xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ปัดเครือข่ายครูตกเป็นเครื่องมือโจกแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“อภิสิทธิ์” ระบุมือโทร.ขู่ลอบวางระเบิด ก.ศึกษาฯ แค่พวกนึกสนุก ปัดข่าวเครือข่ายครูใช้รถขนเสื้อแดงเข้ากรุง ยอมรับสังคมห่วงชุมนุมหางแดง ช่วงตัดสินคดียึดทรัพย์แม้ว เชื่อสถานการณ์ไม่รุนแรงขั้นต้องกักตุนอาหาร ลั่นจะจัดการขั้นเด็ดขาดพวกนิยม ใช้ความรุนแรง หัวเราะโหร คมช.ทำนายนายกฯ คนใหม่อักษรย่อ “ป.”

วันนี้ (21 ก.พ.) บริเวณหน้าบ้านพัก ซอยสุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการขู่วางระเบิดกระทรวงศึกษาธิการว่า ได้ตรวจสอบแล้วเป็นการแจ้งเข้าไปที่ศูนย์ที่เพิ่งเปิด แต่เชื่อว่าเป็นลักษณะการมาก่อกวนมากกว่า ตรงนี้มีศูนย์ที่เขาติดตามอยู่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ติดตามเฝ้าระวังอยู่แล้ว แต่ที่ท่านรายงานตนมา ท่านคิดว่ากรณีนี้เท่าที่ตรวจสอบน่าจะเป็นเรื่องการก่อกวน ทั้งนี้อยากจะขอความร่วมมือกับประชาชนว่าสถานการณ์ในขณะนี้ เราพยายามที่จะดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพื่อประโยชน์ของคนทุกคน ฉะนั้นเรามีกลไกต่างๆ ขออย่าเห็นเป็นเรื่องสนุก เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันหนัก ทุกคนก็ต้องการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนเอง ขอความร่วมมือด้วย ถ้ามีประเด็นที่จะช่วยเราทำงานก็ขอความกรุณาแจ้งมา แต่ถ้าใครอยากจะเล่นสนุกอย่าเลย เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานลำบากมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกี่ช่องทางที่ประชาชนจะสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ นาอยภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงเราเปิดกว้างทุกทางอยู่แล้ว แต่คณะกรรมการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ (คตม.) จะมีศูนย์ มีการเปิดสายอยู่โดยเฉพาะด้วย เมื่อถามว่าจะมีวิธีการจัดการกับคนที่นึกสนุกอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าเราจับได้ก็คงจะดำเนินการ แต่ก็ไม่ง่าย เมื่อถามว่าดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้ประชาชน เกิดความไม่เชื่อมั่นรัฐบาลจะรับมือกับสถานการณ์ได้ โดยมีการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคกันจำนวนมาก เพราะเกรงสถานการณ์จะบายปลาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะถึงขั้นนั้น แต่อาจเป็นความวิตกกังวลที่ยังมี โดยเฉพาะประชาชนที่อาจมีการคาดเดาว่า จะมีการชุมนุมในพื้นที่นั้น พื้นที่นี้และในวันนั้น เขาอาจไม่อยากที่จะอยู่ที่บริเวณนั้น เพราะมันจะมีความไม่สะดวกเป็นเรื่องธรรมดา เช่นการจราจร และอาจจะมีการกะทบกระทั่งกัน เหมือนวันศุกร์ที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีการชุมนุมกันที่สีลม ฉะนั้นบางคนอาจจะกังวล

“ทั้งนี้ โดยทั่วๆ ไปขอเรียนว่ายังไม่มีอะไรที่ต้องตื่นตระหนกเลย เป็นเรื่องซึ่งเราจะบริหารสถานการณ์บนพื้นฐานของกฎหมาย และผู้ชุมนุมเขายืนยันจะชุมนุมโดยสงบ ส่วนใครที่มีความคิดที่จะใช้ความรุนแรง เราจะจัดการอย่างเด็ดขาด” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่าโดยบรรยากาศต่างชาติมองสถานการณ์ไทยเริ่มตึงเครียด เกือบ 20 ประเทศที่มีการเตือนคนของเขาที่จะมาไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มันเป็นการคาดการณ์สืบเนื่องจากคดีในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เป็นช่วงที่ทุกคนคาดหมายมาตั้งแต่ต้นว่าจะเกิดความรู้สึกตึกเครียดกันขึ้นมา ซึ่งตนได้ย้ำว่าถ้าสังคมเราเคารพและฟังสิ่งที่ศาลจะดำเนินการและยอมรับตามนั้น ทุกอย่างจะเดินต่อไปได้ ฉะนั้นช่วงนี้เป็นความกังวลเป็นปกติธรรมดา แต่ตนให้ความมั่นใจว่าอย่าไปตื่นตระหนก สังคมถ้าเดินผ่านจุดนี้ไปได้ก็จะเป็นการพิสูจน์ ถึงความเข้มแข็งของเราทุกฝ่ายทุกคน

