ASTVผู้จัดการรายวัน-เปิดโปงแผนแดงถ่อยชุมนุมใหญ่ จัดมวลชนล้านคน รถยนต์แสนคันบุกกรุง แกนนำปลุกระดมปูพรมตามหัวเมืองใหญ่ ส่วนในกรุงเทพฯ ยึด 6 จุดสำคัญก่อหวอด ก่อนรวมตัวยึดเมือง 14 มี.ค.ตามแผนล้มรัฐบาล “มาร์ค” และระบบอำมาตย์
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า แผนของกลุ่มเสื้อแดงที่ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และระบอบอำมาตยาธิปไตย แบ่งเป็น 3 ห้วงเวลา คือ ในวันที่ 1-11 มี.ค.2553 , วันที่ 12 มี.ค.2553 "12นาฬิกา ลั่นกลองศึก เขย่าขวัญอำมาตย์" ซึ่งเป็นวันระดมคนเดินทางเข้ามาเพื่อร่วมชุมนุม และวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันชุมนุมใหญ่ โดยใช้มวลชนคนเสื้อแดง 1 ล้านคน (1ใน3ของยอดถวายฎีกาฯ) พร้อมด้วยรถยนต์ต่างๆ จำนวน 1 แสนคัน
ภารกิจครั้งนี้ แกนนำและแนวร่วมตั้งเป้าหมายเพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และระบอบอำมาตยาธิปไตย ภายใน 3 วัน (14-16 มี.ค.) หรือ 7 วันเป็นอย่างช้า (14-20 มี.ค.) เพราะหากล่วงเลยไปมากกว่านี้ จะประสบปัญหาเรื่องการบริหารจัดการชุมนุม และใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะส่งผลต่อมวลชนที่มาร่วมชุมนุม และสนับสนุนที่ยาวนาน
โดยแบ่งการเคลื่อนไหวออกเป็นห้วงๆ คือ วันที่ 1-11 มี.ค. แกนนำนปช. ส่วนกลาง เดินทางพบปะแกนนำในส่วนภูมิภาค อย่างน้อย 38 จังหวัดเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ การเคลื่อนไหว ความพร้อม การวางแผนเปิดเวทีปราศรัย เร่งให้ข้อมูลปลุกระดมให้ผู้ฟังเกิดแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีการปราศรัยในจังหวัดสำคัญ เช่น จ.นครราชสีมา นำโดยนาย สุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายนิสิต สินธุไพร , จ.ร้อยเอ็ด จ.อุทัยธานี นำโดยนายพายัพ ปั้นเกตุ , จ.แพร่ นำโดยนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ และพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ โดยทั้งหมดจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีเพิล ชาแนล เครือข่ายวิทยุชุมชน และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกลุ่มเสื้อแดง
จากนั้น วันที่ 12-13 มี.ค. นปช. ส่วนกลาง (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) จะเดินทางไปยังบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศเพื่อจัดพื้นที่ชุมนุม ซึ่งจะตั้งเวทีใหญ่บริเวณสะพาน ด้านป้อมมหากาฬ ขยายพื้นที่การชุมนุมไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-สี่แยกคอกวัว-สนามหลวง และแยก จปร.
ส่วนอีกเวทีคือ สะพานมัฆวานรังสรรค์–แยกสวนมิกสกวัน- แยกลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณลานพระราชวังดุสิต ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์พีเพิล ชาแนลจะปรับผังรายการนำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวชุมนุม “เคลื่นพลทั้งแผ่นดิน โค่นล้มรัฐบาล อำมาตย์ ยุบสภา”
ทั้งนี้ หลังจากซักซ้อมความเข้าใจกันแล้ว แผนการเคลื่อนพลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. โดยคนเสื้อแดงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะนัดหมายรวมตัวกันบริเวณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยจะเคลื่อนขบวนตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ผ่านจ.สระบุรี เพื่อร่วมชุมนุมที่สนามหลวงโดยมียอดมวลชน 3 แสนคน เดินทางโดยรถยนต์ กระบะ รถอีแต๋น รถบรรทุก 6 ล้อ ประมาณ 1 หมื่นคน นำโดย ร.อ.สุพจน์ เมืองครุฑ อดีตนายทหารม้า และทหารพรานค่ายปักธงชัย เป็นประธานการ์ด นปช.โคราช “นักรบทุ่งสัมฤทธิ์” ระดมรถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะ ประมาณ 500 คัน คันละ10 คน รวมเป็น 5 พันคน จาก อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ร่วมสมทบกับกลุ่ม นปช.ร้อยเอ็ด นำโดย นาย วิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ปราศรัย ระดมมวลชนก่อนเข้าสู่กทม.ในวันที่ 12 มี.ค.
