“สุเทพ” ลั่นใครปิดถนน-รถไฟ-สนามบินไม่ได้ ต้องสลายทันที ใช้ ราบ 11 บัญชาการ ศอ.รส. พร้อมย้ายไปนอนร่วมนายกฯ สั่งเจ้าหน้าที่อดทน ปัดรัฐคุกคามให้ทหารตั้งทัพข้างบ้าน “เหลิม” ยันรักษาความสงบ บอกข้างบ้านตนก็มี ลั่นพร้อมรับผิดชอบเองหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ถามยุบสภาแก้ปัญหาได้จริงหรือ รับห่วงมีกำลัง รปภ.พื้นที่น้อยเกินไป
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการประเมินการชุมนุมที่น่าจะยืดเยื้อยาวไปถึงสัปดาห์หน้าว่า อย่าเพิ่งคิดเลยไปขนาดนั้น ดูแลไปวันต่อวัน โดยหลักการของ ศอ.รส.ก็คือ ประชาชนต้องสามารถใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ ใครจะไปขัดขวางเส้นทางคมนาคม ปิดถนน ปิดสถานีรถไฟ ปิดสนามบินไม่ได้โดยเด็ดขาด อย่างนี้ต้องสลายทันที ประชาชนต้องไม่ถูกรบกวนด้วยเรื่องอย่างนี้ หากมีการปิดล้อมขั้นตอนการปฏิบัติก็ต้องมีการเจรจา แต่หากเจรจาไม่ได้ก็ต้องมีการสลายการปิดล้อม ซึ่งก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะใช้พื้นที่ใดเป็นกระบอกเสียงในการชี้แจงกับประชาชนในช่วงที่มีการชุมนุม นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ใช้สถานที่เป็นกระบอกเสียง แต่รัฐบาลจะใช้สถานที่เพื่อแถลงข่าวคราวผ่านสื่อมวลชนไปยังประชาชนได้ทราบชัดเจน โดยได้เตรียมสถานที่ที่กรมทหารราบที่ 11 เป็นสถานที่ตั้งกองบัญชาการ ศอ.รส. เมื่อถามว่า ไกลเกินไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เสนอบริเวณใกล้แถวนี้ แต่ตนเห็นว่าใกล้สถานที่ชุมนุมเกินไป เกรงว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากันได้ ควรหลีกไปอยู่ห่างๆ จึงได้เสนอให้ใช้ที่ราบ 11 เพราะถือว่าอยู่ห่างจากจุดใหญ่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศแล้วคือที่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน และมีเวทีใหญ่คือที่สะพานผ่านฟ้าฯ
เมื่อถามว่า ทางฝ่ายภาคประชาชนหลายฝ่ายได้ออกมาเรียกร้องทั้งฝ่ายเสื้อแดงและรัฐบาลให้ยุติความรุนแรง จะให้ความมั่นใจเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่อย่างไรในการรักษาความสงบโดยจะไม่ลุแก่อำนาจบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้ซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายแล้วว่าต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติและประชาน ต้องอดทนและอดกลั้น ไม่ลุแก่โทสะ และจะไม่ทำร้ายประชาชนเด็ดขาด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะไม่พกพาอาวุธ คนที่จะมีอาวุธคือเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่จะแต่งเครื่องแบบแต่ละสังกัดพกอาวุธ ซึ่งก็เป็นการปฏิบัติปกติของหน่วยลาดตระเวนที่ไม่ใช่หน่วยที่มาตั้งประชันหน้ากับผู้ชุมนุม และหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจ หรือหน่วยสวาทที่จะแต่งเครื่องแบบตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษชัดเจน ซึ่งตนจะนำเอาตัวอย่างหน่วยสวาทที่ติดอาวุธครบมาแสดงให้สื่อมวลชนดู นอกนั้นอีก 5 หมื่นคน เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยก็จะมือเปล่าไม่ติดอาวุธ ซึ่งทั้งหมดนี้ตนกังวลใจเรื่องอาวุธมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ออกมาปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งกำลังทหารเหล่านี้เริ่มเข้ามามาตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ (10 มี.ค.) สำหรับสถานที่ที่จะเป็นใช้เป็นศูนย์อำนวยการของ ศอ.รส. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์นั้น นายสุเทพกล่าวว่า จะพยายามจัดตั้งให้เสร็จภายในวันนี้ หากเสร็จตนก็จะย้ายไปทำงานที่ ศอ.รส.ในวันพรุ่งนี้เลย พร้อมกับเตรียมสถานที่สำหรับสื่อมวลชนได้ปฏิบัติงานใน ศอ.รส.ด้วย