เมื่อถามว่า คิดว่าวันนี้จะก้าวข้ามปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไ ด้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สังคมต้องก้าวพ้นให้ได้อยู่แล้ว เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะมีปัญหาวังวนกันอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม เมื่อถามว่า ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ยังโฟนอินไปตามที่ต่างๆและบอกให้ประชาชนเดินทางจากต่างจังหวัด เหมือนแม่น้ำสีแดงที่ไหลเข้ากรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจะเชิญชวนชุมนุม หรือเชิญชวนชุมนุมทำได้ แต่ต้องถามว่าเพื่ออะไร และตนได้ย้ำว่าถ้าเป็นปัญหาความเดือดร้อนความไม่เป็นธรรม ก็มีช่องทางหลายช่องทาง ซึ่งสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะไปเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ส่วนบุคคล มันไม่ได้มีประโยชน์อะไร มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่เจ้าตัวก็ต้องดิ้นรนตามปกติ

เมื่อถามว่าตอนนี้มีหลายพื้นที่ พูดถึงขนาดที่ว่าถ้าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาได้และได้เงินคืนประชาชนจะให้คนละ 1 แสนบาท นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในความเป็นจริงก็น่าจะทราบกันอยู่ว่าคงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่าในวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ได้เดินทางไปดูไบมา คิดว่าจะมีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าตัวเขาก็ชัดเจนว่าทำงานให้ใคร ฉะนั้นอันนี้เป็นเรื่องที่ทางหน่วยงาน ต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการกระทำอะไรที่ผิดหรือไม่

เมื่อถามว่าตอนนี้เรื่องใต้ดินรวมถึงกองกำลังติดอาวุธต่างๆมันมีมากน้อยแค่ไหนอย่างไรในด้านการข่าว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวมันก็มีรายงานมาประปลาย แต่ก็มีการติดตามตรวจสอบเฝ้าระวังตลอด เมื่อถามว่าล่าสุดนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษา ออกมาเปิดเผยมีการจะใช้รถของสถาบันราชภัฏขนคนเข้ามาใน กทม. นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีศึกษาถึงได้อยู่ใน คตม. เพื่อติดตามและจะได้แก้ไขปัญหาได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าเครือข่ายครูเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ เราอย่าไปพูดว่าเป็นเครือข่ายนั้นเครือข่ายนี้ เราต้องยอมรับว่าในทุกวงการมีบุคคลที่มีความฝักใฝ่ทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ไม่ควรจะเอาเรื่องของตัว เครือข่าย เรื่องของทางราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า ตอนนี้ดูเหมือนนักธุรกิจไม่ค่อยเชื่อมั่นภาครัฐถึงขึ้นที่ว่า หากจับมือวางระเบิดไม่ได้จะลงขันกันเอง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริงๆ เป็นความปรารถนาดี ทุกคนอยากที่จะให้มีการดำเนินการได้ เพราะเราไม่ต้องการที่จะให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก ฉะนั้นผมคิดว่าเป็นความหวังดี ส่วนความเชื่อมั่นโดยรวมทางเศรษฐกิจ คิดว่าถ้าเราบริหารสถานการณ์ตรงนี้ได้ มันก็เห็นชัดอยู่แล้วจากตัวเลขต่างๆ ที่ออกมาว่าทุกอย่างกำลังไปในทางที่ดีขึ้น พรุ่งนี้ (22 ก.พ.) สภาพัฒน์ฯ จะแถลงตัวเลขสำหรับไตรมาศที่ 4 ซึ่งคาดหมายกันว่า น่าจะเป็นตัวเลขที่เป็นข่าวดี เมื่อถามว่าหากมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นตามที่มีการวิเคราะห์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กำลังติดตามกันอยู่ ซึ่งตนได้กำชับไปแล้วว่ามันมีความจำเป็นมากว่า เวลาเกิดเหตุในลักษณะนี้ต้องดำเนินการให้ได้ ไม่งั้นมันจะกระทบกับความเชื่อมั่น และจะมีการนำไปขยายผลในทางต่างๆ รองนายกฯ ทราบดี

เมื่อถามว่า เวลานี้ยังมีการพูดถึงเรื่องการปฏิวัติกันอยู่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนยืนยันว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรและตนมองไม่เห็นว่า การปฏิวัติรัฐประหารจะแก้ไขปัญหาให้ใครได้ มีแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น เมื่อถามว่า มีการอ้างว่าถ้าปล่อย ให้มีการจาบจ้วงสถาบันมาก อาจมีส่วนทำให้ต้องตัดสินใจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีใครปล่อย และตนยืนยันว่ารัฐบาลถือเป็นเรื่องสำคัญ ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ แต่การดำเนินการมันต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ที่สำคัญต้องดำเนินการในลักษณะ ซึ่งไม่ตกไปเป็นเหยื่อของฝ่าย ที่ไม่หวังดีต่อสถาบันด้วย คิดอะไรต้องคิดให้ครบทุกด้าน รัฐบาลคิดให้ครบทุกด้าน เมื่อถามว่าคิดอย่างรับคำทำนายของโหร คมช.ที่บอกว่านายกฯคนต่อไปมีอัษรย่อเป็น “ป.” นายอภิสิทธิ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า กลัวคนจะไปเปลี่ยนชื่อเป็น “ป.” กันหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น