xs
xsm
sm
md
lg

ล้มหวยออนไลน์ “มาร์ค” หล่อหลักลอย สวมวิญญาณหล่อหลักแน่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
การที่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรีประกาศตั้ง “นายเกียรติ สิทธี อมร” เป็นประธานในการหาช่องกฎหมายล้ม “หวยออนไลน์” ภายใน 30 วันนั้น จริงอยู่แม้จะได้รับการตอบรับจากสังคมอย่างสูง แต่ก็ทำให้เกิดข้อกังขาตามมามากมาย



เพราะในแง่ของข้อเท็จจริง โครงการนี้เดินหน้ามาไกลจนถึงฤกษ์ที่จะคลอด ซึ่งกำหนดเอาไว้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมปีนี้อยู่แล้ว และตัวนายกรัฐมนตรีเองก็รับรู้มาโดยตลอดถึงขั้นตอนและกระบวนการดังกล่าว

คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไมนายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา “หล่อหลักลอย” จึงผีเข้ากลายมาเป็น “หล่อหลักแน่น” ในช่วงก้าวสู่ปีที่ 2 ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้

อย่าให้ซ้ำรอยรถเมล์ NGV

เป็นที่รับรู้กันว่า โครงการหวยออนไลน์นั้น เป็นโครงการทางการเมืองที่เกิดขั้นจากข้อตกลงระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาในตอนที่ไปชวนจัดตั้งรัฐบาล

และเป็นที่รับรู้กันว่า โครงการหวยออนไลน์นั้น อยู่ภายใต้การดูแลของ “นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งเมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้ว นายประดิษฐ์ที่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังก็ผลักดันโครงการนี้อย่างเต็มที่โดยลงนามอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2552

จากนั้นโครงการนี้ก็ผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อผลักดันให้ออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ และผลของการตีความก็ออกมาว่า สามารถทำได้ภายใต้กฎหมายการพนันและสลากการกุศล รวมถึงการไปว่าจ้างสวนดุสิตโพลไปสำรวจความคิดเห็นประชาชน ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ ประชาชน 53% เห็นด้วยกับโครงการนี้

ขณะที่ “นายกรณ์ จาติกวณิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้คัดค้านการผลักดันโครงการหวยออนไลน์แต่อย่างไร

กระทั่งเป็นที่รับรู้กันว่า ในช่วงต้นปี 2553 นี้บรรดาคอหวยเตรียมตัวซื้อหวยจากตู้กันได้แล้ว โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ส่งจดหมายให้ทางล็อกซเล่ย์ จีเทคฯ เตรียมงานติดตั้งเพื่อเปิดขายหวยออนไลน์ภายใน 90 วันนับจากวันที่ 4 ธ.ค.2552 ที่ผ่านมา

บริษัทก็เตรียมรับทรัพย์ เอเย่นต์ก็เตรียมสถานที่เปิดขาย

แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อนายอภิสิทธิ์ประกาศล้มหวยออนไลน์ชนิดที่เรียกว่าทุบหม้อข้าวของกลุ่มคนที่กำลังเตรียมนั่งนับเงินให้ฝันสลายไปในชั่วข้ามคืน จนเกิดคำถามตามมาว่า ทำไมก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ถึงไม่ประกาศท่าทีที่ชัดเจน เพราะรู้ทั้งรู้ว่าใกล้กำหนดเวลาของการเปิดขายเข้ามาทุกที เสมือนหนึ่ง “เอาความดีใส่ตัว เอาความชั่วใส่คนอื่น” ยังไงยังงั้น รวมทั้งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา “หล่อหลักลอย” ต้องการกลบกระแสข่าวทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งที่สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลอย่างหนักอยู่ในขณะนี้

นายอภิสิทธิ์ไปได้รับชุดข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจมาจาก “ใคร”

หรือพูดง่ายๆ ก็คือใครเป็นคนชงข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจเช่นนี้ และใครที่ว่านั้นจะมีความเชื่อมโยงไปถึงเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์กำลังดำเนินการในเร็ววันนี้หรือไม่

แน่นอน ใครที่ว่านั้น ย่อมมิใช่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ใครที่ว่านั้น ย่อมมิใช่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