ซึ่งนปช.จากอ.วาปีปทุม ใช้รถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียงจำนวน 2 คัน ออกประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม
ในวันที่ 12 มี.ค. กลุ่มนปช. ลพบุรี จะทำพิธีบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระนารายณ์มหาราช มวลชนประมาณ 5 พันคน ก่อนเดินทางชุมนุมในกทม. วันที่ 14 มี.ค. ด้าน นปช. จากจ. สิงห์บุรี จัดกิจกรรมสักการะพระเจ้าตาก ค่ายบางกุ้ง และเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มี.ค. นัดรวมตัวบริเวณใต้สะพานทางเข้าแม่กลอง เวลา 11.00 น. เคลื่อนขบวนไปยังถนนราชดำเนิน ในวันที่ 13 มี.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงภาคกลางนำโดย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายพายัพ ปั้นเกตุ จะมาพักมวลชนที่พื้นที่ภาคกลางบริเวณ อู่ไพศาลยนต์ ต.บ้านหวาย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 12.00 น. ก่อนจะเดินทางเข้า กทม.โดยทางรถ และทางเรือ
ด้าน นปช.จากจ.ชัยนาท จะนำสมาชิกไปให้การสนับสนุนด้านอาหาร และน้ำดื่มแก่คนเสื้อแดง ภาคเหนือที่เดินทางมายังจุดพักชั่วคราว บ้านตึก อ.สรรพยา ก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จุดพักรถกลุ่ม นปช.ภาคเหนือ และจะปรับขบวนมุ่งหน้าสู่กทม.
นปช.ภาคตะวันตก ในวันที่ 12 มี.ค. นปช.จาก จ.ราชบุรี พร้อมแกนนำเสื้อแดง 7 จังหวัดภาคตะวันออกประชุมเตรียมพร้อมที่ศาลาเจ้าพระยาจักรี จะมอบธง นปช. ธงประจำภาค และธงประจำจังหวัดเพื่อนำไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่ กทม.และมติที่ประชุมระบุว่า หากมีการสกัดกั้น จะนำสิ่งปฏิกูลขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ด้วย
สำหรับกิจกรรมใน กทม. และจังหวัดปริมณฑล จะจัดพิธีกรรมเผาพริกเผาเกลือ เผาโลงศพจำลองติดรูป พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ รูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรูปเครือข่ายกลุ่มอำมาตย์ รวมทั้งรูปองค์คณะตุลาการศาลฎีกาฯ คดียึดทรัพย์ ตามบริเวณอนุสาวรีย์ ศาลากลางจังหวัด สวนสาธารณะ และหอนาฬิกา จากนั้นจะปลุกระดมมวลชนรอบเมืองด้วยขบวนธงชาติ ธงแดง ธง นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ผ่านจุดสำคัญทางสัญลักษณ์
ทั้งนี้ ใน กทม. จะมีจุดสำคัญจำนวน 6 จุด ได้แก่ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ วงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี โดยเครือข่ายแดงตากสิน-ธนบุรี นำโดยนายเกรียงไกร ลีมปวัฒนสุข ประกอบด้วยกลุ่ม ไผ่แดง’52 นปช.พระราม 2 ,บางบอน , ปิ่นเกล้า, วุฒากาศ, บางขุนเทียน,จอมทอง,พุทธมณฑล ประกอบพิธีกรรม และรณรงค์ปลุกระดมตามถนนสายหลัก บริเวณถนนเพชรเกษม แยกท่าพระ บางแค ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนพระราม 2 ถนนอิสรภาพ ถ.เจริญนคร ถนนจรัญสนิทวงศ์ เป็นต้น
จุดที่ 2 บริเวณอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ “อนุสารีย์ปราบกบฏ” บริเวณเหนืออุโมงค์ทางลอดแยกบางเขน นำโดย นายวันชัย ประธานกลุ่มแดงบูรพา นายวีระ มุสิกพงศ์ นาย ชินวัฒน์ หาบุญพาด เป็นประธานในการประกอบพิธีสงฆ์ และพราหมณ์ เผาพริกเผาเกลือ และรณรงค์ปลุกระดมตามถนนสายหลัก เช่น ถนนรามอินทรา ถนนพหลโยธิน (แยกเกษตร-สะพานใหม่-ดอนเมือง)
จุดที่ 3 อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี นำโดยกลุ่มเสื้อแดงจาก เขตสาทร บางรัก ปทุมวัน บางคอแหลม ยานนาวา และปลุกระดมตามถนนสาทร ถนนสีลม ถนนพระราม 4 เป็นต้น
จุดที่ 4 บริเวณ สน.ทุ่งสองห้อง ถนนกำแพงเพชร 7 เขตหลักสี่ นำโดยกลุ่มพลังหลักสี่ พร้อมด้วยกลุ่มเสื้อแดงเขตหลักสี่ บางเขน จตุจักร โดยปลุกระดม ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนศรีสมาน ถนนประชาชื่น
