xs
xsm
sm
md
lg

“นช.แม้ว” ทำปืนลั่น!! หลุดปากสารภาพบาป เจ้าของหุ้นชินฯ ตัวจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นช.แม้ว” เข้าตำราปลาหมอตายเพราะปาก หลุดพูดราคาหุ้นชินฯ ขึ้นตามกลไกตลาด โดยหวังให้คนเชื่อไม่ได้ใช้อำนาจมิชอบเอื้อผลประโยชน์ แต่คำพูดกลับมัดคอตัวเอง เนื่องจากคงลืม กม.ห้ามนายกฯ ถือครองหุ้นเอกชน แถมไม่วายฉายหนังเก่าซ้ำซากโจมตีอำมาตย์สั่งยึดทรัพย์ตนคนเดียว แค้น “กรณ์” แขวะตอนพ่อขายหุ้นเจเอฟธนาคมไม่เสียภาษี ท้าไม่เชื่อไปถาม “วินหม่อง”

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีอาญา ได้จัดรายการวิทยุออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ thaksinlive เมื่อวานที่ผ่านมา (4 มี.ค.) โดยระบุว่า ขอกลับไปจัดรายการทอล์ก อะราวด์ เดอะ เวิลด์ (Talk around the world) แค่เฉพาะวันอังคารเหมือนเดิม เนื่องจากช่วงนี้ภารกิจเยอะ ต้องเตรียมทนายสู้คดี รวมถึงมีธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องดูแลจึงไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่จะโฟนอินและวิดีโอลิงก์ไปยังเวทีเสื้อแดงตามที่ต่างๆ เพื่อเชื้อเชิญให้พี่น้องมาร่วมชุมนุมครั้งใหญ่ในวันที่ 14 มีนาคมนี้

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า บ้านเมืองเราทุกวันนี้ยังอยู่รอยต่อช่วงปฏิวัติ ซึ่งเป็นการปล้นอำนาจประชาชน ไปตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 แม้ทุกวันนี้จะดูเหมือนได้เปลี่ยนแปลงหัวหน้าคณะปฏิวัติไปแล้ว แต่ในความจริงคนๆ เดิมยังอยู่ มีเพียงการเปลี่ยนตัวแสดงออกหน้าแทน ซึ่งผู้ที่อยู่ในอำนาจปัจจุบันฮึกเหิมเพราะได้รับตรรกะจากอำมาตย์ ก็เลยมีพฤติกรรมใช้อำนาจสองมาตรฐาน หรือใช้กฎหมายมาเล่นงานอีกฝ่าย

“บ้านเมืองเราวันนี้ไม่ปกติ คือมีการปฏิวัติอย่างต่อเนื่อง เพราะคนบงการยังเป็นคนเดิม แม้ผู้ปฏิบัติจะเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตา แต่หากพี่น้องยังจำได้ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 มีการประชุมที่บ้านนายปีย์ มาลากุล เพื่อวางแผนปฏิวัติผม ซึ่งผู้ร่วมประชุมครั้งนั้น มี พล.อ.สุรยุทธ์ (จุลานนท์) พล.อ.พัลลภ (ปิ่นมณี) นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ซึ่งตอนนั้นเป็นประธานศาลฎีกาและวันนี้เป็นองคมนตรีไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมี นายจรัญ ภักดีธนากุล และนายปราโมทย์ นาครทรรพ ผู้แต่งนิยายโกหกเรื่องปฏิญาณฟินแลนด์ด้วย” นักโทษชายกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า พล.อ.สุรยุทธ์ หรือเจ้าพ่อเขายายเที่ยง ได้พูดในวงสนทนาว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และองคมนตรีอีกท่านหนึ่ง ได้ไปกราบบังคมทูล “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ว่าจะทำงานถวาย โดยจะจัดการกับตนเอง ซึ่งภายหลัง พล.อ.พัลลภ ได้นำเรื่องนี้มาบอกให้ตนทราบ เพราะฉะนั้น ศาลถูกสั่งการตั้งแต่วันนั้นมีการเตรียมการปฏิวัติ รวมทั้งกระบวนการลอบสังหาร นอกจากนี้ ยังมีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ โดยให้นักวิชาการที่ไม่มีความรู้จริงๆ แต่ชอบประจบหวังได้ดิบได้ดี ร่วมกับนายปราโมทย์ สร้างนิยายต่อ

“รังแกผมจนทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีความยุติธรรม และไม่มีความเสมอภาค ทำให้พี่น้องประชาชนรู้สึกว่าอนาคตของพวกเขาไม่มีเลย แย่มากที่ต้องอยู่ไปวันๆ ผมคิดว่าวันนี้ผมควรเป็นโจทก์ เพราะว่าถูกปล้นอำนาจไป ซึ่งผมเป็นตัวแทนประชาชน แต่ผมโจทก์กลับถูกตั้งจำเลย คนทำผิดกฏหมายเข้ามายึดอำนาจและประกาศว่าตนเองคือผู้ถูกต้อง แล้วเอาตัวเองเป็นกฎหมาย จากโจรจึงกลายเป็นโจทก์” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ถ้าตนยอมแพ้ กลุ่มคนเสื้อแดงยอมแพ้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ต่อไปผู้เสียหายก็จะถูกนำไปเป็นจำเลย ดังนั้น วันนี้เราต้องกลับไปเป็นโจทก์ใหม่ให้ได้ คือ การทำให้บ้านเมืองกลับมาเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง ไม่ใช่ยัดเยียดข้อหาอย่างหน้าไม่อาย

“วันนี้ผมเจอเพื่อนฝรั่ง เขาถามว่าทำไมมีหลักเกณฑ์อย่างไรถึงได้เอาเงินของผมส่วนที่เป็นราคาหุ้นตั้งแต่วันที่ผมเข้าเป็นนายกฯ แล้วราคาหุ้นขึ้นบาทเดียว ก็ถูกหาว่าใช้อิทธิพล แล้วเขาก็ถามต่อว่า หุ้นตัวอื่นราคามันไม่ขึ้นหรือ มันขึ้นเฉพาะแค่ของผมตัวเดียวหรือ ผมก็บอกว่าตอนนั้น หุ้นแบงก์กรุงเทพฯ ที่คุณเปรมเป็นประธานก็ขึ้น หุ้นกลุ่มซีพี หุ้นกลุ่มเบียร์ช้าง หุ้นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นแบงก์ไทยพาณิชย์ หรือ ปตท. รวมทั้งกลุ่มพวกนายทุนค่ายผู้จัดการ เครือเนชั่นก็ขึ้น ขึ้นกันหมด แล้วเพื่อนผมก็ถามอีกว่า ราคาหุ้นขึ้นตามดัชนีไหม ผมก็ตอบว่าของผมเนี้ยขึ้นตามดัชนีเลย มีบางตัวขึ้นสูงกว่าดัชนีด้วยซ้ำ ทำไมไม่ยึดหมดล่ะ ยึดแค่ผมที่เป็นนายกฯคนเดียว แต่ทีบางคนสั่งการเหนือนายกรัฐมนตรี สั่งการเหมือนหนังตะลุงทุกเรื่อง ทำไมไม่ยึดด้วยล่ะ นี่ฝรั่งเขาถามผมนะ” พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดปากออกมาในที่สุด

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงคดีความของตนเองว่า ไม่รู้ถ้ายื่นอุทธรณ์คดีที่เมืองไทยความเป็นธรรมจะหลงเหลือหรือไม่ โดยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คงไม่กล้านำเรื่องราวต่างๆ ออกมาเปิดเผย แต่ที่ต้องเล่าให้ฟังเพราะว่ามันไม่ได้เป็นแค่ความเจ็บปวดเฉพาะตนฝ่ายเดียว แต่มันส่งผลถึงบ้านเมือง ทำให้ล้าหลังไปหมด ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่อารมณ์คนแก่ที่เข้าใจโลกน้อยมาก ดังนั้น ขอให้ตนเป็นเหยื่อรายสุดท้ายและบ้านเมืองได้รับการปรับปรุงให้พัฒนาต่อไป

“ถ้าเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง มันไม่มีวันจบ เพราะว่าวันนี้สัญลักษณ์ของการต่อสู้และความขัดแย้ง มันเพาะบ่มจากความไม่ยุติธรรม แล้วความไม่ยุติธรรมก็เป็นเผด็จการ จึงทำให้ไม่เป็นประชาธิปไตย” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวแขวะนายกรณ์ จาติกวณิช ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องคดียึดทรัพย์ว่าสมควรจะยึด 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด ว่า ตนไม่รู้ว่า รมว.คลัง แค้นตนมาตั้งแต่ชาติไหน มาประกาศว่าจะยึดทรัพย์ทั้งหมด ทั้งที่สมัยพ่อนายกรณ์ขายหุ้นเจเอฟธนาคม (บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ก็ไม่เห็นเสียภาษี ถ้าไม่เชื่อลองไปถามนายเนวิน ชิดชอบก็ได้ แต่วันนี้เขาเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น