ฤกษ์งาม ยามดี เวลา 13.30 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 คือวันนัดพิพากษาคดีประวัติศาสตร์ ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน อันได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว โดยที่ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษคุก 2 ปี ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ แน่นอนคือบุคคลที่มีความทุกข์มากที่สุด ขณะที่ประชาชนผู้รักความยุติธรรม ต่างรออย่างใจจดใจจ่อ ว่าผลแห่งคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร ประเทศจะเดินต่อไปได้หรือไม่ และความวุ่ยวายจะจบลงเมื่อใด
วันนี้ที่บอกว่าทักษิณ มีความทุกข์มากที่สุด เจ้าตัวคงปฏิเสธยาก เพราะหากไปตรวจอาการของ “ทักษิณ” จากการพูดในรอบ 4 วันที่ผ่านมา ถือว่าเขาคือผู้ป่วยทางจิตที่อยู่ในขั้นใกล้บ้าเต็มที
เริ่มจาก 21 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” ทวีตข้อความผ่านเว็บบล็อกทวิตเตอร์ @thaksinlive โดยตอบคำถามผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะถูกปล้นเงินว่า “ถ้าเป็นจริง ต่อไปนี้ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจและนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต โดยยังไม่ได้พิสูจน์ ก็ถูกยึดทรัพย์ของตนเองและครอบครัวได้” พร้อมกับย้ำว่า “ผมเตรียมแนวทางการต่อสู้ไว้แล้วครับ อย่างที่ผมบอกไว้ว่า จะแสวงหาความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะหาจนเจอ”
ทักษิณยังระบุอีกว่า สถาบันยุติธรรมไทยใช้เวลาสร้างมาหลายชั่วอายุคน แต่ถูกทำลายความน่าเชื่อถือลงอย่างรวดเร็ว เพราะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง “กฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจให้เขียนขึ้นมาถ้าขาดมิติแห่งความยุติธรรม ทั้งเนื้อหาและการบังคับใช้ก็จะเติมความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น”
22 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอตคอมว่า รัฐบาลชอบพูดถึงกฎหมายมากกว่าความยุติธรรม ซึ่งอยู่คนละมิติกัน rule by law จะอยู่กับการใช้อำนาจ rule of law จะอยู่กับกระบวนการสร้างความยุติธรรม กฎหมายเป็นสิ่งที่กำหนดขึ้นเพื่อให้เกิดกติกาการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และถูกบังคับใช้ด้วยความเสมอภาค ยุติธรรม สังคมจึงจะมีความร่มเย็นและสันติสุข กฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจให้เขียนขึ้นมา ถ้าขาดมิติแห่งความยุติธรรมทั้งเนื้อหาและการบังคับใช้ ก็จะเติมความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น
“ตามปกติระบบยุติธรรมไทยถือว่ามีมาตรฐานค่อนข้างดี เพิ่งจะมาเสียหายไม่นานนี้เองท่ามกลางความอึดอัดของผู้พิพากษาส่วนใหญ่เพราะถูกแทรกแซง”
“รัฐประหารนำประเทศถอยหลังเพื่อรักษาระบบเดิมของอำมาตย์ไว้ อำมาตย์กลัวคนไทยพ้นภาวะพึ่งพา เพียงใช้ทหารโง่และอยากรวยก่อนเกษียณไม่กี่คน”
วันเดียวกัน นช.ทักษิณ ได้ส่งวิญาณผ่านระบบวิดีโอลิงก์ร่วมวงเสวนา “ทิศทางประเทศไทยปี 53”โดย ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้นักลงทุนต่างชาติสรุปว่า การเมืองไทยเล่นกันแรง เมื่อก่อนการเมืองไทยไม่ข้ามเขตมาสู่เศรษฐกิจ อยู่แค่การเมืองทหาร แต่วันนี้ข้ามเขตมาสู่เศรษฐกิจไม่สนใจว่าจะพังและยังข้ามเขตถึงกระบวนการยุติธรรมด้วย ปัญหาวันนี้เกิดจะจับหนูตัวเดียวเผาทั้งบ้าน ทำให้วุ่น ทุกวันนี้ ถ้าจะให้ “ทำนายทิศทางประเทศไทยปี 53” อันดับแรกต้องย้อนกลับไปดูที่เหตุ หากเราหาเหตุแห่งทุกข์ไม่ได้ ก็ดับทุกข์ไม่ได้ สาเหตุเกิดจากกติกาถูกละเมิด โดย “คนมีบารมีสูงคนเดียว” ที่มีอำนาจ สั่งการ บอยคอตไม่ให้พรรคการเมืองส่งลงเลือกตั้ง ออกเดินสายกับทหาร เปรียบทหารเหมือนเป็นม้า ไม่ต้องฟังจ๊อกกี้ก็ได้ จากนั้นก็มีการเรียกให้ กกต.