และใครที่ว่านั้น ย่อมมิใช่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง

แต่ใครที่ว่านั้น ใช่เป็นคนใกล้ชิดรัฐมนตรีได้รับผลประโยชน์จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลและการยกเลิกหวยออนไลน์ตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาหรือไม่

แต่ใครที่ว่า เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากกระแสข่าวเรื่องโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล 8 ล้านชุด ที่ออกมาใหม่ มีการจัดสรรให้เฉพาะคนบางกลุ่มและพวกพ้องของรัฐมนตรี ตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาใช่หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ให้เหตุผลถึงการที่เพิ่งออกมาตัดสินใจคัดค้านว่า “เพราะกองสลากเพิ่งได้ข้อยุติ ก่อนหน้านี้ผมได้สอบถามมาโดยตลอดว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร และมีการเสนอเปลี่ยนโครงการจากเดิม ซึ่งตอนหลังยังไม่ชัดเจนว่าไปในเรื่องของมูลนิธิ หรือเรื่องอะไร และได้สอบถามล่าสุดว่าเป็นข้อยุติหรือไม่อย่างไร ต้องทำให้เสร็จภายในเมื่อไหร่ เขาก็พูดว่าจะเสนอให้ ครม.ทราบ ก็ยังไม่เสนอเลย พอดีเห็นว่าถ้ารอให้เสนอ ครม.ทราบ ก็ยิ่งช้าไปอีก ก็คิดว่า ครม.ก็มีสิทธิ์จะเสนอนโยบายในเรื่องนี้ได้”

“มันอยู่ที่ทางเลือกที่เราต้องตัดสินใจ เราจะเอาเงินพร้อมกับปัญหาสังคม หรือตัดสินไม่เอาเงิน จำกัดปัญหาสังคมได้ ตรงนี้แล้วแต่หลักคิด ถ้าหลักคิดจะแก้ไขปัญหา โดยทำของผิดกฎหมาย ให้เป็นของถูกกฎหมาย เป็นหลักคิดที่คิดได้ แต่ผมไม่ยอมรับหลักนี้ในขณะนี้ และผมคิดว่าถ้ายอมรับหลักนี้ก็จะมีคำถามตามมาอีกว่าตกลงยาเสพติด ค้าประเวณี จะแก้แบบเดียวกันไหม ...การเอาหวยใต้ดินขึ้นมาบนดินในกรอบกฎหมาย เท่ากับว่าโครงการนี้เป็นโครงการหาเงินใหม่ของรัฐบาลเท่านั้นเอง เพราะมันกินแบ่งไม่ได้กินรวบ”

ดูเหมือนว่า เหตุผลของนายอภิสิทธิ์จะไม่ได้ตอบคำถามที่ว่า ทำไมถึงเพิ่งตัดสินใจเลิกหวยออนไลน์ในช่วงนี้ เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว นี่เป็นเรื่องของหลักการขั้นพื้นฐานที่นายกรัฐมนตรีสามารถตัดสินใจได้ในทันทีว่า จะให้มีหรือไม่มี โดยไม่จำเป็นที่จะต้องรอเงื่อนไขใดๆ ดังนั้น การอ้างว่าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่งได้ข้อยุติจึงไม่ใช่เหตุผลที่อธิบายให้สังคมเข้าใจได้ และทำให้ชวนคิดว่า เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่า นายอภิสิทธิ์จะล้มหวยออนไลน์ไปจริงๆ แต่หลายคนก็อดคิดไม่ได้ว่า นายอภิสิทธิ์จะทำจริงหรือไม่หากพิจารณาพฤติกรรมในอดีต หลายคนก็ยังคงตั้งข้อสงสัยว่า เป็นเพียงแค่ลีลาการสับขาหลอกหรือไม่เท่านั้น เพราะคำพูดของนายอภิสิทธิ์ก็จะเห็นว่า ได้มีการเปิดช่องเกี่ยวกับเรื่องนี้พอสมควร โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ผมไม่ต้องการให้มีหวยออนไลน์ แต่ผมต้องแก้ปัญหาว่า รัฐบาลมีข้อผูกพันตามสัญญาที่จะต้องออกหวยออนไลน์ ก็จะพยายามหาทางออก และในทัศนะผมเห็นว่า หากให้มีหวยออนไลน์ มันมีข้อเสีย หากหลีกเลี่ยงได้ก็อยากจะหลีกเลี่ยง”

