xs
xsm
sm
md
lg

เลิกหวยออนไลน์ยังไม่พอ ต้องกำจัดเหลือบกองสลาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พูดได้ว่า การค้นพบความไม่ชอบมาพากลในการประมูลโครงการนี้ คงไม่เกิดขึ้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการหวยออนไลน์ ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับหน่วยงานราชการที่ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แต่กลับปล่อยปละละเลย หรืออาจถึงขั้นสมรู้ร่วมคิด เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน ซึ่งแน่นอนว่า คงไม่ได้ช่วยฟรี แต่ย่อมเงินทอนที่ควรคืนส่วนนี้ไปให้ประชาชนไปเข้ากระเป๋าใครบางคน

รายงานการเมือง/แสงตะวัน

เมื่อสัปดาห์ก่อน มีคำพิพากษาของศาลฎีกาที่กลับคำพิพากษาศาลแพ่งทั้งชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ยกฟ้องคดีบริษัท จาโก้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ผู้ได้รับสิทธิจำหน่ายสลากผ่านเครื่องอัตโนมัติ หรือหวยออนไลน์

ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ต้องสียค่าโง่กว่า 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 43

คำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว ถือว่ามีผลสะเทือนอย่างมีนัยยะสำคัญต่อบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด และการตัดสินใจของรัฐบาลเกี่ยวกับสัญญาหวยออนไลน์ ที่ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณายกเลิกโครงการดังกล่าวด้วย


ผลสะเทือนต่อบริษัท ล็อกซเลย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด เห็นผลทันที เพราะหลังสิ้นคำพิพากษาศาลฎีกา หุ้นล็อกซเลย์ก็ร่วงกราวรูด พร้อมๆ ไปกับความหวาดวิตกเกี่ยวกับสัญญาจ้างบริการระบบเกมสลาก (หวยออนไลน์) ฉบับล่าสุดที่อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมายของ คณะกรรมการกฤษฎีกาและอัยการสูงสุดว่า


มีปัญหาในเรื่องความสมบูรณ์ของสัญญา หรือไม่?

หากทั้งสองหน่วยงานชี้ว่า สัญญาฉบับนี้ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมมีผลทำให้ ล็อกซเลย์ จีเทค เทคโนโลยี มีโอกาสที่จะชนะในการโต้แย้งทางกฎหมายน้อยลง และนั่นหมายถึงว่า รัฐบาลย่อมอยู่ในฐานะที่ตัดสินใจง่ายขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและกระทรวงการคลัง มักจะหยิบยก “คดีจาโก้” มาอ้างว่า หากรัฐยกเลิกสัญญาหวยออนไลน์ที่ทำกับบริษัท ล็อกซเลย์ฯ ก็จะต้องเสียค่าโง่กว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งในขณะนั้นศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามความเห็นของอนุญาโตตุลาการ โดยทางกระทรวงการคลังเชื่อว่า แนวคำพิพากษาของศาลฎีกา น่าจะไม่แตกต่างไปจากศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์

ว่ากันว่า ความเห็นดังกล่าวฉุดรั้งทำให้ “อภิสิทธิ์” ต้องคิดอย่างรอบคอบกว่าจะตัดสินใจในทางนโยบายให้ยกเลิกหวยออนไลน์ จนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการชุดที่มีนายเกียรติ สิทธีอมร เป็นประธาน

ซึ่งมีผลสรุปและทางเลือก ที่จะไม่ดำเนินการหวยออนไลน์สองตัว สามตัวไว้แล้ว


พร้อมๆ กับที่ขอให้นายกรัฐมนตรีส่งประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของสัญญา ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา และ อัยการสูงสุดพิจารณาในสองประเด็น คือ

1. ปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง มติครม. และผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า มีผลต่อสัญญาหรือไม่ อย่างไร

เนื่องจากรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ออกมติ ครม. ยกเลิกมติครม.ปี 46 ที่ให้ดำเนินโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำวินิจฉัยในวันที่ 6 พ.ย.51 ว่า ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตราขึ้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ครบองค์ประชุม เป็นเหตุให้กฎหมายดังกล่าวตกไป และยังมีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาคดีหวยบนดินว่า มิชอบด้วยกฎหมายสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกด้วย

ทางคณะกรรมการฯจึงขอให้กฤษฎีกาและอัยการสูงสุดพิจารณาภาพรวมของพัฒนาการเรื่องนี้ทั้งหมด ในทางกฎหมายว่า จะมีผลต่อความสมบูรณ์ของสัญญาหรือไม่?

2. ประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับความผูกพันระหว่างตัวแทนจำหน่ายกับสำนักงานสลากกินแบ่งฯ ซึ่งแม้จะไม่มีการทำสัญญา แต่ก็ถือว่ามีมิติสัมพันธ์ระหว่างกัน จะมีผลผูกพันทางกฎหมายหรือไม่อย่างไร ?


ซึ่งเรื่องนี้จะเกี่ยวพันกับการพิจารณาเพื่อเยียวยาผู้แทนจำหน่าย นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทล็อกซเล่ย์ฯ มีพฤติการณ์บางประการที่เชื่อได้ว่า ระหว่างที่มีการประมูลโครงการดังกล่าวอาจมีการกระทำที่เข้าข่ายขัดต่อ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือที่เรียกกันว่า “กฎหมายฮั้ว” ซึ่งไม่เพียงมีผลต่อความสมบูรณ์ของสัญญา แต่อาจทำให้สัญญาไม่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ต้น

เพราะเมื่อมีการละเมิดกฎหหมายรัฐไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย ขณะเดียวกันบริษัท ล็อกซเล่ย์ฯอาจต้องรับผิดในทางอาญาด้วย นายกรัฐมนตรีจึงแทงเรื่องส่งไม้ต่อให้ ดีเอสไอ ทำการสอบสวนเรื่องนี้ คู่ขนานไปกับการตรวจสอบความสมบูรณ์ของสัญญา ที่ให้กฤษฎีกาและอัยการสูงสุดทำความเห็นมา

พูดได้ว่า การค้นพบความไม่ชอบมาพากลในการประมูลโครงการนี้ คงไม่เกิดขึ้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการหวยออนไลน์

ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับหน่วยงานราชการที่ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แต่กลับปล่อยปละละเลย หรืออาจถึงขั้นสมรู้ร่วมคิด เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ได้ช่วยฟรี แต่ย่อมเงินทอนที่ควรคืนส่วนนี้ไปให้ประชาชนไปเข้ากระเป๋าใครบางคน

การตัดสินใจเลิกหวยออนไลน์ครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่ช่วยลดช่องทางการพนันให้กับสังคมไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดประโยชน์ที่คาดไม่ถึง ในการค้นพบความไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิงของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นความไม่รอบคอบทางด้านกฎหมาย หรือแม้แต่การใช้กองสลากฯเป็นขุมทรัพย์

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่นายกฯอภิสิทธิ์ ควรใช้โอกาสนี้ ปฏิรูปการทำงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเสียใหม่

รื้อระบบโควตา แก้ปัญหาสลากเกินราคา กำหนดวิธีการใหม่ ไม่ให้มียี่ปั๊ว ซาปั๊วกินค่าหัวคิวจนเอาเปรียบผู้บริโภค แม้ว่าการเข้าไปแตะในเรื่องนี้ อาจส่งผลกระทบทางด้านการเมือง เพราะผู้ที่ได้รับประโยชน์มายาวนานจากระบบโควต้า และเป็นผู้ควบคุมการกระจายของสลากกินแบ่ง จนทำให้กลายเป็นคนคุมกลไกการตลาดของล็อดเตอรี่ไปโดนปริยาย ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้กว่าล็อตเตอรี่จะเป็นถึงมือผู้บริโภคก็มีราคาสูงกว่าราคาจริงเกือบ 40 บาทต่อฉบับ

นอกจากนี้สำนักงานสลากกินแบ่งฯควรเลิกเอาเปรียบผู้จำหน่าย แต่ยอมแบกรับภาระต้นทุนด้วยการให้คืนสลากที่ขายไม่หมด โดยกำหนดช่วงเวลาให้ชัดเจน ก่อนถึงวันออกหวย เป็นทางเลือกให้ผู้จำหน่าย เพราะปัจจุบันจะมีล็อตเตอรี่ ที่ขายไม่หมดประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้ขายบวกความเสี่ยงจากปัญหานี้เข้าไปแล้ว เท่ากับหนึ่งฉบับแพงขึ้นทันที 15 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหากกองสลากเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหานี้ ก็จะทำให้ปัญหาราคาล็อตเตอรี่แพงเกินจริงเบาบางลง

เมื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ทั้งเรื่องหวยออนไลน์ และสลากเกินราคา ก็ต้องกำหนดมาตรการเข้มข้นเพื่อกฎหมายบังคับใช้ได้จริง พร้อมกับจัดการปราบปรามหวยใต้ดินไปด้วย ก็จะทำให้คนที่กล่าวหาว่ายกเลิกหวยออนไลน์ เพื่อเอื้อเจ้ามือหวยใต้ดิน หยุดโจมตีเสียที


กำลังโหลดความคิดเห็น