ลาออก ถ้าไม่ลาออกก็จำคุก ที่สุดก็จำคุกกกต. มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ให้องคมนตรีเดินสายสื่อ เสริมกำลังเงินให้พันธมิตรฯ นำคณะปฏิวัติเข้าเฝ้าฯ “ในหลวง” ให้ทหารร่วมกับพันธมิตรฯยึดสนามบิน ใช้ศาลกดดัน นายสมัคร สุนทรเวช จนนำมาสู่การยุบพรรคพลังประชาชน
“ความจริงผมเป็นคนพูดง่ายๆ ถ้าคนที่เคยแอบสั่งการมานั่งคุยกับผมซะ ทุกอย่างก็จบได้ ไม่มีอะไรเลย แต่วันนี้ไม่คุย กะจะบี้ให้ตาย ขอบอกว่าจะบี้ยังไงก็ไม่จบ เพราะมีตัวตายตัวแทน ประชาชนเสื้อแดงเห็นการทำงานอย่างนี้ เขารับไม่ได้หรอก ถ้าถามว่ายุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ คงดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ดีกว่าวันนี้แน่นอน ที่รัฐบาลบอกจะได้ 240 เสียงก็ช่วยยุบสภาสักที ฟันธงปีนี้มีการเปลี่ยนรัฐบาลแน่นอน ไม่รู้เหมือนกันรัฐบาลแบบไหน รัฐบาลแห่งชาติหรือเปล่า ผมไม่รู้ รัฐบาลเปลี่ยนขั้วหรือเปล่าผมไม่รู้” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า ทางออกวันนี้คือ นิรโทษกรรมทุกฝ่าย ปรองดองเริ่มต้นกันใหม่ ถอยคนละก้าวสองก้าว แต่ถ้ามาบอกว่า เอ็งต้องยอม ถูกยึดทรัพย์ ติดคุกให้หมด อย่างนี้ไม่จบ ถ้าจะมาบี้ตนให้ตาย ขอบอกได้ว่า ปี 53 ไม่ต้องพูดถึงเลย มีแต่เละตุ้มเป๊ะ
23 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” ทวีตข้อความผ่านเว็บบล็อกทวิตเตอร์ @thaksinlive โดยตอบคำถามผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังจะถูกปล้นเงิน ว่า “ผมเตรียมแนวทางการต่อสู้ไว้แล้วครับ อย่างที่ผมบอกไว้ว่า จะแสวงหาความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะหาจนเจอ”
24 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ในชื่อของ Thaksinlive ว่า มีข่าวมาว่า พล.อ.บุญเลิศ รุ่นเดียวกับคุณสุรยุทธ์ ออกมาพูดว่าเป้าหมายผมสูงกว่าตัวคุณเปรมฯ ผมขอประณามว่าเลวมากคงโกรธแทนกัน เป้าผมคือ ปชต./ยุติธรรม
พร้อมกันนี้ ได้ทวีตตอบชาวทวิตท่านหนึ่งที่ได้มาทวีตถามว่า เป็นไงบ้างคะ กังวัลกับผลวันศุกร์นี้ไหมคะ สู้นะคะ เอาใจช่วย อยากให้มีกำลังใจ อย่าท้อค่ะ โดยตอบว่า "ไม่กังวลหรอกครับ เงินครอบครัวมีมาก่อนการเมือง เชื่อว่าคงจะได้รับความยุติธรรม ถ้าขั้นนี้ไม่ได้ก็ต้องเสาะแสวงต่อจนเจอไม่ว่าจะอยู่ไหน
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ตอบข้อความที่ได้ถามถึงความยุติธรรมบนโลกใบนี้มันอาจจะหายากสักหน่อย แต่เชื่อว่าเมื่อเราสู้ ไม่ยอมแพ้ เราจะได้รับมัน และจะชนะในที่สุด กำลังฟังท่านถึงตอนที่ท่านว่า “ผมจะตายบนแผ่นดินไทย” ฟังแล้วมันรู้สึกว่าความยุติธรรมไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เลยว่า “ไม่เป็นไรครับ ยากแค่ไหนก็จะหามันจนเจอครับ time is on my side ครับ รอได้ ทนได้ ไม่ท้อ ไม่ถอย แต่พร้อมพูดคุยแบบคนไทยด้วยกัน”
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความตอบที่พูดถึงศาลโลกว่า “ที่ผมพูดเพราะมีตัวอย่างที่คนมาเลเซียไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาลประเทศเขา จึงดำเนินการผ่านกระบวนการต่างๆ ไปที่ ICJ ในที่สุดชนะ” จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้ ขอตัวไปนั่งสมาธิก่อนนอน แล้วบอกพบกันใหม่ที่ people channel เวลา 20:30-21:00 น.