คำพูดของนายอภิสิทธิ์สามารถตีความหมายได้ว่า ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จำต้องปล่อยให้เดินหน้าต่อไป

ขณะเดียวกัน ถ้าหากย้อนกลับไปพิจารณาบริบทการตัดสินใจในอดีตของนายอภิสิทธิ์ก็จะเห็นว่า เป็นไปในท่วงทำนองนี้เช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ กรณีการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีของกระทรวงคมนาคม ซึ่งในครั้งแรกนายอภิสิทธิ์ได้ประกาศขวางลำเต็มที่ที่จะไม่ให้มีการเช่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องเออออห่อหมกกับพรรคภูมิใจไทยในที่สุด

ดังนั้น กรณีหวยออนไลน์ก็อาจเป็นไปในทำนองเดียวกันก็เป็นไป เพราะต้องไม่ลืมว่า รัฐบาลกำลังต้องการหาเงิน และหวยออนไลน์ก็คือกรรมวิธีหาเงินที่ง่ายและเร็วที่สุด ซึ่งนั่นก็คงต้องรอบพิสูจน์ว่า จุดจบของเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร

ใครได้ใครเสีย ค่าโง่ล้มหวยหมื่นล้าน

ประเด็นที่จะต้องขบคิดถัดมาก็คือ ถ้าสุดท้ายแล้ว นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจล้มโครงการหวยออนไลน์จริงๆ ด้วยความจริงใจ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการให้แก้ปัญหาด้วยการทำสิ่งผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย และยังเห็นว่าการจำหน่ายหวยออนไลน์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหวยใต้ดินให้ลดลงได้ รัฐบาลจะมีวิธีการบริหารจัดการเพื่อหาเงินจำนวนมากเพื่อมาจ่าย “ค่าโง่” ให้กับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ในฐานะผู้รับสัมปทาน จากไหน

เพราะงานนี้ “นายตรีจักร ตัณฑ์ศุภศิริ” กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ออกมาเล่นบทโหดทันที ด้วยการเปิดแถลงข่าวว่า ผู้ถือหุ้นบริษัท จีเทค ในสหรัฐฯ จะเป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหายกรณีผิดสัญญาไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนด้านระบบคอมพิวเตอร์และระบบบุคลากรไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีสิทธิที่จะเรียกร้องรายได้อันพึงมีในอนาคตอีกต่างหาก โดยในเบื้องต้นมีการประเมินเอาไว้ว่า หากเปิดขายหวยออนไลน์แล้ว บริษัทจะมีรายได้จากการซื้อขายรายการละ 0.75% หรือเท่ากับเฉลี่ยงวดละ 75 ล้านบาท หรือปีละ 1,800 ล้านบาท และหากนับรายได้อันพึงมีในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตใน 8 ปี ก็เท่ากับ 14,400 ล้านบาท

ความจริง ประเด็นนี้ ก็ย้อนวนกลับมาที่ประเด็นเดิมอีก เพราะถ้านายอภิสิทธิ์มีความชัดเจนตั้งแต่แรก รัฐบาลก็ไม่จำเป็นที่จะต้องควักเงินภาษีของประชาชนก้อนโตไปจ่ายค่าโง่ที่เกิดขึ้น แต่ความที่นายอภิสิทธิ์ไม่มีความชัดเจนหรืออาจจำต้องยอมรับตามเงื่อนไขที่ “ผู้จัดการรัฐบาล” ไปเจรจาความเมืองเอาไว้ในการจัดตั้งรัฐบาล ก็เลยทำให้ทุกอย่างเคลื่อนที่ไปตามแรงผลักดันของนายประดิษฐ์ จนมีการลงนามอนุมัติโครงการไปเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา

ดังนั้น เรื่องนี้จะจบลงตรงแค่การยอมจ่ายเงินให้กับล็อกซเล่ย์ จีเทค ไม่ได้ เพราะจะต้องมี “ผู้รับผิดชอบ” ต่อเม็ดเงินภาษีของประชาชนที่จะต้องควักจ่ายออกไปด้วย

