว่า เราเคารพสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ขอความกรุณาว่าการนำเสนอข่าวสารที่ไปอ้างว่ารัฐบาลจัดทำบัญชีดำบ้าง ก้าวล่วงไปจนถึงเรื่องของพระสงฆ์บ้าง อ้างว่ารัฐบาลเตรียมใช้ความรุนแรงบ้าง สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นความจริง ยืนยันได้ และคิดว่า รัฐบาลได้พิสูจน์มาแล้วตลอดระยะเวลาปีเศษๆ ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลนี้ไม่นิยมการดำเนินการในลักษณะเช่นนั้น เพราะฉะนั้นท่านได้ข่าวสารอะไรมานั้น ขอความกรุณากลั่นกรอง อย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่ต้องการที่จะให้เกิดบรรยากาศความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การสร้างเหตุการณ์ให้นำไปสู่ความรุนแรง การจลาจลหรือสิ่งอื่นๆ เพราะถ้าเหตุการณ์ไปถึงจุดนั้น ไม่มีฝ่ายไหนชนะ แต่ทุกคนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้