จากคำพูดของ “นช.ทักษิณ” ในรอบ 4 วันข้างต้นที่กล่าวมา ได้รับคำตอบแล้วใช่ไหมครับ ว่าวันนี้ อาการของเขาเป็นเช่นไร
วันนี้ที่บอกว่าทักษิณ มีความทุกข์มากที่สุด เจ้าตัวคงปฏิเสธยาก เพราะหากไปตรวจอาการของ “ทักษิณ” จากการพูดในรอบ 4 วันที่ผ่านมา ถือว่าเขาคือผู้ป่วยทางจิตที่อยู่ในขั้นใกล้บ้าเต็มที
เริ่มจาก 21 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” ทวีตข้อความผ่านเว็บบล็อกทวิตเตอร์ @thaksinlive โดยตอบคำถามผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะถูกปล้นเงินว่า “ถ้าเป็นจริง ต่อไปนี้ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจและนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต โดยยังไม่ได้พิสูจน์ ก็ถูกยึดทรัพย์ของตนเองและครอบครัวได้” พร้อมกับย้ำว่า “ผมเตรียมแนวทางการต่อสู้ไว้แล้วครับ อย่างที่ผมบอกไว้ว่า จะแสวงหาความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะหาจนเจอ”
ทักษิณยังระบุอีกว่า สถาบันยุติธรรมไทยใช้เวลาสร้างมาหลายชั่วอายุคน แต่ถูกทำลายความน่าเชื่อถือลงอย่างรวดเร็ว เพราะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง “กฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจให้เขียนขึ้นมาถ้าขาดมิติแห่งความยุติธรรม ทั้งเนื้อหาและการบังคับใช้ก็จะเติมความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น”
22 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอตคอมว่า รัฐบาลชอบพูดถึงกฎหมายมากกว่าความยุติธรรม ซึ่งอยู่คนละมิติกัน rule by law จะอยู่กับการใช้อำนาจ rule of law จะอยู่กับกระบวนการสร้างความยุติธรรม กฎหมายเป็นสิ่งที่กำหนดขึ้นเพื่อให้เกิดกติกาการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และถูกบังคับใช้ด้วยความเสมอภาค ยุติธรรม สังคมจึงจะมีความร่มเย็นและสันติสุข กฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจให้เขียนขึ้นมา ถ้าขาดมิติแห่งความยุติธรรมทั้งเนื้อหาและการบังคับใช้ ก็จะเติมความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น
“ตามปกติระบบยุติธรรมไทยถือว่ามีมาตรฐานค่อนข้างดี เพิ่งจะมาเสียหายไม่นานนี้เองท่ามกลางความอึดอัดของผู้พิพากษาส่วนใหญ่เพราะถูกแทรกแซง”
“รัฐประหารนำประเทศถอยหลังเพื่อรักษาระบบเดิมของอำมาตย์ไว้ อำมาตย์กลัวคนไทยพ้นภาวะพึ่งพา เพียงใช้ทหารโง่และอยากรวยก่อนเกษียณไม่กี่คน”
วันเดียวกัน นช.ทักษิณ ได้ส่งวิญาณผ่านระบบวิดีโอลิงก์ร่วมวงเสวนา “ทิศทางประเทศไทยปี 53”โดย ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้นักลงทุนต่างชาติสรุปว่า การเมืองไทยเล่นกันแรง เมื่อก่อนการเมืองไทยไม่ข้ามเขตมาสู่เศรษฐกิจ อยู่แค่การเมืองทหาร แต่วันนี้ข้ามเขตมาสู่เศรษฐกิจไม่สนใจว่าจะพังและยังข้ามเขตถึงกระบวนการยุติธรรมด้วย ปัญหาวันนี้เกิดจะจับหนูตัวเดียวเผาทั้งบ้าน ทำให้วุ่น ทุกวันนี้ ถ้าจะให้ “ทำนายทิศทางประเทศไทยปี 53” อันดับแรกต้องย้อนกลับไปดูที่เหตุ หากเราหาเหตุแห่งทุกข์ไม่ได้ ก็ดับทุกข์ไม่ได้ สาเหตุเกิดจากกติกาถูกละเมิด โดย “คนมีบารมีสูงคนเดียว” ที่มีอำนาจ สั่งการ บอยคอตไม่ให้พรรคการเมืองส่งลงเลือกตั้ง ออกเดินสายกับทหาร เปรียบทหารเหมือนเป็นม้า ไม่ต้องฟังจ๊อกกี้ก็ได้ จากนั้นก็มีการเรียกให้ กกต.ลาออก ถ้าไม่ลาออกก็จำคุก ที่สุดก็จำคุกกกต. มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ให้องคมนตรีเดินสายสื่อ เสริมกำลังเงินให้พันธมิตรฯ นำคณะปฏิวัติเข้าเฝ้าฯ “ในหลวง” ให้ทหารร่วมกับพันธมิตรฯยึดสนามบิน ใช้ศาลกดดัน นายสมัคร สุนทรเวช จนนำมาสู่การยุบพรรคพลังประชาชน
