"สุรสิทธิ์-ทักษิณ"สุข ทุกข์ บนความเหมือนที่แตกต่าง!

ณ วันนี้ได้เห็นโฉมหน้า "พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์"อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำเลยที่ 43ในคดีทุจริตโครงการสลากเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.52 และมีคำสั่งให้ออกหมายจับ และปรับนายประกันเป็นเงิน 500,000 บาท เนื่องจากหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศเหยียบบนผืนแผ่นดินไทย หลังศาลพิพากษายกฟ้องหลุดพ้นข้อหาไม่มีความผิดในคดีดังกล่าว

วันที่ 5 ส.ค.52"สุรสิทธิ์"ได้ลาออกจากราชการตำรวจ และปลีกวิเวกไปต่างประเทศ โดยอ้างว่ามีแผนจะไปปักหลักทำธุรกิจในต่างประเทศ เนื่องจาก "สุรสิทธิ์"เหมือนกับเชื่อว่าตัวเองได้ทำผิดในคดีหวยบนดิน แต่ในช่วงเวลานี้เขาคือผู้บริสุทธิ์ตามคำพิพากษา ในทางกลับกันสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป สำหรับ บาป บุญ คุณ โทษ จะยังคงอยู่ในตัวเขา แม้กระบวนการยุติธรรม อาจไม่สามารถลงโทษได้ แต่ในวันหนึ่งสำหรับผู้กระทำสิ่งผิด ผลกรรมจะเป็นตัวกำหนดบทลงโทษ

สำหรับ"สุรสิทธิ์"หากเขาย้อนเวลาได้เขาคงไม่หลบหนี และเลิกคิดที่จะโบยบินเอาตัวรอด แต่การหลบหนีครั้งนี้ ว่ากันว่า เป็นผลมาจากมีผู้ชำนาญการด้านตัวบท กฎหมาย คนหนึ่งได้แนะนำให้เขาหลีกเลี่ยงไปต่างประเทศ เพื่อรอตั้งหลักก่อน ซึ่งเมื่อคดีมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่าหลุดคดี วันนี้ "สุรสิทธิ์"จึงสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในเมืองไทยบ้านเกิดเมืองนอนอย่างสงบสุขกับครอบครัว และหากเขาย้อนเวลาได้ เขาจะไม่ลาออกจากราชการตำรวจเด็ดขาด!

ในทางตรงกันข้าม กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ต้องระหก ระเหิน ร่อนเร่พเนจร เสมือนหนึ่งคนไร้ญาติ ขาดมิตร ต้องหนีคดีความไปซุกหัวอยู่ตามหัวเมืองต่างแดนอันหนาวเหน็บ ที่เป็นประเทศระดับโลโซ เพื่อที่จะยืนหยัดให้ตัวเองมีลมหายใจผ่านไปในแต่ละวัน เนื่องจากต้องหลบหนีโทษจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ซึ่งหาก ณ วันนั้น "ทักษิณ"ชายที่เริ่มเข้าสู่วัยชราที่พึ่งผ่านฉลองแซยิดทำพิธีตัดกรรมหงายบาตร คว่ำบาตร รับ 60 ปี ไปเมื่อ 26 ก.ค.52 เขาไม่ได้เดินทางกลับมารับทราบข้อกล่าวหาคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ตามกระบวนการยุติธรรม ศาลคงจำหน่ายคดีออกจากสารบบไปโดยปริยาย

ก่อนหน้านี้ "ทักษิณ" ได้พยายามออนทัวร์ต่างประเทศเป็นประจำ แต่ในวันที่"ทักษิณ"ได้รับคำแนะนำจากกุนซือให้เดินทางกลับมาฟังคำพิพากษา จนทำให้เขาต้องมีคดีความติดตัว หากวันนั้นเขาไม่เชื่อหวนย้อนกลับมากราบผืนแผ่นดินไทย เขาก็คงไม่ต้องหนีไปกบดานตามเมืองนอกที่จัดอยู่ในประเทศระดับโลคลาส ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อให้รอดพ้นการถูกจองจำขังคุกในประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาตามคำสั่งศาลว่าได้ทำผิดจริง

ถ้าเปรียบเทียบแล้ว การที่เขาต้องคอยหลบหนี ต้องใช้ชีวิตนั่งกิน-นอนบนเครื่องบินหรูหราราคานับหมื่น ๆ ล้าน และการเป็นกาฝากหลบซ่อนตัวอยู่ในแต่ละประเทศได้ไม่นาน ก็เป็นการลงโทษให้ต้องทนทุกข์ ทรมารทางใจ กาย เช่นกัน แม้ว่าเขาจะพยายามยิ้มเปี่ยมสุขกับโชคชะตา พร้อมกล่ำกลืน ฝืนใจสร้างสุขหลอก เพื่อประกาศก้องฟ้าว่าเป็นสุขก็ตามที

หาก "ทักษิณ" ไม่ได้รับคำแนะนำที่ผิด ให้กลับมารับทราบข้อกล่าวหา คดีดังกล่าวก็จะไม่เดินไปถึงวันพิพากษาโทษจำคุก 2 ปี

แม้ว่าเขาผู้นี้ "นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร" จะมีเงินกองท่วมหัว แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาฝืนกระบวนการยุติธรรม ฝืนลิขิตการต้องถูกลงโทษกับการที่เขาทำผิด ทำให้เขามีความสุขบนกองเงิน กองทอง ร่วมกับครอบครับของเขาได้ ดั่งเช่น "สุรสิทธิ์" ที่หลุดคดีหวยบนดินก็ตาม กรรมเกิดจากการกระทำของแต่ละคนจะย้อนทิ่มตำ สุข ทุกข์ จริง เท็จ อยู่ที่ใจตัวเองทั้งสิ้น!!!