xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” เชื่อโจกแดงขึ้นแบล็กลิสต์สื่อ หวังกลบข่าวปั้น รบ.บัญชีดำสงฆ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯ ย้อนถามเสื้อแดงปูดข่าวขึ้นแบล็กลิสต์สื่อ มีไว้ทำอะไร ยัน รบ.ไม่เคยคิดขึ้นบัญชีดำพระสงฆ์ตามข้ออ้างลิ่วล้อไข่แม้ว มั่นใจจะดูแลความมั่นคงได้ เชื่อสังคมจะไม่ตื่นตระหนกข่าวที่ปล่อยมาจากฝ่ายเดียว ไม่หวั่น “ทักษิณ” เดินสายฟ้องต่างประเทศ เหตุสาวกเผยธาตุแท้นิยมใช้ความรุนแรง งดวิพากษ์หลัง ปปง.จับมือดีเอสไอ สอบเส้นทางการเงิน 16 คนไทย 10 ชาวต่างชาติ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (4 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คนเสื้อแดงจัดทำบัญชีดำสื่อที่สนับสนุนรัฐบาล รวมถึงบุคคลในรัฐบาล ว่า ตนไม่ทราบว่ามีไว้ทำอะไร แต่ในส่วนของรัฐบาลที่มีการมากล่าวหาว่า มีการขึ้นบัญชีดำได้มีการตั้งกระทู้ถาม เลยเถิดไปถึงจนถึงพระสงฆ์ ซึ่งไม่จริง และขอย้ำว่า ต้องช่วยกันระมัดระวังว่า ข่าวที่เสนอขึ้นมาเพื่อจะให้เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนต่างๆ ไม่เป็นความจริง รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะทำอะไรเลย ยกเว้นกลุ่มซึ่งทำผิดกฎหมาย และต้องมีการจับตามีการติดตามที่เป็นการทำงานตามปกติ ต้องตั้งคำถามว่าฝ่ายอื่นที่มาขึ้นบัญชีดำขึ้นทำอะไร อย่างไร เพราะขณะนี้ที่เราเรียกร้องกันคนส่วนใหญ่ ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาประหัตประหาร เราดำเนินการอะไรทุกอย่างดำเนินการตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามบัญชีของคนเสื้อแดง มีการระบุถึงรายชื่อสื่อหลายแขนง รัฐบาลจะให้การคุ้มครองดูแลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การข่าวเวลาที่มีการเสนอขึ้นมาว่า มีเป้าหมายของการที่จะมีความเสี่ยงต่อการคุกคามจะมีการประสานงาน และพยายามดูแลอยู่แล้ว เมื่อถามว่า บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถดูรักษาไม่ให้รุนแรงมากขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราอย่าไปวัดบรรยากาศ หรือความตึงเครียดจากการเสนอข่าวฝ่ายเดียว ที่ทำให้เกิดความเข้าใจว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตนไม่ปฏิเสธว่า สถานการณ์จะต้องมีความระมัดระวังไม่ประมาท และดำเนินการจริงจัง แต่ต้องอย่าไปสรุปให้เป็นไปตามที่บางฝ่ายต้องการ คือ เขาพยายามจะสร้างบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกว่า บ้านเมืองวุ่นวายจนกระทั่งจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มาจากการใช้กำลัง การปฏิวัติรัฐประหาร ปฏิวัติประชาชน ซึ่งไม่มีเงื่อนไขนั้น เราอย่าเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น การที่มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามต้องการความรุนแรงตรงนี้ เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะไม่ให้คนเหล่านั้นประสบความสำเร็จ

เมื่อถามว่า การทำงานของฝ่ายความมั่นคง ยังดำเนินการเท่าทันของการเคลื่อนไหวอีกฝ่ายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ทำงานใกล้ชิดกับสถานการณ์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 มี.ค.ได้มีโอกาสได้หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เพื่อซักซ้อมในหลายเรื่องพอสมควร ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการติดตามโดยละเอียด เมื่อถามต่อว่า แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุขึ้น ก็บอกว่า การข่าวรู้ล่วงหน้าไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย แต่ไม่เคยป้องปรามได้สักที นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องระเบิดที่เกิดขึ้น ถามว่า เราพอทราบไหมว่าธนาคารกรุงเทพอาจจะเป็นเป้าหมายหรือไม่ เราก็ทราบ แต่เราไม่สามารถดูแลได้ทุกสาขา คือ ข้อเท็จจริงที่ตนได้ย้ำว่า ถ้าจะบอกให้เราดูแลทุกพื้นที่ละเอียดขนาดนั้นคงไม่ง่ายนัก เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะที่เข้ามาแล้วขว้างระเบิด แต่ขณะนี้ก็มีความคืบหน้าไปมาก ในเรื่องการติดตามตัวผู้กระทำความผิด เมื่อถามว่า นายกฯคิดว่ากำลังพลไม่พอกับการไร้ประสิทธิภาพ มีความแตกต่างกันอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีกำลังพลพอที่จะดูแลทุกจุดขนาดที่ไม่ให้เกิดอะไรเลยนั้นมันคงเป็นไปได้ยาก แต่พอที่จะดูแลให้เกิดความเรียบร้อยในภาพรวม และประสิทธิภาพต้องมีการดูและปรับปรุงตลอดเวลา