“ความจริงผมเป็นคนพูดง่ายๆ ถ้าคนที่เคยแอบสั่งการมานั่งคุยกับผมซะ ทุกอย่างก็จบได้ ไม่มีอะไรเลย แต่วันนี้ไม่คุย กะจะบี้ให้ตาย ขอบอกว่าจะบี้ยังไงก็ไม่จบ เพราะมีตัวตายตัวแทน ประชาชนเสื้อแดงเห็นการทำงานอย่างนี้ เขารับไม่ได้หรอก ถ้าถามว่ายุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ คงดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ดีกว่าวันนี้แน่นอน ที่รัฐบาลบอกจะได้ 240 เสียงก็ช่วยยุบสภาสักที ฟันธงปีนี้มีการเปลี่ยนรัฐบาลแน่นอน ไม่รู้เหมือนกันรัฐบาลแบบไหน รัฐบาลแห่งชาติหรือเปล่า ผมไม่รู้ รัฐบาลเปลี่ยนขั้วหรือเปล่าผมไม่รู้” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า ทางออกวันนี้คือ นิรโทษกรรมทุกฝ่าย ปรองดองเริ่มต้นกันใหม่ ถอยคนละก้าวสองก้าว แต่ถ้ามาบอกว่า เอ็งต้องยอม ถูกยึดทรัพย์ ติดคุกให้หมด อย่างนี้ไม่จบ ถ้าจะมาบี้ตนให้ตาย ขอบอกได้ว่า ปี 53 ไม่ต้องพูดถึงเลย มีแต่เละตุ้มเป๊ะ
23 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” ทวีตข้อความผ่านเว็บบล็อกทวิตเตอร์ @thaksinlive โดยตอบคำถามผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังจะถูกปล้นเงิน ว่า “ผมเตรียมแนวทางการต่อสู้ไว้แล้วครับ อย่างที่ผมบอกไว้ว่า จะแสวงหาความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะหาจนเจอ”
24 กุมภาพันธ์ “นช.ทักษิณ” โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ในชื่อของ Thaksinlive ว่า มีข่าวมาว่า พล.อ.บุญเลิศ รุ่นเดียวกับคุณสุรยุทธ์ ออกมาพูดว่าเป้าหมายผมสูงกว่าตัวคุณเปรมฯ ผมขอประณามว่าเลวมากคงโกรธแทนกัน เป้าผมคือ ปชต./ยุติธรรม
พร้อมกันนี้ ได้ทวีตตอบชาวทวิตท่านหนึ่งที่ได้มาทวีตถามว่า เป็นไงบ้างคะ กังวัลกับผลวันศุกร์นี้ไหมคะ สู้นะคะ เอาใจช่วย อยากให้มีกำลังใจ อย่าท้อค่ะ โดยตอบว่า "ไม่กังวลหรอกครับ เงินครอบครัวมีมาก่อนการเมือง เชื่อว่าคงจะได้รับความยุติธรรม ถ้าขั้นนี้ไม่ได้ก็ต้องเสาะแสวงต่อจนเจอไม่ว่าจะอยู่ไหน
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ตอบข้อความที่ได้ถามถึงความยุติธรรมบนโลกใบนี้มันอาจจะหายากสักหน่อย แต่เชื่อว่าเมื่อเราสู้ ไม่ยอมแพ้ เราจะได้รับมัน และจะชนะในที่สุด กำลังฟังท่านถึงตอนที่ท่านว่า “ผมจะตายบนแผ่นดินไทย” ฟังแล้วมันรู้สึกว่าความยุติธรรมไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เลยว่า “ไม่เป็นไรครับ ยากแค่ไหนก็จะหามันจนเจอครับ time is on my side ครับ รอได้ ทนได้ ไม่ท้อ ไม่ถอย แต่พร้อมพูดคุยแบบคนไทยด้วยกัน”
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความตอบที่พูดถึงศาลโลกว่า “ที่ผมพูดเพราะมีตัวอย่างที่คนมาเลเซียไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาลประเทศเขา จึงดำเนินการผ่านกระบวนการต่างๆ ไปที่ ICJ ในที่สุดชนะ” จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้ ขอตัวไปนั่งสมาธิก่อนนอน แล้วบอกพบกันใหม่ที่ people channel เวลา 20:30-21:00 น.
จากคำพูดของ “นช.ทักษิณ” ในรอบ 4 วันข้างต้นที่กล่าวมา ได้รับคำตอบแล้วใช่ไหมครับ ว่าวันนี้ อาการของเขาเป็นเช่นไร