xs
xsm
sm
md
lg

แฉแผน “แดงชั่ว” ขนม็อบป่วนเมือง คนกรุงร่อนเมลเตือนรับมือพวกถ่อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝ่ายความมั่นคงเผยแผนแดงเคลื่อนไหว กทม. 13-14 มี.ค. ตั้งเป้า “แดงทั้งแผ่นดิน” ด้านประชาชนคนเมืองเร่งส่ง “ฟอร์เวิร์ดเมล” ร่อนกระจายข่าวเฝ้าระวังภัย หวั่นวินาศกรรมบึ้มกรุง-เผาปล้น “ธนาคาร-ร้านทอง-ปั๊มน้ำมัน” เตือนสำรองเงินสด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค. ปรากฎว่าในส่วนของประชาชนทั่วไปได้มีการส่งต่อจดหมายในลักษณะ Forward mail เป็นจำนวนมากแจ้งเตือนประชาชนช่วยกันระวังภัย โดยจดหมายดังกล่าวมีหัวข้อว่า

“ส่งต่อ: ชาว กทม.ช่วยกันระวังภัยเดือนมีนาคม‏” ซึ่งเนื้อหาภายในเขียนถึงที่มาระบุว่า หลังวันตัดสินคดียึดทรัพย์ นช.แม้ว “(จดหมายหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) โอกาสเต็มร้อยว่าจะต้องโดนยึดทรัพย์อย่างแน่นอน ไม่มีทางรอดแน่ พวกเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่โดยระดมพลตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม และเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 14 มีนาคม แจ้งว่าจะมีคน 1 ล้านคนเข้าร่วมพร้อมรถกระบะ 1 แสนคัน ขอให้ชาวกรุงเทพฯเตรียมตัวอย่าประมาทกับการเผาบ้านเผาเมืองที่รุนแรงกว่าเมษาเลือดปีที่แล้ว ในช่วงมีนาคมให้ระมัดระวังสิ่งเหล่านี้

1. ห้ามลูกเล็กเด็กแดงเพื่อนฝูงและญาติๆ ใส่เสื้อสีแดง เพราะอาจตกเป็นเหยื่อโดยถูกเหมารวมเป็นกลุ่มเสื้อแดง เช่นพฤษภาทมิฬ

2. ถ้ามีพี่น้องหรือญาติทั้งในกทม.หรือต่างจังหวัดที่เป็นเจ้าของรถตู้ รถปิกอัพ มอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ อย่าให้ใครยืม หรือให้เช่าเด็ดขาด ไม่ว่าค่าเช่าที่เสนอให้จะสูงล่อใจแค่ไหน เพราะรถที่ท่านให้ยืมไปอาจถูกนำไปใช้เพื่อก่อวินาศกรรม หรือการวางระเบิด รวมทั้งนำมาใช้เพื่อปิดถนน เพื่อให้เข้าเป้า 1 แสนคัน และตำรวจจะตามตัวผู้เป็นเจ้าของรถตัวจริงตามทะเบียน แต่ไม่ใช่คนขับที่ต้องรับผิดชอบหากเกิดเหตุรุนแรง

3. ไอ้กี้ร์ (นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.) มันบอกว่าให้เสื้อแดงเอาขวดเปล่ามาและมาเติมน้ำมันที่กรุงเทพฯ เพื่อให้กรุงเทพเป็นทะเลเพลิง ดังนั้น ถ้ามันเอารถกระบะมาจอด 1 แสนคัน แล้วให้ระเบิด 1 คัน มันก็จะระเบิดตามๆ กันไปจนครบ 1 แสนคัน โดยไม่ต้องอาศัยลากรถแก๊ส เหมือนเดือนเมษาปีที่แล้ว เพราะรถกระบะส่วนใหญ่เติมแก๊สหรือมีถังน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ทุกคนคงจำภาพเหตุการณ์รถขนถังแก๊สที่ระเบิดตอนลงทางด่วนเพชรบุรีเมื่อหลายปีก่อนได้ไหม ว่าสยดสยองแค่ไหน