ส่วนถามว่า งานนี้ใครเจ็บหนักที่สุดจากการล้มหวยออนไลน์

แน่นอน ย่อมไม่ใช่บรรดาพ่อค้าแม่ขายที่ออกมาโวยวาย หากคือ “นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่เป็นคนผลักดันโครงการนี้มาตั้งแต่ต้น เพราะไม่รู้ว่าจะไปอธิบายให้ล็อกซเล่ย์ จีเทค ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งเครื่องขายหวย 12,000 เครื่องได้อย่างไร

ขณะที่ล็อกซเล่ย์ จีเทค เองก็คงกลืนเลือดยอมรับผลการตัดสินที่จะเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลมีสิทธิเลิกสัญญาได้ รวมทั้งสูญเสียผลประโยชน์จากเม็ดเงินมหาศาลที่จะได้รับจากโครงการนี้ 8 ปีซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 14,400 ล้านบาท ซึ่งถามว่า เป็นความผิดล็อกซเล่ย์ จีเทค ไหม ตอบได้ทันทีเลยว่า ไม่ใช่

นอกจากนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าล็อกซเล่ย์ จีเทค ต้องเสียอะไรไปมากน้อยขนาดไหนกว่าที่จะได้รับคัดเลือกให้เข้ามาดำเนินโครงการนี้

แต่ล็อกซเล่ย์ จีเทค ก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งอันใด เพราะตนเองเป็นคนเลือกที่จะทำโครงการนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีความเสี่ยงเอง

ที่สำคัญคือเผลอๆ ล็อกซเล่ย์ จีเทค จะไม่ได้รับค่าชดเชยมากมายตามคำขู่ เพราะหากพิจารณาจากท่าทีล่าสุดของ “นายเกียรติ สิทธีอมร” ประธานคณะทำงานเพื่อศึกษาแนวทางข้อกฎหมายการทบทวนโครงการหวยออนไลน์ก็แย้มมาให้เห็นแล้วว่า สบช่องทางกฎหมายในการต่อสู้เพื่อที่จะไม่ต้องเสียค่าโง่มหาโหดให้กับล็อกซเล่ย์ จีเทค

ทั้งนี้ นายเกียรติให้ข้อมูลที่ชัดเจนถึงเงื่อนไขการยกเลิกสัญญาในสัญญาว่า สามารถทำได้มี 3 กรณี ได้แก่ 1.เมื่อรัฐบาลมีนโยบาย ที่จะไม่ดำเนินการต่อ แต่ต้องมีการชดเชยโดยมีสูตรการชดเชยในสัญญาที่ระบุไว้ชัดเจน 2.ถ้ามีคำสั่งศาลปกครองในช่วงที่มีการลงนามสัญญา ได้มีการร้องเรียนไปยังศาลปกครองหากมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างไรก็ขอให้เป็นข้อยุติ และ 3.กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาได้

“คงต้องไปดูว่าแต่ละฝ่ายปฏิบัติตามสัญญามากน้อยแค่ไหนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยที่มีวันเวลาตั้งแต่ลงนามสัญญามาจนถึงวันที่ในช่วงระหว่างทาง ซึ่งมีมติครม.ในปี 2549 ออกมาให้หยุดมติครม.ปี2545 และเมื่อหยุดก็มีความพยายามที่จะออกกฎหมายมารองรับเพื่อนำเข้าสภาฯ แต่กฎหมายฉบับนั้นได้มีมติของศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยว่า บอร์ดกองสลากฯปี 2549 ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้กฎหมายฉบับนั้นตกไป เมื่อกฎหมายตกไปก็มีการดำเนินการกันต่ออีก โดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้ให้นโยบายในการดำเนินการต่อ ตรงนี้คณะทำงานต้องไปตรวจสอบทุกขั้นตอนในแต่ละช่วงว่า ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือไม่”

คำพูดของนายเกียรติแสดงให้เห็นว่า งานนี้ไม่มีการยื่นอ้อยเข้าปากช้างอย่างง่ายๆ แน่นอน

นอกจากนี้ นายเกียรติยังพุ่งเป้าไปที่ประเด็นสำคัญด้วยว่า จะเข้าไปตรวจสอบข้อสัญญาเรื่องผู้จำหน่ายเครื่องจำหน่ายหวยออนไลน์อีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นมีข้อสัญญาที่ชัดเจนว่า ถ้าบริษัทจะมีการจ้างช่วงหรือผู้รับเหมาช่วง ต้องได้รับความเห็นชอบจากคู่สัญญาก่อน

