บรรดา ส.ส.เพื่อไทยถึงกับเกิดอาการผวาเมื่อเจอใบสั่งให้ขนมวลชนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ต้องควักกระเป๋าตัวเอง เพราะถูกแกนนำอมเงินคนมาม็อบ
วันนี้ (25 ก.พ.) แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ก่อนการนัดหมายชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค.ด้วยระดมมวลชนเสื้อแดง 1 ล้านคนบุกกรุงเทพฯ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยบางส่วน อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย นายไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู รวมทั้งพล.ต.ท.ชัชจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น เข้าร่วมหารือที่ร้านอาหาโฮคิทเช่น ย่านเหม่งจ๋าย ถึงสถานการณ์การเมืองช่วงก่อนและหลังวันที่26ก.พ. รวมทั้งการนัดหมายชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ช่วงหนึ่งการหารือ ส.ส.บางคนแสดงความอึดอัดใจต่อการทำงานร่วมกับคนเสื้อแดงที่ไม่รู้ว่าวันนี้ ส.ส.นำคนเสื้อแดง หรือคนเสื้อแดงนำ ส.ส. และวันนี้แกนนำเสื้อแดงได้ร้องขอให้ ส.ส.นำมวลชนเข้ามา ทำให้เกิดภาระว่าค่าใช้จ่ายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนของ ส.ส. หากเอาคนมา 5 หมื่นคนภายใน 1 ชม.ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ค่าใช้จ่าย ไม่อยากให้เข้าเนื้อเหมือนเมื่อตอน เม.ย.ที่ ส.ส.ได้ร้องขอเงินไปยังแกนนำคนเสื้อแดงบางคนสำหรับค่าใช้จ่ายในการนำมวลชน แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา รวมทั้งในการจัดชุมนุมย่อยตามจังหวัดต่างๆ ส.ส.พรรคถูกแกนนำเสื้อแดงขอร้องให้ช่วยควักกระเป๋าออกเงินทำเวที จัดชุมนุมเป็นจำนวนมาก จนบางรายทะเลาะกับแกนนำเสื้อแดงในจังหวัดเพราะเห็นว่าเงินบางส่วนเข้ากระเป๋าแกนนำไม่ได้นำไปใช้จ่ายจริง ขณะที่บรรดาน้องๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ดูแลพรรค ช่วงหลังก็ไม่ได้ให้เงินสนับสนุนแกนนำเสื้อแดงตามอำเภอใจ ทำให้ สส.ต้องเดือดร้อนเพราะต้องจ่ายสำรองไปก่อน
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงที่จะระดมพลเข้า กทม.วันที่ 14 มี.ค.ว่า ในส่วนของ ส.ส.คงทำได้แค่ให้กำลังใจและติดตามสถานการณ์ ส่วนเรื่องมวลชนเป็นการบริหารจัดการของคนเสื้อแดง โดยที่ ส.ส.ของพรรคไม่ได้เข้ามามีส่วนในการจัดตั้งมวลชนมาชุมนุม การมาชุมนุมใหญ่คงเป็นการแสดงพลังกดดันรัฐบาลมากกว่า คงไม่เกี่ยวกับการชุมนุมกดดันศาลเพราะตัดสินคดีผ่านมานานแล้ว
เมื่อถามว่า ส.ส.ในพรรคอยากเห็นการเคลื่อนไหวในสภาหรือนอกสภาฯ มากกว่า นายไชยากล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าวันนี้พรรคกับคนเสื้อแดงเดินคนละเส้นทาง เราแยกกันทำหน้าที่ เสื้อแดงขับเคลื่อนมวลชนในฐานะองค์กรภาคประชาชน พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เอาตัวไปผูกมัดกับเสื้อแดงมากเกินไป การทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาก็ต้องว่ากันไป หากถึงช่วงเวลาเหมาะสมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ก็ควรยื่นได้เลย ไม่ต้องรอการเคลื่อนไหว
เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงบอกว่าหากยื่นอภิปรายแล้วจะยุบสภาฯ ไม่ได้ และยังขัดกับแนวทางเคลื่อนไหวเพราะเสื้อแดงเรียกร้องให้ยุบสภาฯ นายไชยากล่าวว่า ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ เสื้อแดงก็เป็นแนวร่วมหนึ่งของพรรคเพื่อไทย แต่การทำงานในสภาฯ จะให้มวลชนข้างนอกกำหนดการทำงานในสภาฯไม่ได้ หน้าที่ของเราเมื่อรู้ว่ามีการทุจริต ปล่อยให้บริหารเพียง 1 วันหรือ 1 วินาที บ้านเมืองก็จะเสียหายแล้ว ในฐานะที่เราทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบต้องให้คำตอบกับประชาชน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นคนเสื้อแดงมากำหนดทิศทางพรรค เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะยื่นอภิปรายก็ต้องยื่น ส่วนอภิปรายแล้วจะยุบสภาฯไม่ได้ก็คือยุบไม่ได้ แต่เราก็ใช้กลไกทางการเมืองตามระบอบ ถึงแม้จะยื่นอภิปรายหลังการชุมนุมฯ ก็ไม่มีคำตอบอยู่ดีว่าจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่ รวมทั้ง ส.