4. ให้ตามข่าวว่าเมียที่หย่า (คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร) แค่กระดาษกับลูกเมียพร้อมน้องสาวและญาติๆ นช.แม้วในเดือนมีนาคมออกนอกประเทศไทยหรือไม่ ถ้าใช่แสดงว่าต้องมีความรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน เหมือนเมษาปีที่แล้ว ทั้งญาติตระกูลหนีออกประเทศไทย ไปช้อปปิ้งที่ดูไปสบายใจเฉิบ ทิ้งไว้แต่ความฉิบหายให้คนไทยรับกรรมไปเกือบปีกว่าจะฟื้น ทั้งภาพลักษณ์ของประเทศที่ผู้นำมาประชุมอาเซียนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ให้อับอายขายขี้หน้า

5. นช.แม้วขู่มาแล้วว่า ถ้ายึดทรัพย์สินมัน “เละแน่” แล้วอะไรจะเละล่ะ ถ้าไม่ใช่กรุงเทพฯเป็นแดนวิสัญญี และทะเลเพลิง พายัพ ชินวัตรก็ให้สัมภาษณ์สื่อแล้วว่า จะยึดหรือไม่ยึดทรัพย์ ก็มีเรื่องแน่

6. ชาวกรุงเทพฯ ต้องคอยระแวดระวัง จับพลัดจับพลูระวังมันขี่มอเตอร์ไซด์มาอาละวาดเอาปืนยิงเป็นว่าเล่น ตายไป 2 ที่ชุมชนกิ่งเพชร เพชรบุรี เมื่อเมษาปีที่แล้ว

7. อย่าหวังพึ่งตำรวจจากบทเรียนเมษาฯ ปีที่แล้ว เพราะกว่าครึ่งมันจะอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร มันเคยได้น้ำเลี้ยงสถานีละ 1 แสนบาทสมัยนั้น แล้วทำไมมันไม่อยากให้ น.ช.แม้วกลับมามีอำนาจอีกล่ะ

8. บริษัทเอกชนตอนนี้ต่างพากันจ้าง รปภ.เพิ่มโดยเฉพาะในเดือนมีนาคม รวมทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านทอง ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ และธนาคารทั้งหลาย เพราะกลัวโดนปล้นแบบบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปล

ทั้งนี้ จดหมายยังระบุว่า 9.ให้สำรองเงินสดให้พอใช้ในเดือนมีนาคม เพราะตู้เอทีเอ็มอาจต้องปิดไม่ให้บริการ เพราะกลัวโดนทุบและปล้นเงินสดไป อย่าลืมว่าเมื่อถูกยึดทรัพย์ ท่อน้ำเลี้ยงก็จะเหือดแห้ง การปล้นตู้เอทีเอ็ม หรือธนาคาร หรือร้านทอง หรือปั๊มน้ำมัน เพื่อเอาเงินสดไปจ้างสมุนเสื้อแดงมีความจำเป็นอย่างมาก ปล้นปั๊มน้ำมันเอาน้ำมันฟรีมาเติมกระบะ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ ที่ใช้ในการก่อวินาศกรรม

10. ธนาคารหลายแห่งอาจจำเป็นต้องหยุดให้บริการ โรงเรียนหลายแห่งจะปิดเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ให้เตรียมตัวรับมือไว้ด้วย

นอกจากนี้จดหมายยังชี้ให้เห็นว่า 11.ช่วงต้นมีนาคมจะเริ่มค่อยๆระดมพลเป็นกองทัพมดเพื่อมาชุมนมในกรุงเทพฯ แหล่งพักคนคือวัดใหญ่มากๆที่จังหวัดปทุมธานี และที่สมุทรปราการ อยุธยา ลพบุรี 12.ให้ช่วยกันสวดมนต์ให้คนดีปลอดภัย ใครก่อกรรมทำชั่วให้เป็นมะเร็งตายในเร็ววัน และตกนรกทั้ง 7 ชั่วโคตร และข้อสุดท้าย 13.ขอให้ทุกคนโชคดี ไม่มีภัยมาถึงตัว

สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงวันที่ 12-14 มีนาคมนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยแผนการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อล้มรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และระบอบอมาตยาธิปไตย ว่า จะแบ่งเป็น 3 ห้วงเวลาคือ ในวันที่ 1-11 มี.ค.53, วันที่ 12 มี.ค.53  “12นาฬิกา ลั่นกลองศึก เขย่าขวัญอำมาตย์” ซึ่งเป็นวันระดมคนเดินทางเข้ามาเพื่อร่วมชุมนุม ในวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันชุมนุมใหญ่โดยใช้มวลชนคนเสื้อแดง 1 ล้านคน (1 ใน 3 ของยอดถวายฎีกาฯ) พร้อมด้วยรถยนต์ต่างๆ จำนวน 1 แสนคัน

ภารกิจครั้งนี้แกนนำและแนวร่วม เร่งชี้แจงข้อมูลความจริงที่เกิดขึ้นโดยเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น เพื่อให้มวลชนมาร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมอย่างสันติวิธี ปราศจากอาวุธ เพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และระบอบอำมาตยาธิปไตย ภายใน 3 วัน (14-16 มี.ค.) หรือ 7 วันเป็นอย่างช้า (14-20 มีนาคม) เพราะหากล่วงเลยไปมากกว่านี้จะประสบปัญหาเรื่องการบริหารจัดการชุมนุม และใกล้เทศกาลสงกรานต์ 2553 ซึ่งจะส่งผลต่อมวลชนที่มาร่วมชุมนุม และสนับสนุนที่ยาวนาน

แหล่งข่าวยังอ้างถึงแผนของกลุ่มผู้ชุมนุมแบ่งการเคลื่อนไหวออกเป็นห้วงๆ คือ วันที่ 1-11 มี.ค. แกนนำ นปช.ส่วนกลาง เดินทางพบปะแกนนำในส่วนภูมิภาค อย่างน้อย 38 จังหวัดเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ การเคลื่อนไหว ความพร้อม การวางแผนเปิดเวทีปราศรัย เร่งให้ข้อมูลปลุกระดมให้ผู้ฟังเกิดแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีการปราศรัยในจังหวัดสำคัญเช่น จังหวัดนครราชสีมานำโดยนายสุพร อัตถาวงศ์, นายนิสิต สินธุไพร, จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดอุทัยธานี นำโดยนาย พายัพ ปั้นเกตุ, จังหวัดแพร่ นำโดยนางลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ โดยทั้งหมดจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีเพิล ชาแนล เครือข่ายวิทยุชุมชน และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

วันที่ 12-13 มี.ค. นปช.ส่วนกลาง(กรุงเทพฯและปริมณฑล) จะเดินทางไปยังบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาส เพื่อจัดพื้นที่ชุมนุม ซึ่งจะตั้งเวทีใหญ่บริเวณสะพานด้านป้อมมหากาฬ ขยายพื้นที่การชุมนุมไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-แยกคอกวัว-สนามหลวง และแยกจปร. ส่วนอีกเวทีคือ สานมัฆวานรังสรรค์-แยกสวนมิกสกวัน-แยกลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณลานพระราชวังดุสิต ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนลจะปรับผังรายการนำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวชุมนุม “เคลื่อนพลทั้งแผ่นดิน โค่นล้มรัฐบาล-อำมาตย์-ยุบสภา”