“กรณีนี้ จะเข้าไปดูว่าการเปิดให้มีการติดตั้งเครื่องก่อน มาจากประกาศหรือคำสั่งอะไร ของทางกองสลากฯหรือไม่ และการดำเนินการของเขา คืออยู่ดี ๆ ผู้ค้าจะไปดำเนินการเลย โดยที่ยังไม่ได้มีแนวทาง เอกสารหรือประกาศของกองสลากฯอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้ ผมเชื่อว่า แต่ละคนนั้นเขารู้ความเสี่ยง แต่ที่อยู่ดีๆไปลงทุน นั่งรอเลย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันจะต้องมีอะไรบางอย่าง เรื่องนี้กองสลากจะต้องมาชี้แจง”นายเกียรติกล่าว

และประเด็นสุดท้ายที่สังคมจะต้องช่วยกันตกผลึกก็คือ จริงๆ แล้ว จะจัดการกับการพนันที่เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ดในสังคมไทยอย่างไร

แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่าการพนันเป็นสิ่งที่เลวร้ายและนำไปสู่เรื่องที่ไม่ดีไม่งามตามมาอีกมากมาย แต่ถ้ามองในแง่ของความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในสังคม เราก็มิอาจปฏิเสธได้เช่นกันว่า การพนันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน ไม่มีทางที่จะกำจัดให้หมดไปได้ รัฐบาลจะทำอย่างไรกับหวยใต้ดินที่แพร่สะพัดในทุกภาคส่วนของสังคม ไม่นับรวมถึงการพนันอีกสารพัดชนิดที่ผุดขึ้นมาเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง

ดังนั้น ถ้าหากนายอภิสิทธิ์ตั้งใจจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำต่อไปก็คือ เมื่อล้มหวยออนไลน์แล้วรัฐบาลจะจัดการกับหวยใต้ดินและการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาอย่างไร เพราะมิฉะนั้นแล้วจะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า ล้มหวยออนไลน์เพื่ออุ้ม “เจ้ามือหวยใต้ดิน” และปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์จากการขายสลากเกินราคาโดยไม่จัดการอะไร

ความจริงเรื่องนี้จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายจะมีความจริงจังในการทำหน้าที่แค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เชื่อว่ามีข้อมูลเจ้ามือหวยใต้ดินทุกแห่งทุกจังหวัดในประเทศไทย เพียงแต่จะลงมือจัดการหรือไม่เท่านั้น

ถามว่า นายอภิสิทธิ์จะกล้าทำหรือไม่?

------------------------------------------------------------------------------

ต่อพงศ์ เสลานนท์
หวยตู้ไม่แก้ปัญหา แต่สังคมไทยปฏิเสธการพนันไม่ได้


สาเหตุที่เกิดหวยออนไลน์สาเหตุมาจาก การขายสลากเกินราคา แต่การมีหวยออนไลน์ก็ไม่มีหลักประกันว่ามันจะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น ถ้าหากต้องการแก้ปัญหาเรื่องนี้ทางที่ถูกต้องคือการยกเครื่องระบบการจัดสรรโควตาคือ1.ให้ผู้ที่ขายรายย่อยได้รับสลาก และเป็นผู้ถือครองโควตาโดยไม่ต้องผ่านคนกลางที่ถือโควตาเยอะๆ แต่ไม่ได้ขาย 2. ต้องแก้ปัญหาระบบเงินทุนของผู้ค้าสลากรายย่อย คือทุกวันนี้เขาไม่สามารถพึ่งระบบเงินทุนปกติได้ เพราะส่วนมากสลากจะขายให้ต่อเมื่อเอาเงินสดมาวาง ทำให้เข้าระบบเงินทุนปกติไม่ได้ เพราะไม่มั่นใจว่าจะขายหมดไม่หมด ก็ต้องพึ่งระบบยี่ปั๊ว