เมื่อถามว่าจะพาครอบครัวไปหลบในพื้นที่ต่างจังหวัด หรือเซฟเฮาส์หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนก็ยังไม่ได้คุยกัน ภรรยาและลูกยังอยู่ที่บ้าน แต่ตั้งใจว่าตัวตนเองจะไปอยู่ในที่พักที่เดียวกับนายกฯ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อที่จะสะดวกในการไปปฏิบัติงานแก้ไขสถานการณ์ ส่วนครอบครับก็พยายามจะชักชวนอยู่ ส่วน ครม.ชุดเล็ก 9 คนนั้นไม่ได้ไปอยู่รวมกันในเซฟเฮาส์หรือสถานที่ที่ใช้เป็นกองบัญชาการที่ราบ 11 อยู่บ้านใครบ้านมันสบายกว่า ขณะนี้จะมีเพียงตนกับนายกฯ เท่านั้นที่จะไปอยู่ด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นอกจากครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางออกไปต่างประเทศแล้ว ล่าสุดยังมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่บินไปสิงคโปร์ โดยระบุว่ามีสิ่งผิดปกติเพราะมีทหารไปตั้งกำลังที่วัดบางบอนใกล้บ้านของเขา ถือเป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า มีสัญญาณอะไร ยืนยันว่าฝ่ายรัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะไปคุกคามสิทธิเสรีภาพของใครเลย ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางไปตนไม่ทราบว่าเขาคิดอะไร เรียนแล้วว่าตนเอาทหารอกมาต้องกระจายไปตามจุดต่างๆ ทหารมาจากต่างจังหวัดก็ต้องขอให้อยู่ตามวัดหรือโรงเรียนบ้าง ทหารอาจไปอยู่ข้างบ้านใครบ้าง ข้างบ้านตนก็มี พี่น้องประชานที่อยู่ในกรุงเทพอย่าตกใจถ้าเห็นทหาร ไปอยู่ในวัดหรือโรงเรียนใกล้บ้านท่าน ไม่มีเจตนาไปคุกคาม แต่ตั้งใจไปรักษาความสงบเรียบร้อยปลอดภัยให้ท่าน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่แกนนำพรรคเพื่อไทยต่างพากันพยายามหาเหตุผลข้ออ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ก็เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดตา พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ก็บอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยว และร.ต.อ.เฉลิมก็บินไปต่างประเทศ นายสุเทพกล่าวว่า ขอให้ท่านทั้งหลายปฏิบัติทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมายก็แล้วกัน เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลวางกำลังอย่างเข้มแข็ง ยังมั่นใจใช่หรือไม่ว่ากองทัพยังอยู่กับรัฐบาลนี้ 100% และหากมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ นายสุเทพกล่าวว่า “ผมจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง เขาถึงตั้งให้ผมขึ้นมาดูแลรักษาความสงบของบ้านเมือง ส่วนนายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ผมก็ขอยืนยันให้พี่น้องประชาชาชนสบายอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่นำมาปฏิบัติการครั้งนี้ตระหนักดีว่าเราเป็นข้าราชการของประชาชนและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทำทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีเรื่องอื่นมาแอบแฝง แล้วกาลเวลาก็จะพิสูจน์ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเครือข่ายสันติวิธีไปเจรจากับเสื้อแดงที่ห้างอิมพีเรียล ซึ่ง นพ.เหวง โตจราการ แกนนำ นปช.