สำหรับการเคลื่อนไหวในกทม.และปริมณฑล เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-12 มี.ค. เวลา 17.00-24.00 น. ชมรมสื่อเพื่อประชาธิปไตยร่วมกับเครือข่ายสถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง นำโดย นายสะอาด จันทร์ดี, พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ เปิดเวทีสาธารณะปราศรัยที่ท้องสนามหลวง(ด้านทิศเหนือ) จัดต่อจากเวทีแดงสยาม โดยมีบุคคลสำคัญผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นปราศรัยได้แก่ พล.ต.อ. สุวรรณ สุวรรณเวโช พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก, นางดารุณี กฤตบุญญาลัย, นายไพโรจน์ อิสรเสรีพงษ์ สส.กทม.เขต 6 พรรคเพื่อไทย นายเมธี อมรวุฒิกุล เป็นต้น ร่วมกับผู้ดำเนินรายการจากสถานีวิทยุชุมชนเครือข่าย นปช.

สำหรับวันที่ 14 มี.ค. เวลา 16.00-20.00 น. นปช.ไผ่แดง’ 52 หนองแขมแดงทั้งแผ่นดินภาคประชาชน เปิดศูนย์รับบริจาค เงิน และอาหาร เพื่อเป็นเสบียงใช้ในการชุมนุมใหญ่บริเวณศูนย์ไผ่แดง 52 หนองแขม ถ.เพชรเกษม114 เขตหนองแขม กทม. วันที่5 มี.ค. เวลา 18.00น. ชมรมกูรักแดง (ประชาชื่น จตุจักร ประชานิเวศน์) จัดงาน “สังสรรค์เสวนาลั่นกลองรบ” ที้ร้านอาหารอิมพ์รภัส ถ.รัชดาภิเษก ซ.52 เขตจตุจักร โดยมี พ.ต.ท. กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นแกนนำสมาชิกพรรคเพื่อไทย กลุ่มกรุงเทพ 50 สำหรับวันที่ 6 มี.ค.เวลา 18.00-16.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช.แดงทั้งแผ่นดินที่วัดนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม โดย นาย วีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายนิสิต สินธุไพร นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายวิสา คัญทัพ และคณะเป็นวิทยากรอบรม

แหล่งข่าวคนเดิมเปิดเผยต่อไปว่า ในห้วงวันที่ 6-11 มี.ค. เวลา 17.00-23.00 น. กลุ่มพระสงฆ์นำโดยพระมหาโชว์ ทัสสนีโย จะเปิดเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง โดยในวันที่ 7 มี.ค. เวลา 13.00 น. นปช.เขตบางคอแหลม สาทร และยานนาวา ประชุมที่วัดจันทร์ในซอยเจริญกรุง 107 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนชุมนุมใหญ่วันที่ 14 มี.ค.

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในวันที่12 มี.ค.เวลา 15.00 น. มวลชนคนเสื้อแดงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะนัดหมายรวมตัวกันในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 15.00 น. ที่บริเวณ อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยจะเคลื่อนขบวนตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ผ่านจังหวัดสระบุรีเพื่อร่วมชุมนุมที่สนามหลวงโดยมียอดมวลชน 3 แสนคน เดินทางโดยรถยนต์ กระบะ รถยนต์ไทยประดิษฐ์ใช้ในเกษตรกรรม (รถอีแต๋น) รถบรรทุก 6 ล้อ ประมาณ 1 หมื่นคน นำโดย ร.อ.สุพจน์ เมืองครุฑ อดีตนายทหารม้า และทหารพรานค่ายปักธงชัย เป็นประธานการ์ด นปช.

โคราช “นักรบทุ่งสัมฤทธิ์” ระดมรถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะ ประมาณ 500 คัน คันละ 10 คน รวมเป็น 5 พันคน จากอ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ร่วมสมทบกับกลุ่มนปช.ร้อยเอ็ด นำโดยนายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ปราศรัยระดมมวลชนก่อนเข้าสู่กทม.ในวันที่ 12 มี.ค. ทั้งนี้ นปช.อ.วาปีปทุม ใช้รถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียงจำนวน 2 คันออกประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม

นอกจากนี้ นปช.ลพบุรี ก็จะทำพิธีบริเวณพระบรมราชานุสาวรียพระนารายณ์มหาราช มวลชนประมาณ 5 พันคน ก่อนเดินทางชุมนุมในกทม.วันที่ 14 มี.ค. ด้าน นปช.สิงห์บุรี จัดกิจกรรมสักการะพระเจ้าตาก ค่ายบางกุ้ง และเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มี.ค. นัดรวมตัวบริเวณใต้สะพานทางเข้าแม่กลอง เวลา 11.00 น.เคลื่อนขบวนไปยังถนนราชดำเนิน ในวันที่ 13 มี.ค.กลุ่มคนเสื้อแดงภาคกลางนำโดยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายพายัพ ปั้นเกตุ จะมาพักมวลชนที่พื้นที่ภาคกลางบริเวณ อู่ไพศาลยนต์ ต.บ้านหวาย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 12.00 น. ก่อนจะเดินทางเข้ากทม.โดยทางรถและทางเรือ

ด้าน นปช.ชัยนาท จะนำสมาชิกไปให้การสนับสนุนด้านอาหารและน้ำดื่มแก่คนเสื้อแดงภาคเหนือที่เดินทางมายังจุดพักชั่วคราวบ้านตึก อ.สรรพยา ก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดพักรถกลุ่มนปช.ภาคเหนือ และจะปรับขบวนมุ่งหน้าสู่กทม. สำหรับนปช.ภาคตะวันตกในวันที่ 12มี.ค. นปช.ราชบุรีพร้อมแกนนำเสื้อแดง 7 จังหวัดภาคตะวันออกประชุมเตรียมพร้อมที่ศาลาเจ้าพระยาจักรี จะมอบธง นปช.ธงประจำภาค และธงประจำจังหวัดเพื่อนำไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กทม.และมติที่ประชุมระบุว่า หากมีการสกัดกั้นจะนำสิ่งปฏิกูลขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ด้วย

สำหรับกิจกรรมใน กทม.และจังหวัดปริมณฑลจะจัดพิธีกรรมเผาพริกเผาเกลือ เผาโลงศพจำลองติดรูป พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และรูปเครือข่ายกลุ่มอำมาตย์ รวมทั้งรูปองค์คณะตุลาการศาลฎีกาฯ คดียึดทรัพย์ ตามบริเวณอนุสาวรีย์ ศาลากลางจังหวัด สวนสาธารณะ และหอนาฬิกา

จากนั้นจะปลุกระดมมวลชนรอบเมืองด้วยขบวนธงชาติ ธงแดง ธงนปช.แดงทั้งแผ่นดินผ่านจุดสำคัญทางสัญลักษณ์ในกทม.จำนวน 6 จุดสำคัญได้แก่ จุดแรก บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือวงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี โดยเครือข่ายแดงตากสิน-ธนบุรี นำโดยนายเกรียงไกร ลีมปวัฒนสุข ประกอบด้วยกลุ่มไผ่แดง 52 นปช.พระราม 2, บางบอน, ปิ่นเกล้า,วุฒากาศ, บางขุนเทียน, จอมทอง, พุทธมณฑล ประกอบพิธีกรรมและรณรงค์ปลุกระดมตามถนนสายหลัก บริเวณ ถนนเพชรเกษม แยกท่าพระ บางแค ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนพระราม 2 ถนนอิสรภาพ ถ.เจริญนคร ถนนจรัญสนิทวงศ์ เป็นต้น

สำหรับจุดที่ 2 บริเวณอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ “อนุสารีย์ปราบกบฏ” บริเวณเหนืออุโมงค์ทางลอดแยกบางเขน นำโดยนายวันชัย ประธานกลุ่มแดงบูรพา นายวีระ มุสิกพงศ์ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เป็นประธานในการประกอบพิธีสงฆ์และพราหมณ์ เผาพริกเผาเกลือ และรณรงค์ปลุกระดมตามถนนสายหลัก เช่น ถนนรามอินทรา ถนนพหลโยธิน (แยกเกษตร-สะพานใหม่-ดอนเมือง)