จุดที่ 5 บริเวณแยกบางนาง เขตบางนา นำโดยเสื้อแดงกลุ่มบางนา พระโขนง ประเวศ คลองเตย ปลุกระดมตามถนนสุขุมวิท ตลอดเส้นทางไปจนถึงแยกปทุมวัน และสยามเซ็นเตอร์
จุดที่ 6 บริเวณสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง ประตู 2 ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง นำโดยนายธวัชชัย ทาเสนา แกนนำกลุ่มดินแดงห้วยขวาง, คุณหน่อย พระราม 9 แกนนำเสื้อแดงอโศกพระราม9, กลุ่มวัฒนา 52 , กลุ่มแดงบางซื่อ กลุ่มแดงบางโพ กลุ่มแดงรถไฟ กม.11 กลุ่ม 99 นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และสถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ ปลุกระดมตามถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนดินแดง แยกดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) โดยจะหยุดปราศรัยหน้า ร.1 รอ. และหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 โดยปักหลักปราศรัยหน้าสนามไทยญี่ปุ่น ดินแดง จนถึงเวลา24.00 น. โดยมีพล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก นายไพโรจน์ อิสรเสรีพงษ์ เป็นต้น
โดยหลังตระเตรียมความพร้อมแล้ว คนเสื้อแดงจากทั่วประเทศ จะเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า แผนของกลุ่มเสื้อแดงที่ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และระบอบอำมาตยาธิปไตย แบ่งเป็น 3 ห้วงเวลา คือ ในวันที่ 1-11 มี.ค.2553 , วันที่ 12 มี.ค.2553 "12นาฬิกา ลั่นกลองศึก เขย่าขวัญอำมาตย์" ซึ่งเป็นวันระดมคนเดินทางเข้ามาเพื่อร่วมชุมนุม และวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันชุมนุมใหญ่ โดยใช้มวลชนคนเสื้อแดง 1 ล้านคน (1ใน3ของยอดถวายฎีกาฯ) พร้อมด้วยรถยนต์ต่างๆ จำนวน 1 แสนคัน
ภารกิจครั้งนี้ แกนนำและแนวร่วมตั้งเป้าหมายเพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และระบอบอำมาตยาธิปไตย ภายใน 3 วัน (14-16 มี.ค.) หรือ 7 วันเป็นอย่างช้า (14-20 มี.ค.) เพราะหากล่วงเลยไปมากกว่านี้ จะประสบปัญหาเรื่องการบริหารจัดการชุมนุม และใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะส่งผลต่อมวลชนที่มาร่วมชุมนุม และสนับสนุนที่ยาวนาน
โดยแบ่งการเคลื่อนไหวออกเป็นห้วงๆ คือ วันที่ 1-11 มี.ค. แกนนำนปช. ส่วนกลาง เดินทางพบปะแกนนำในส่วนภูมิภาค อย่างน้อย 38 จังหวัดเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ การเคลื่อนไหว ความพร้อม การวางแผนเปิดเวทีปราศรัย เร่งให้ข้อมูลปลุกระดมให้ผู้ฟังเกิดแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีการปราศรัยในจังหวัดสำคัญ เช่น จ.นครราชสีมา นำโดยนาย สุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายนิสิต สินธุไพร , จ.ร้อยเอ็ด จ.อุทัยธานี นำโดยนายพายัพ ปั้นเกตุ , จ.แพร่ นำโดยนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ และพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ โดยทั้งหมดจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีเพิล ชาแนล เครือข่ายวิทยุชุมชน และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกลุ่มเสื้อแดง
จากนั้น วันที่ 12-13 มี.ค. นปช. ส่วนกลาง (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) จะเดินทางไปยังบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศเพื่อจัดพื้นที่ชุมนุม ซึ่งจะตั้งเวทีใหญ่บริเวณสะพาน ด้านป้อมมหากาฬ ขยายพื้นที่การชุมนุมไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-สี่แยกคอกวัว-สนามหลวง และแยก จปร.