ระบุว่าหากรัฐบาลยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนก็จะยุติการชุมนุมทันที นายสุเทพกล่าวว่า ต้องกราบขอบคุณนายโคทม และกลุ่มต่างๆ ที่ช่วยกันเรียกร้องให้การชุมนุมคราวนี้เป็นไปโดยสันติ รัฐบาลน้อมรับฟังด้วยความเคารพและพยายามที่จะปฏิบัติตามถึงได้ตั้งคณะเจรจาเอาไว้ ส่วนข้อเรียกร้องของ นพ.เหวง ที่จะให้รัฐบาลยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น การยุบสภาฯเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และมีหลักปฏิบัติที่เป็นสากลกันอยู่ทั่วโลก ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยเขาไม่มีการออกมาข่มขู่รัฐบาลให้ยุบสภา แบบที่เราทำการตัดสินใจยุบหรือไม่ยุบสภาว่าไปตามกลไกกติกา เช่น ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วมีการลงคะแนนเสียง แล้วเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ เห็นว่าฝ่ายค้านพูดจาถูก รัฐบาลปฏิบัติการเสียหาย อย่างนั้นรัฐบาลก็ลาออกหรือยุบสภาฯได้ ก็ควรใช้วิธีการอย่างนั้น
เมื่อถามว่า เหตุผลอื่นก็มี หากรัฐบาลเห็นว่าตัวเองได้เปรียบก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เป็นไปตามวิถีทางปกติที่เขาทำกันทั่วโลก นายสุเทพกล่าวว่า ถูกต้องแต่ว่าไม่ใช่ทำเพราะว่าถูกใครมาข่มขู่และรัฐบาลต้องพินิจพิจารณาว่า การแก้ปัญหาด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่จะมีโอกาสที่จะเกิดความสงบเรียบร้อยได้จริงหรือไม่ แต่บรรยากาศอย่างนี้ก็เห็นได้ชัดว่ามีคนแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ กติกา ถ้าขืนไปยุบสภาฯ ให้มีการเลือกตั้งก็คงไปทุบตีกันในสนามเลือกตั้งเป็นเรื่องวุ่นวาย ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้เสร็จเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนในที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) บอกหรือไม่การเตรียมการครั้งนี้ยิ่งกว่าการมีการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมาเสียอีก นายสุเทพกล่าวว่า “ผมเรียนตรงๆ นะ ผมรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ที่เตรียมในครั้งนี้น้อยเกินไปด้วยซ้ำ ถ้ามีกำลังมากกว่านี้ ผมก็จะใช้ให้มากกว่านี้ ผมยอมรับว่าผมกังวลใจจริง ๆ และอยากจัดเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ให้ทั่ว” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าในพื้นที่ภาคอีสานมีการกว้านซื้อชุดทหารออกไปเป็นจำนวนมาก นายสุเทพกล่าวว่า ตนถึงต้องการให้เจ้าหน้าที่มีการจัดแบ่งกำหนดเครื่องหมายที่แบ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐให้ชัดเจน โดยมีรหัสเฉพาะที่จะสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้ เมื่อถามว่ามีการเตรียมกำลังสำรองเอาไว้เท่าไหร่ หาก 5 หมื่นแรกไม่เพียงพอในการดูแล นายสุเทพกล่าวว่า ก็มีบ้าง เมื่อถามย้ำว่าเป็นหลักหมื่นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออาจจะเกิดเหตุวุ่นวายเหมือนเหตุการณ์เดือนเม.ย. 52 จะฝากเตือนสติคนทุกฝ่ายในบ้านเมืองอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ประชาชนทั้งประเทศคือเจ้าของประเทศตัวจริง ต้องออกมาแสดงว่าต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมาทำอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองโดยส่วนรวม พี่น้องไม่ต้องพาตัวเองเข้ามาเป็นคู่ต่อสู้ หรือคู่ขัดแย้ง และขอความกรุณาจากแกนนำผู้จัดการชุมนุม ต้องดูแลให้การชุมนุมให้เป็นไปตามกฎหมาย ท่านก็จะได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 63 แห่งรัฐธรรมนูญ