ส.ส.ปชป.โวย “สามารถ แก้วมีชัย” หวังดิสเครดิตทำลายภาพพจน์สภา ชิงปิดประชุม หลังนับองค์ประชุมขาดเพียง 5-6 คน เสนอนับใหม่กลับไม่ยอม ใช้อำนาจปิดทำสภาล่มซ้ำซาก
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังสภาล่ม ว่า ตนมั่นใจว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในห้องประชุมครบ เพราะมีการนับยอด ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลไว้แล้ว ก่อนที่ตนจะเป็นผู้เสนอขอให้ประธานนับองค์ประชุม แบบเป็นรายบุคคลที่อยู่ในห้องประชุม เพราะแต่เดิมสภา ใช้วิธีการนับองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตรประจำตัว ส.ส.ซึ่งประชาชนดูการถ่ายทอดสดทางบ้านจะเห็นว่ามี ส.ส.อยู่เต็มสภา แต่เมื่อมีการเสียบบัตรจริง กลับปรากฏว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้านนั่งอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่เสียบบัตรลงคะแนน ครั้งนี้ตนจึงได้เสนอให้นับตัวบุคคล ซึ่งประธานไม่เห็นด้วย เลยให้เจ้าหน้าที่สภาเป็นผู้นับ แม้จะได้ยอดครั้งแรก 232 เสียง ซึ่งขาดองค์ประชุม 5-6 คน เพราะยังมี ส.ส.ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อยู่ระหว่างการเดินจากห้อง กมธ.มาเข้าห้องประชุมสภา แต่ประธานกลับเสนอด้วยการปิดประชุมสภา ทั้งที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และตนเป็นผู้เสนอขอให้นับใหม่โดยการขานชื่อ และมีสมาชิกรับรองถูกต้องตามระเบียบการประชุมแล้ว แต่ประธานก็ยังสั่งปิดการประชุม ทั้งที่ตัวเลขยังไม่แน่ชัด เพราะยังมี ส.ส.เดินเข้ามาอีกหลายสิบคน
“คนทำหน้าที่ประธานต้องใช้วิจารณญาณประกาศสั่งพักการประชุม หรือเลื่อนการประชุม 5 นาที แต่กลับสั่งปิดการประชุม ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าประธานจ้องจะหาโอกาสดิสเครดิตทำลายภาพพจน์ของสภา หรืออาจลงลืมไปว่า ขณะนี้ตัวเองทำหน้าที่ประธานสภา ไม่ใช่ ส.ส.พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะคนเป็นรองประธานสภา ต้องมีวิจารณญาณที่สูงกว่าคนทั่วไป และที่สำคัญต้องเป็นกลาง ไม่ได้ทำเพื่อความสะใจ ชั่วครู่ชั่วยาม ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่า เสียง ส.ส.ฝ่ายพรรคร่วมเกินกึ่งหนึ่งแน่นอน จึงกล้าเสนอให้นับเป็นรายบุคคล
นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มี ส.ส.รัฐบาลอยู่ในห้องประชุมครบ ซึ่งหลังจากที่ประธานได้สั่งปิดประชุมด้วยคะแนน 232 เสียง แต่รัฐบาลกลับนับ ส.ส.ที่อยู่ในห้องได้ 257 เสียง เพราะยังมี ส.ส.จากการประชุม กมธ.ต่างๆ มาที่ห้องจำนวนมาก จึงไม่รู้ว่าประธานประกาศตัวเลขดังกล่าวโดยสรุปรวบรัดได้อย่างไร และถึงแม้เสียงจะขาด 5-6 เสียง ก็ควรจะหยุดพักการประชุม หรือรอให้เวลานับองค์ประชุมเพื่อประกาศไปยังห้อง กมธ.ต่างๆ ให้สมาชิกรับทราบอย่างทั่วถึง ไม่ใช่รวบรัดอย่างนี้ แสดงถึงการทำหน้าที่ของผู้ที่ทำหน้าที่ประธานและรองประธานสภา ว่าเป็นกลางหรือไม่อย่างไร