ส่วนอีกเวทีคือ สะพานมัฆวานรังสรรค์–แยกสวนมิกสกวัน- แยกลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณลานพระราชวังดุสิต ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์พีเพิล ชาแนลจะปรับผังรายการนำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวชุมนุม “เคลื่นพลทั้งแผ่นดิน โค่นล้มรัฐบาล อำมาตย์ ยุบสภา”
ทั้งนี้ หลังจากซักซ้อมความเข้าใจกันแล้ว แผนการเคลื่อนพลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. โดยคนเสื้อแดงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะนัดหมายรวมตัวกันบริเวณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยจะเคลื่อนขบวนตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ผ่านจ.สระบุรี เพื่อร่วมชุมนุมที่สนามหลวงโดยมียอดมวลชน 3 แสนคน เดินทางโดยรถยนต์ กระบะ รถอีแต๋น รถบรรทุก 6 ล้อ ประมาณ 1 หมื่นคน นำโดย ร.อ.สุพจน์ เมืองครุฑ อดีตนายทหารม้า และทหารพรานค่ายปักธงชัย เป็นประธานการ์ด นปช.โคราช “นักรบทุ่งสัมฤทธิ์” ระดมรถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะ ประมาณ 500 คัน คันละ10 คน รวมเป็น 5 พันคน จาก อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ร่วมสมทบกับกลุ่ม นปช.ร้อยเอ็ด นำโดย นาย วิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ปราศรัย ระดมมวลชนก่อนเข้าสู่กทม.ในวันที่ 12 มี.ค.
ซึ่งนปช.จากอ.วาปีปทุม ใช้รถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียงจำนวน 2 คัน ออกประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม
ในวันที่ 12 มี.ค. กลุ่มนปช. ลพบุรี จะทำพิธีบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระนารายณ์มหาราช มวลชนประมาณ 5 พันคน ก่อนเดินทางชุมนุมในกทม. วันที่ 14 มี.ค. ด้าน นปช. จากจ. สิงห์บุรี จัดกิจกรรมสักการะพระเจ้าตาก ค่ายบางกุ้ง และเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มี.ค. นัดรวมตัวบริเวณใต้สะพานทางเข้าแม่กลอง เวลา 11.00 น. เคลื่อนขบวนไปยังถนนราชดำเนิน ในวันที่ 13 มี.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงภาคกลางนำโดย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายพายัพ ปั้นเกตุ จะมาพักมวลชนที่พื้นที่ภาคกลางบริเวณ อู่ไพศาลยนต์ ต.บ้านหวาย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 12.00 น. ก่อนจะเดินทางเข้า กทม.โดยทางรถ และทางเรือ
ด้าน นปช.จากจ.ชัยนาท จะนำสมาชิกไปให้การสนับสนุนด้านอาหาร และน้ำดื่มแก่คนเสื้อแดง ภาคเหนือที่เดินทางมายังจุดพักชั่วคราว บ้านตึก อ.สรรพยา ก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จุดพักรถกลุ่ม นปช.ภาคเหนือ และจะปรับขบวนมุ่งหน้าสู่กทม.
