“สุเทพ” ห่วงวินาศกรรม 14 มี.ค.ลั่นหากเกิดเหตุรุนแรงแกนนำเสื้อแดงต้องรับผิดชอบ สั่งสกัดอีแต๋นเข้ากรุง ตำรวจเจอแจกใบสั่งทันที พร้อมล็อกหัวโจ๊กหากก่อปัญหา ลั่นห้ามเสื้อแดงยึดแยกผ่านฟ้าตั้งเวที
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เย็นวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า ตนเข้ารายงานนายกรัฐมนตรีถึงการประชุม คตม.เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เป็นห่วงโดยเฉพาะเรื่องการจราจร และได้แจ้งไปแล้วว่าได้เตรียมการอย่างไรบ้าง และได้บอกนายกรัฐมนตรี ว่า การมาครั้งนี้ของประชาชนไม่น่าจะใช่การมาเรียกร้องประชาธิปไตยตามปกติ เกรงว่า จะมีเหตุการณ์เหมือนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีเหตุระเบิดหลายจุด ซึ่งตนจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป หากมีอะไรจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับฟังและเข้าใจ ไม่ได้สั่งการอะไร ไม่ได้เครียดอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่า ในระหว่างการชุมนุมเป็นห่วงว่าจะมีการก่อวินาศกรรมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นความกังวลของตนที่ถูกสอนมาไม่ให้ประมาท ซึ่งขนาดไม่ประมาทยังมีหลุดมาได้ เมื่อถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าหน้าที่จะมีปัญหาเรื่องของกำลังพลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี และตนจะติดตามด้านการข่าวให้มากขึ้น จะเพิ่มมาตรการในการตั้งจุดตรวจและเจ้าหน้าที่ลาดตระเลนทำงานให้รัดกุมให้มากขึ้น
“แกนนำที่นำผู้ชุมนุมมาไม่ว่าจะอ้างอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมันเป็นเรื่องที่ท่านต้องรับผิดชอบ ผมทราบดีว่างานนี้แกนนำมีการแบ่งงานกันทำหลายฝ่าย แต่ทั้งหมดก็มีคำสั่งมาจากจุดเดียวกัน ฉะนั้น จะมาปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ พวกท่านต้องรับผิดชอบบ้านเมืองด้วย ถ้าแกนนำอ้างว่าจัดการชุมนุมสันติ แต่คุมไม่ได้บ้านเมืองเสียหายไปเองอย่างนี้ฟังไม่ได้”
นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่กังวลที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ช่วงที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ เป็นหน้าที่โดยตรงของตนอยู่แล้ว ซึ่งได้มีการเตรียมการโดยไม่ประมาท เมื่อถามว่าคิดว่าต้องสั่งหยุดราชการหรือไม่ในช่วงชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้คาดการณ์ล่วงหน้าในทางร้ายเกินไป แต่ตนสัญญาว่าถ้าตนเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไป แล้วมีความจำเป็นต้องทำอะไร ตนก็จะรายงานให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงการปะทะกันของผู้ชุมนุมกับประชาชนใน กทม.ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ประสงค์ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอยู่แล้ว ไม่ปล่อยให้มีการปะทะกันเหมือนรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา ไม่ยอมให้ทำแน่ จะมีเจ้าหน้าที่คอยระงับเหตุจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นแน่ เมื่อถามว่า ดูสถานการณ์แล้วอาจจะบานปลายทำไมรัฐบาลไม่ประกาศกฎหมายพิเศษ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องใจเย็น เวลาตนประกาศสื่อก็ตำหนิทันที หาว่าตื่นตูมไป ตนจึงย้ำว่า จะตัดสินใจตามสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ตนเห็นว่ายังใช้กฎหมายปกติได้อยู่ วันนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แม้ว่าตนจะประเมินไว้ล่วงหน้าว่าอาจจะมีหรือไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่ความคิดและการกระทำต้องแยกกัน และตนจะอยู่กรุงเทพฯเพื่อดูสถานการณ์ตลอด
ส่วนที่บอกว่าจะไม่ยอมให้รถอีแต๋นเข้ามา แต่ทางแกนนำ นปช.ยืนยันจะนำเข้ามาให้ได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนหวังว่าคนเสื้อแดงคงเคารพกฎหมาย เพราะรถอีแต๋นเขาไม่ให้วิ่งบนไฮเวย์อยู่แล้ว มาไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีด่านคอยตรวจตั้งแต่ต่างจังหวัด และยืนยันไม่ให้มาแน่นอนเพราะมันเป็นอันตรายกับประชาชนเองด้วย
“กว่าที่ขบวนรถอีแต๋นจะมาถึงกรุงเทพฯต้องผ่านหลายด่านถ้าเจอรถอีแต๋นจะเรียกหยุดก่อน แจกใบสั่งก่อน” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจจะเกียร์ว่างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีตำรวจเกียร์ว่าง เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานเต็มที่ ซึ่งตนขอความร่วมมือทุกฝ่ายเขาก็ตอบรับดี ทั้งตำรวจ ทหาร กทม.รวมถึงอาสาสมัคร ซึ่งวันจันทร์นี้อาจจะมีการเชิญอาสาสมัคร อปพร.มาพูดคุยกัน
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ท้วงติงว่า รัฐบาลจะทำอะไรก็ทำไปไม่ควรออกมาพูดก่อน เพราะทำให้ประชาชนตกใจ และเสียภาพพจน์ประเทศ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่า พล.อ.ชวลิต ถ้าจะทำอะไรมาบอกรัฐบาลหน่อยก็จะดี รัฐบาลจะได้ตั้งรับได้ถูก เมื่อถามถึงเงื่อนไขการถอนประกันตัวแกนนำหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าเขาทำผิดกฎหมายก็ออกหมายจับอันใหม่ ถ้าศาลกรุณาออกหมายจับให้ก็ถอนประกันเลย ถ้ากฎหมายอนุญาตล็อกได้ก็ล็อก
ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดที่เสื้อแดงตั้งเวทีปราศรัย นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องอธิบายเขาต้องไม่มีชนวนให้ทะเลาะ เพราะไม่เป็นผลดี จึงได้บอกไปว่ากลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมที่ไหนต้องขออนุญาต กทม.ก่อน ซึ่งตนจะประชุมกับ กทม.ประมาณวันจันทร์ในเรื่องนี้ด้วย เพื่อจะบอกว่าอะไรทำได้ไม่ได้ หากจุดไหนไม่อนุญาตก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้ประชาชนแถวนั้นเดือดร้อน เขาก็ไม่ยอม ที่มาได้อย่างสนามหลวง ทำเนียบ เชิญไม่เป็นไร
“ผมจะขอความร่วมมือก่อนและจะจัดที่จอดรถให้เหมือนมางานเฉลิม ขอให้มารถบัส รถไฟ เพราะหากเกณฑ์มามากจะเดือดร้อน หากเอารถตัวเองมาจอดเกะกะ ก็อาจจะเอารถมายกซึ่งอาจจะทำให้รถท่านเสียหายได้ ส่วนหากเอารถมาจำนวนมากรถยกจะพอหรือไม่นั้น ก็กำลังระดมอยู่” นายสุเทพ กล่าว