ส.ก็จะไม่มีคำตอบไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งต่อประชาชน
ถามว่าที่ผ่านมาคนเสื้อแดงได้ร้องขอให้ ส.ส.สนับสนุนด้านมวลชนบ้างหรือไม่ นายไชยากล่าวว่า การทำงานในพื้นที่หนีไม่พ้นอยู่แล้วที่จะต้องยึดโยงซึ่งกันและกัน แต่ ส.ส.ไม่ได้มีส่วนในการไปจัดตั้งมวลชน เราต้องระมัดระวังไม่อยากให้ฝ่ายที่ไม่หวังดีต่อพรรค หาเหตุในการสนับสนุนมวลชนว่าไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจะเป็นเหตุมาอ้างในการยุบพรรคเพื่อไทยอีก
เมื่อถามถึง ส.ส.ส่วนหนึ่งที่ไปหารือกันที่ร้านโอคิตเช่น นายไชยากล่าวว่า ต้องเรียกว่าเป็นการคุยกันของคนถูกคอมากกว่า ได้วิเคราะห์ถึงเรื่องในพรรค สถานการณ์บ้านเมืองก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ.ว่าเราควรจะกำหนดเป้าหมายอย่างไรมากกว่า ซึ่งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงก็เป็นในส่วนของเขา ทิศทางพรรคก็เป็นของพรรค
ถามว่าการหารือที่ร้านโฮคิทเช่น มีกระแสข่าว พล.ต.ท.ชัจจ์ เดินทางไปด้วย นายไชยากล่าวว่าพี่ชัจจ์ไปรับฟังปัญหามากกว่า ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ที่สนิทกับ ร.ต.อ.เฉลิม และยิ่งมีข่าวความขัดแย้งในพรรคตอนนี้ ส.ส.ในพรรคก็ไม่สบายใจ อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ลดเงื่อนไขลงไปบ้าง ถ้าไม่เป็นหลักในการอภิปรายฯ พรรคก็หาคนแทนลำบาก ส.ส.ก็แสดงความอึดอัด เราเลยไม่อยากจะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองฯขึ้นมาเพื่อให้ซ้อนกับชุดของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เลยอยากให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ เป็นกาวใจไปคุยกันให้เรียบร้อยเพื่อที่จะได้เคลื่อนการเมืองต่อไป
ถามว่าบทบาทของ ส.ส.วันนี้ มองคนเสื้อแดงอย่างไร นายไชยากล่าวว่า ก็เป็นแนวร่วมและเป็นกองกำลังให้การสนับสนุนพรรคเท่านั้น คนเสื้อแดงมีหลายส่วน ทั้งกลุ่มคนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ กลุ่มคนรักประชาธิปไตยและกลุ่มคนที่อาจรักหรือไม่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ชอบ 2มาตรฐานมารวมเป็นคนเสื้อแดง
ถามว่าการนำมวลชนมามากๆในวันที่ 12-14 มี.ค.จะมีผลอะไรหรือไม่ นายไชยากล่าวว่า ส่วนหนึ่งมีอิทธิพลต่อเสถียรภาพรัฐบาลไม่เฉพาะมวลชนคนเสื้อแดงเท่านั้นที่จะมา ทราบมาว่าวันนี้ม็อบเกษตรกรชาวนา ที่กำลังเดือดร้อนเรื่องราคาข้าว และม็อบในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบด้านงบประมาณและการทำงาน อาจมาผสมโรงด้วย เพียงแต่รอคนจุดประกายอยู่
“ที่ผ่านมาได้เสนอพรรคไม่ต้องเอาคนเข้ามา แต่จัดในนามพรรคให้ชาวบ้านแสดงออกในแต่ละพื้นที่ อย่างอีสาน 19 จังหวัด เราจัดแสดงพลังไปเลย นำเสนอเรื่องประชาธิปไตย ขบวนการยึดอำนาจและการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจาการบริหารงานรัฐบาลทั้งเรื่องข้าว มัน อ้อย ให้เห็นว่ารัฐบาลบริหารงานล้มเหลว ดีกว่าจะมากดดันกันใน กทม. เอามวลชนมา 1.อันตรายทั้งการบริหารจัดการมวลชนด้านห้องน้ำ อาหารการกิน และถ้าชาวบ้านมาแล้วล้มหายตายจากไปสัก 1 คน ใครรับผิดชอบก็ไม่พ้นเราอีกนั่นแหละ” นายไชยากล่าว