นปช.ภาคตะวันตก ในวันที่ 12 มี.ค. นปช.จาก จ.ราชบุรี พร้อมแกนนำเสื้อแดง 7 จังหวัดภาคตะวันออกประชุมเตรียมพร้อมที่ศาลาเจ้าพระยาจักรี จะมอบธง นปช. ธงประจำภาค และธงประจำจังหวัดเพื่อนำไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่ กทม.และมติที่ประชุมระบุว่า หากมีการสกัดกั้น จะนำสิ่งปฏิกูลขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ด้วย
สำหรับกิจกรรมใน กทม. และจังหวัดปริมณฑล จะจัดพิธีกรรมเผาพริกเผาเกลือ เผาโลงศพจำลองติดรูป พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ รูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรูปเครือข่ายกลุ่มอำมาตย์ รวมทั้งรูปองค์คณะตุลาการศาลฎีกาฯ คดียึดทรัพย์ ตามบริเวณอนุสาวรีย์ ศาลากลางจังหวัด สวนสาธารณะ และหอนาฬิกา จากนั้นจะปลุกระดมมวลชนรอบเมืองด้วยขบวนธงชาติ ธงแดง ธง นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ผ่านจุดสำคัญทางสัญลักษณ์
ทั้งนี้ ใน กทม. จะมีจุดสำคัญจำนวน 6 จุด ได้แก่ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ วงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี โดยเครือข่ายแดงตากสิน-ธนบุรี นำโดยนายเกรียงไกร ลีมปวัฒนสุข ประกอบด้วยกลุ่ม ไผ่แดง’52 นปช.พระราม 2 ,บางบอน , ปิ่นเกล้า, วุฒากาศ, บางขุนเทียน,จอมทอง,พุทธมณฑล ประกอบพิธีกรรม และรณรงค์ปลุกระดมตามถนนสายหลัก บริเวณถนนเพชรเกษม แยกท่าพระ บางแค ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนพระราม 2 ถนนอิสรภาพ ถ.เจริญนคร ถนนจรัญสนิทวงศ์ เป็นต้น
จุดที่ 2 บริเวณอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ “อนุสารีย์ปราบกบฏ” บริเวณเหนืออุโมงค์ทางลอดแยกบางเขน นำโดย นายวันชัย ประธานกลุ่มแดงบูรพา นายวีระ มุสิกพงศ์ นาย ชินวัฒน์ หาบุญพาด เป็นประธานในการประกอบพิธีสงฆ์ และพราหมณ์ เผาพริกเผาเกลือ และรณรงค์ปลุกระดมตามถนนสายหลัก เช่น ถนนรามอินทรา ถนนพหลโยธิน (แยกเกษตร-สะพานใหม่-ดอนเมือง)
จุดที่ 3 อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี นำโดยกลุ่มเสื้อแดงจาก เขตสาทร บางรัก ปทุมวัน บางคอแหลม ยานนาวา และปลุกระดมตามถนนสาทร ถนนสีลม ถนนพระราม 4 เป็นต้น
จุดที่ 4 บริเวณ สน.ทุ่งสองห้อง ถนนกำแพงเพชร 7 เขตหลักสี่ นำโดยกลุ่มพลังหลักสี่ พร้อมด้วยกลุ่มเสื้อแดงเขตหลักสี่ บางเขน จตุจักร โดยปลุกระดม ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนศรีสมาน ถนนประชาชื่น
จุดที่ 5 บริเวณแยกบางนาง เขตบางนา นำโดยเสื้อแดงกลุ่มบางนา พระโขนง ประเวศ คลองเตย ปลุกระดมตามถนนสุขุมวิท ตลอดเส้นทางไปจนถึงแยกปทุมวัน และสยามเซ็นเตอร์
จุดที่ 6 บริเวณสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง ประตู 2 ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง นำโดยนายธวัชชัย ทาเสนา แกนนำกลุ่มดินแดงห้วยขวาง, คุณหน่อย พระราม 9 แกนนำเสื้อแดงอโศกพระราม9, กลุ่มวัฒนา 52 , กลุ่มแดงบางซื่อ กลุ่มแดงบางโพ กลุ่มแดงรถไฟ กม.11 กลุ่ม 99 นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และสถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ ปลุกระดมตามถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนดินแดง แยกดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) โดยจะหยุดปราศรัยหน้า ร.1 รอ. และหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 โดยปักหลักปราศรัยหน้าสนามไทยญี่ปุ่น ดินแดง จนถึงเวลา24.00 น. โดยมีพล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก นายไพโรจน์ อิสรเสรีพงษ์ เป็นต้น
โดยหลังตระเตรียมความพร้อมแล้ว คนเสื้อแดงจากทั่วประเทศ จะเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.