ทั้งนี้ ถ้าจะช่วยแก้ปัญหาระบบเงินทุน ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอาจจะให้เครดิตกับคนขายรายย่อยที่ไม่มีเงินทุน กันเงินบางส่วนก็ทำให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้เขากู้ยืม ซึ่งมีเงินในระบบของมันอยู่แล้ว และควรกระจายการส่งสลากไปทุกๆ พื้นที่ เพราะทุกวันนี้รับได้ที่เดียวคือสำนักงานสลากฯ คนที่อยู่ต่างจังหวัดก็ต้องมารับสำนักงานฯ ทำให้มีต้นทุนและระยะทาง

จากการศึกษาของนักวิชาการ โควตาที่อยู่ในมือของข้าราชการ กลุ่มการเมืองมีเยอะ นี่คือตัวหลักที่ไม่เป็นคนขายจริงแต่ถือครองอยู่เยอะ จึงทำให้ผลประโยชน์เลยไม่มาถึงคนซื้อจริงๆ ผมเคยเสนอไว้กับทางรัฐบาลว่า จริงปัญหานี้มีทางแก้ได้ มีคนถามว่าถ้าไม่ขายแล้วจะเอาหวยตู้จะเอาไปทำอะไร ผมบอกว่าอันนี้มันคือเครื่องจักร มันอยู่ที่คนว่าจะใช้มันทำอะไร ผมเคยเสนอว่าให้เอาตู้ไปขายตั๋วซะขายอะไรก็ได้ รถไฟ รถทัวร์

แต่เราต้องยอมรับว่า สลากเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ในสังคมไทย แต่ปัญหาคือทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาหวยใต้ดินและการขายหวยเกินราคาได้ ซึ่งเรื่องการขายเกินราคา ผมได้เสนอทางแก้ไปแล้ว ส่วนหวยใต้ดินนั้นเมื่อยกเลิกหวยตู้ไปแล้ว การแก้ปัญหาจะต้องมีขึ้นทะเบียนคนขายใต้ดิน ออกใบอนุญาตขายตั๋วไปเลยสิ ก็ทำได้ จะเอาใบละ 5 หมื่น 5 แสนต่อปี ขายที่ไหนก็ว่าไป ก็ได้เงินเข้ารัฐเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทำหวยตู้ออกมาซึ่งเหมือนกับเอาเครื่องจักรจะมาแย่งอาชีพคนที่ขาดโอกาสทางสังคม ที่สำคัญคือการออกหวยตู้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย

อมรวิชช์ นาครทรรพ
หากปล่อยให้มีหวยออนไลน์ เด็กจะหันไปเล่นเพิ่มมากขึ้น


หากรัฐบาลเปิดให้มีหวยออนไลน์ จะทำเยาวชนที่กลายเป็นนักพนันเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยสถิติที่เคยสำรวจพบว่า ก่อนจะมีหวยบนดินนั้น เด็กมีอัตราการเล่นหวยทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดินเพียง 5% แต่ภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้นโยบายหวยบนดิน ทำให้อัตราการเล่นหวยของเด็กเพิ่มเป็น 4 เท่า คือ 20% ซึ่งภายหลังแม้จะเลิกหวยบนดินแล้ว แต่อัตราการเล่นหวยของเยาวชนกลับไม่ลดลง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเมื่อเด็กติดการพนันแล้วเลิกได้ยาก

การสำรวจล่าสุดปี 2552 พบอัตราการเล่นหวยทั้งสลากกินแบ่งและหวยใต้ดินของเด็กระดับมัธยมปลาย, อาชีวศึกษา-อุดมศึกษา ที่มีประมาณ 4-5 ล้านคน เล่นพนันเฉลี่ย 15-16% หรือ เท่ากับ 7-8 แสนคนที่เล่นหวย มีทั้งแบบที่เล่นประจำและครั้งคราว ซึ่งเมื่อแยกประเภท พบว่าอัตราการเล่นหวยใต้ดินสูงกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเล็กน้อย ทั้งยังพบอัตราการเล่นการพนันของเด็กสอดคล้องกับอัตราการทำร้ายร่างกาย ขู่ กรรโชกทรัพย์ในโรงเรียนอีกด้วย เพราะการสำรวจการเล่นพนันบอล พบว่าตัวเลขการตั้งแก๊งในโรงเรียนเพิ่มขึ้นควบคู่กับการเล่นพนัน ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองปัจจัยมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก

เชื่อได้เลยว่า หากรัฐบาลปล่อยให้เกิดหวยออนไลน์ เด็กจะหันไปเล่นหวยเพิ่มมากขึ้นแน่นอนอาจจะมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับตอนที่เปิดให้มีหวยบนดิน เพราะหวยออนไลน์มีราคาต่ำ จูงใจให้เล่น และยังมีลักษณะการขายที่เหมาะกับวัยรุ่นที่มีความชอบและคุ้นเคยกับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และอาจทำให้เด็กที่ไม่เคยเล่นหวยอยากลองด้วยอีกส่วนหนึ่ง และเมื่อเด็กได้เริ่มเล่นแล้วก็จะเลิกได้ยาก ซึ่งตัวเลขที่เด็กเล่นหวย 1 ใน 5 คน ขณะนี้ก็ถือเป็นเรื่องน่าห่วงมากแล้ว

วัลลภ ตังคานุรักษ์
หวยออนไลน์จะเป็นชนวนก่อปัญหา

ต้องขอบคุณท่านนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ที่ยืนหยัดและแสดงเจตนาที่จะล้มเลิกการจำหน่ายหวยออนไลน์ ซึ่งถือเป็นผู้นำคนแรกของไทยที่ยืนหยัดในเรื่องนี้เพื่อดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการมุ่งเน้น ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และการส่งเสริมให้ชุมชนลด ละ เลิก อบายมุข

ทั้งนี้หากหวยออนไลน์เกิดขึ้นจะมีผลกระทบในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. จะทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีอบายมุขมากเกินไป ตั้งแต่สถานบริการ ผับ เทค ร้านเกม ที่การจัดโซนนิ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รวมถึงปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สื่อลามกอนาจาร และการพนันในรูปแบบต่างๆ และหากหวยออนไลน์เกิดขึ้นก็จะถือเป็นการเพิ่มอบายมุขอีกช่องทางหนึ่ง เป็นเหมือนการซ้ำเติมสงมคมให้ยิ่งตกต่ำลงไปอีก 2.จะทำให้เด็ก เยาวชน หันมาเล่นมากขึ้น เพราะในปัจจุบันมีเด็กซื้อลอตเตอรี่แล้ว 5% เมื่อมีการเปิดขายหวยบนดินทำให้เด็กเล่นเพิ่มขึ้น 15% และคาดการณ์ว่าหากมีหวยออนไลน์เกิดขึ้นจะทำให้เยาวชนเล่นเพิ่มขึ้นถึง 30-40% 3.จะเกิดผลกระทบต่อทัศนคติหลักของสังคมไทย ซึ่งขัดต่อคำสอนทางศาสนาที่ไม่ให้ส่งเสริมเรื่องของอบายมุข และ 4.จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนในครอบครัว

สำหรับข้อเสนอที่อยากฝากถึงรัฐบาลคือ 1.การที่คิดว่ามีหวยออนไลน์จะช่วยให้ลอตเตอรี่มีราคาถูกลงนั้นไม่เป็นความจริง เพราะการที่ลอตเตอรี่ราคาแพงมาจากโครงสร้างการกระจายโควตาจำหน่ายที่ไม่ทั่วถึง มีพ่อค้าคนกลาง กว่าจะถึงผู้ค้ารายย่อยก็ทำให้ราคาสูงขึ้น จึงอยากฝากให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณาการจัดโควตาเพื่อลดพ่อค้าคนกลาง อาจใช้การส่งทางไปรษณีย์เพื่อถึงมือผู้ค้ารายย่อยโดยตรง 2.ต้องใช้หลักกฎหมายในการจัดการกับผู้ค้าหวยใต้ดิน โดยใช้พ.ร.บ.การฟอกเงิน พ.ศ.2552 ที่ระบุความผิดเรื่องการพนัน จะต้องถูกยึดทรัพย์ หากรัฐบาลใช้พ.ร.บ.นี้อย่างจริงจังเจ้ามือหวยก็จะเกิดความกลัว 3. ให้มีการรณรงค์ สร้างค่านิยม ลด ละ เลิก อบายมุขให้เกิดขึ้น และรัฐบาลต้องตั้งคณะรัฐมนตรีด้านสังคมขึ้นเพื่อเข้าไปดูแล กำหนดทิศทางการดำเนินการ
ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์
ตรีจักร ตัณฑ์ศุภศิริ
เครื่องจำหน่ายหวยออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น