ต่อข้อถามว่า กรณี นายพรวัฒน์ ทองสมบูรณ์ หรือ “เคทอง” ที่โพสต์คลิปป่วนขู่วางระเบิด ที่มีการติดตามจับตาตลอด แต่ก็ปล่อยให้หนีไปได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ขณะนี้มีการดำเนินการในการที่จะติดตาม เมื่อถามว่า เป็นการหละหลวมเกินไปหรือไม่ กับมาตรการดูแลความมั่นคงในขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “คือ หลายเรื่องจะเห็นว่าเราต้องดำเนินการไปโดยต้องเคารพกับระบบ เช่น บางรายก็มีการให้ประกันตัวไปตามดุลพินิจ เราคงต้องระมัดระวังกันมากยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนยังเชื่อมั่นอยู่รัฐบาลจะเชื่อมั่นว่า จะรักษาไปได้นานแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นปกติ แสดงว่ายังมีความเชื่อว่าสถานการณ์เราควบคุมได้ ตนก็ยืนยันว่าเราทำให้ดีที่สุดและควบคุมได้

“แต่ว่าเราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของคนที่พยายามสร้างให้เกิดความตื่นตระหนกให้เกิดความรู้สึกความรุนแรง หรือยั่วยุให้เกิดการใช้มาตรการที่นำไปสู่เงื่อนไขที่จะปลุกระดมที่จะนำไปปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงได้” เมื่อถามต่อว่า แล้วรัฐบาลได้ทำอะไรให้ประชาชนรู้สึกอบอุ่นใจว่า ได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมก็ขอยืนยันว่าขณะนี้พี่น้องประชาชนสามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่าตื่นตระหนกเพียงแต่ว่า ในท่ามกลางบรรยากาศที่สืบเนื่องมาจากคดียึดทรัพย์ หรือเรื่องต่างๆ เพียงแต่ว่าเราอย่าประมาท ให้ความร่วมมือช่วยกันเป็นหูเป็นตา เราจะช่วยกันผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้”

ต่อข้อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการทำหนังสือถึงผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะมีปัญหาส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มีผลกระทบ เพราะเชื่อว่าขณะนี้ทั่วโลกมีความเข้าใจดีขึ้น โดยเฉพาะระยะหลังจะเห็นได้ว่าผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงออกถึงการใช้ความรุนแรง มันเป็นตัวทำให้ต่างประเทศเข้าใจหมดแล้วว่า ที่เคยอ้างว่าเรื่องความเป็นประชาธิปไตย เมื่อเกิดเหตุการณ์เดือน เม.ย.2552 มันฟ้องตัวเองถึงบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปหมดแล้ว ดังนั้น ขณะนี้ตนไม่กังวล เมื่อถามว่า ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ดูไบเป็นฐานการเคลื่อนไหวโดยวิดีโอลิงก์จากที่นั่นจะดำเนินการอะไรได้มากกว่าที่ทำมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศ และได้มีการทำเพิ่มเติมไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ช่วยรัฐมนตรีรับไปดำเนินการแล้ว เมื่อถามต่อว่า มีโอกาสที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดใช้ดูไบเป็นฐานการเคลื่อนไหวได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของดูไบ แต่ทางเราก็รวบรวมข้อเท็จจริงไป โดยเฉพาะการที่มีภาพชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินการมาจากไหนอย่างไร เมื่อถามว่า รัฐบาลจะทำอะไรอย่างอื่นได้หรือไม่ กดดันทางดูไบหรือตอบโต้อะไรหรือไม่ เช่น ไม่ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้ นายอภิสิทธิ์ ตอบแบบอึกอักว่า กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการอยู่ ต้องฟังคำตอบจากเขาก่อน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามและจับกุมการทำธุรกรรมทางการเงินของคนไทย 16 คนและชาวต่างชาติ 10 คน ที่โอนเงินเข้ามาในประเทศ ว่า ขณะนี้ก็กำลังตามอยู่โดยทุกหน่วยงาน ก็ได้ทำงานประสานกันทั้ง ปปง.และ ดีเอสไอ รวมทั้งอีกหลายหน่วยงาน ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินส่วนดังกล่าวได้เชื่อมโยงมาใช้ทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอไม่พูดอะไรเพิ่มเติมในชั้นนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น