ผ่าประเด็นร้อน
อยากรู้เหมือนกันว่าสังคมไทยจะยอมให้คนพวกนี้ข่มขู่ คุกคามด้วยวิธีการต่างๆนานาโดยเอาความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นตัวประกันอยู่ตลอดเวลา เพียงเพื่อให้ ทักษิณ เพียงคนเดียวได้ประโยชน์ ทั้งที่ถูกศาลยุติธรรมพิพากษาแล้วว่ากระทำผิดคิดไม่ชอบ
หากนับจากวันนี้ (8 มี.ค.) ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจก็จะถึงวันที่ ทักษิณ ชินวัตร สั่งการให้คนเสื้อแดงชุมนุมเพื่อกดดันให้ยกเลิกความผิดและให้ตัวเองกลับมามีอำนาจ โดยอ้างประชาธิปไตยและเรียกร้องความเป็นธรรมบังหน้า
ดังนั้น ในระยะเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมาไปจนถึงสัปดาห์นี้ก่อนจะถึงวันที่ 12-14 มี.ค.ที่พวกเขากำหนดนัดเป็นวันดีเดย์เคลื่อนพลสำหรับการโค่นล้มรัฐบาลของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยประกาศว่าจะชุมนุมแบบม้วนเดียวจบ ส่วนจะจบแบบไหนยังไม่อาจประเมินได้ เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่างมาประกอบ
อีกทั้งบางอย่างยังอยู่นอกเหนือการควบคุมเสียอีก จึงต้องประเมินสถานการณ์กันแบบวันต่อวัน
สำหรับพิจารณาจากฝ่าย ทักษิณ ถือว่ากำลังเคลื่อนไหวอย่างเต็มกำลัง งัดลูกไม้ออกมาสารพัด ทั้งใต้ดินบนดิน ระดมทั้ง “ฮาร์ดคอร์” ซ้ายใหม่และเก่า มีการเดินสายปลุกระดมแทบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ประสานงานกับแนวร่วมสารพัดกลุ่ม
ขณะที่ ทักษิณ นาทีนี้ถือว่าเปิดหน้าชกกันเต็มๆไม่มีปิดบังกันอีกต่อไป ว่าเป้าหมายของตัวเอง ไม่ใช่แค่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลของอภิสิทธิ์เท่านั้น รวมไปถึงไม่ใช่ถล่มแค่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่สิ่งที่ต้องการก็คือ “เหนือ” ไปกว่านั้น
ซึ่งระยะหลังในช่วงเวลาสุกดิบแบบนี้ ทักษิณก็ได้เปิดเผยตัวตนออกมาอย่างชัดเจนไม่มีการอำพรางกันอีกต่อไป และการกล่าวหาว่า “คนที่ชักใยศาล” นั้นหมายถึงใครระยะหลังก็สื่อออกมาชัดยิ่งกว่าชัด
รวมไปถึง “สื่อเสื้อแดง” ทั้งหลายก็มีการปลุกระดม บิดเบือน เรียกได้ว่าสร้างความเกลียดชังกันอย่างเต็มที่ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของชาวบ้านที่ยังไม่สามารถไตร่ตรองข้อมูลได้ดีพอ โดยไม่สนใจว่าถ้าจะพิจารณาใครสักคนว่าน่าเชื่อถือได้เพียงใด น่าจะพิจารณาจากคนรอบข้าง รวมไปถึงประวัติของคนเหล่านั้น
เช่น บางคนหรือแม้แต่ ทักษิณ ที่ใช้คำว่า “ประชาธิปไตย” มาใช้สวมหน้ากากอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนมีประวัติทำมาหากินวิ่งเต้นขอสัมปทานผูกขาดอยู่กับคณะรัฐประหาร รสช.จนถึงกับยอมรับในทำนองว่า “ถ้าไม่มีบิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) ก็ไม่มีผมในวันนี้ หรือในยุคที่ตัวเองเป็นนายกฯก็ใช้อำนาจในทางมิชอบทุจริตฉ้อฉล แต่งตั้งญาติพี่น้องเข้าไปคุมตำแหน่งสำคัญในราชการทั้งตำรวจและทหาร กระทรวงยุติธรรม หลักฐานและข้อเท็จจริงก็ปรากฏให้เห็นอยู่ทนโท่
ขณะเดียวกัน ปากบอกว่ารักสถาบันและจงรักภักดี แต่เคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลายครั้งจาบจ้วงและให้ร้ายพระเจ้าอยู่หัวอย่างรุนแรงชนิดที่ใครได้ยินแล้วทนไม่ได้แน่นอน หรือต้องตั้งคำถามว่า ทักษิณ จงรักภักดีแบบไหนเมื่อยอมให้คนรอบตัวล้วนมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บางคนเคยถูกจำคุกในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และปัจจุบันก็ยังถูกดำเนินคดีดังกล่าวอยู่ซ้ำซาก อย่างเช่น วีระ มุสิกพงศ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ คนที่ชื่อวีระนี่แหละที่ปากบอกว่าต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย แต่เมื่อปี 2526 เคยร่วมก่อการปฏิวัติกับคณะทหารยึดอำนาจมาแล้วและถูกสั่งจำคุกในข้อหากบฏ
หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ของแต่ละคนย่อมพิสูจน์ชัดว่าไม่สมควรเอาข้ออ้างดังกล่าวมาตบตา แต่เอาเป็นว่าการชุมนุมของกลุ่มทักษิณ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในอีกไม่นานนี้ให้มาวัดกันดีกว่าว่าจะระดมคนที่เห็นด้วยกับคนที่ทำตัวเหนือกฎหมาย ฉ้อฉลและมุ่งร้ายต่อสถาบันว่ามีอยู่กี่มากน้อย
ขณะเดียวกัน อยากรู้เหมือนกันว่าสังคมไทยจะยังยอมรับในกระบวนการศาลที่เป็นอยู่และกระทำภายใต้พระปรมาภิไธย ภายใต้กระบวนการทางกฎหมาย และสถาปนามานานเกือบ 130 ปีอยู่ต่อไปอีกหรือไม่
อยากรู้เหมือนกันว่าสังคมไทยจะยอมให้คนพวกนี้ข่มขู่ คุกคามด้วยวิธีการต่างๆ นานาโดยเอาความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นตัวประกันอยู่ตลอดเวลา เพียงเพื่อให้ ทักษิณ เพียงคนเดียวได้ประโยชน์ ทั้งที่ถูกศาลยุติธรรมพิพากษาแล้วว่ากระทำผิดคิดไม่ชอบ
อย่างรู้เหมือนกันว่าสังคมไทย ซึ่งมักชอบพูดว่ารักสงบ และยึดถือความถูกต้องจะยอมงอมืองอเท้าปล่อยให้คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้ถือว่าเป็น “ทรราช” เต็มขั้นกระทำย่ำยีบ้านเมืองได้อีกต่อไปอย่างนั้นหรือ!!