จุดที่ 3 อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี นำโดยกลุ่มเสื้อแดงจากเขตสาทร บางรัก ปทุมวัน บางคอแหลม ยานนาวา และปลุกระดมตามถนนสาทร ถนนสีลม ถนนพระราม4เป็นต้น สำหรับจุดที่ 4 บริเวณสน.ทุ่งสองห้อง ถนนกำแพงเพชร 7 เขตหลักสี่ นำโดยกลุ่มพลังหลักสี่ พร้อมด้วยกลุ่มเสื้อแดงเขตหลักสี่ บางเขน จตุจักร โดยปลุกระดมถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนศรีสมาน ถนนประชาชื่น จุดที่ 5บริเวณแยกบางนาง เขตบางนา นำโดยเสื้อแดงกลุ่มบางนา พระขโนง ประเวศ คลองเตย ปลุกระดมตามถนนสุขุมวิท ตลอดเส้นทางไปจนถึงแยกปทุมวัน และสยามเซ็นเตอร์

ส่วนจุดที่ 6 บริเวณสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง ประตู 2 ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง นำโดยนาย ธวัชชัย ทาเสนา แกนนำกลุ่มดินแดงห้วยขวาง,คุณหน่อยพระราม9แกนนำเสื้อแดงอโศกพระราม 9, กลุ่มวัฒนา 52, กลุ่มแดงบางซื่อ กลุ่มแดงบางโพ กลุ่มแดงรถไฟ กม.11 กลุ่ม 99 นปช.แดงทั้งแผ่นดินและสถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ ปลุกระดมตามถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนดินแดง แยกดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) โดยจะหยุดปราศรัยหน้า ร.1 รอ. และหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 โดยปักหลักปราศรัยหน้าสนามไทยญี่ปุ่นดินแดงจนถึงเวลา 24.00 น. โดยมี พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนาย ไพโรจน์ อิสรเสรีพงษ์ เป็นต้น

ในห้วงวันที่ 12-13 มี.ค. มวลชนคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศจะเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ โดยภาคเหนือบริเวณอุทยานสวรรค์ ถ.สายเอเชีย อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยมีพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ นายประแสง มงคลสิริ นาย นาวิน บุญเศรษฐ เป็นผู้ประสานงาน ภาคอีสานบริเวณที่พักริมทางสวนน้าชาติ ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีนาย สุภรณ์ อัตถาวงศ์ นาย ขวัญชัย ไพรพนา นาย นิสิต สินธุไพร และนาย สุทิน คลังแสง เป็นผู้ประสานงาน ภาคกลางพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีรับต่อจากภาคเหนือ บริเวณต่างระดับบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับต่อจากภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายพายัพ ปั้นเกตุ นายวรชัย เหมะ นายสมหวัง อัสราศี นายอารีย์ ไกรนรา และนางมยุรี เศวตาศัย เป็นผู้ประสานงาน โดยจะมีเรือจาก จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมริ้วธงรบ(ธงแดง) นำคนเสื้อแดงขึ้นที่ท่าเรือท่าพระจันทร์ก่อนเดินเท้าเข้าสนามหลวง

แหล่งข่าวคนเดิมเปิดเผยอีกว่า นายสมบุญ ขุนทองไทย แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ได้เช่าเรือโดยสารข้ามฟากรับส่งนักเรียนบรรทุกคนประมาณ 70 คน จำนวน 20 ลำ ร่องในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้มีการเช่ารถโดยสารประจำทางสาย 33 ปทุมธานี-สนามหลวง ไว้คอยรับส่งมวลชนด้วย สำหรับภาคตะวันตกจุดรวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 มีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และ นพ.พงศ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล เป็นผู้ประสานงาน

กำลังโหลดความคิดเห็น