“โฆษกมาร์ค” แฉแผนเพื่อไทยจับมือเสื้อแดง ป่วนเมืองปลุกผีปฏิวัติทั้งในและนอกสภา หวังสร้างกิจกรรมดูดท่อน้ำเลี้ยงพ่อแม้วไปเรื่อย เหน็บแต่ไม่เนียบถูก รบ.จับไต๋ เลยพาลหาเรื่องทำสภาล่มสองวันติด จี้ฝ่ายค้านรับผิดชอบ
วันนี้ (4 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า กำลังมีการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลทั้งในและนอกสภา โดยเฉพาะการปลุกผีปฏิวัติขึ้นมาเป็นจุดขายในการเคลื่อนไหว โดยใช้มวลชนคนเสื้อแดงดาวกระจายไปยั่วยุหน้าค่ายทหารในหลายพื้นที่ โดยใช้เวลาสั้นๆ เพื่อที่จะเป็นหลักฐานหรือใบเสร็จไปแสดงเบิกค่าใช้จายจากนายใหญ่ว่า ได้มีกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการมืองแล้ว และในขณะเดียวกันได้มี ส.ส.เพื่อไทย รับลูกการเคลื่อนของคนเสื้อแดงโดยการเสนอญัตติปากเปล่าขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างความปั่นป่วนทางการเมืองทั้งในและนอกสภาตามแผนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดไว้
นายเทพไทกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่แผนดังกล่าวถูกฝ่ายรัฐบาลจับได้ไล่ทัน ตั้งแต่การเปิดอภิปรายสนับสนุนญัตติ โดยอาศัยเวลาในสภาอภิปรายหลอกด่ารัฐบาลและกองทัพ เมื่อฝ่ายรัฐบาลเสนอปิดอภิปรายก็ต้องมีการการลงมติ โดยการนับองค์ประชุม แต่ฝ่ายค้านกลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยการแสดงตนในที่ประชุม ทั้งๆ ที่เป็นญัตติของตัวเอง จึงไม่ทราบว่าฝ่ายค้านต้องการเล่นเกม เพื่ออภิปรายโจมตีรัฐบาลหรือต้องการเล่นเกมให้สภาล่ม แต่การที่สภาล่มสองวันติดต่อกัน ก็แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่เป็นของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายเดียว เพราะกฎหมายที่กำลังพิจารณาก็ไม่ได้เป็นกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล เช่น ข้อบังคับจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภา ก็เป็นเรื่องของ ส.ส.ทุกคนและในวันนี้ญัตติการพิจารณาเรื่องการต่อต้านการปฏิวัติ ก็เป็นญัตติของ ส.ส.ฝ่ายค้าน แต่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ จะมาโทษรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้
“ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชน ก็เป็นการประจานการทำงานของ ส.ส.ฝ่ายค้านที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้ๆ ที่ญัตติทั้งสองเป็นเรื่องของสมาชิกสภาทุกคน แต่ถ้าเป็นกฎหมายของรัฐบาล ทำให้สภาล่มก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ การที่ ส.ส.ฝ่ายค้านหยิบยกเรื่องการปฏิวัติขึ้นมาอภิปรายเป็นเรื่องของกระต่ายตื่นตูม ปลุกผีปฏิวัติให้สังคมหวาดกลัว ทั้ง ๆที่ไม่มีมูลความจริง ผบ.เหล่าทัพ ผบ.พลต่างก็เรียงหน้าออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเงื่อนไขในการปฏิวัติ ซึ่งใช้เหตุผลมีสามเรื่องสำคัญเท่านั้นเองคือ 1 การเปลี่ยนแปลงโยกย้ายหรือปลด ผบ.ทบ.2 รัฐบาลุทจริตคอรัปชั่นมีผลประโยชน์ทับซ้อนทุจริตเชิงนโยบายหรือบริหารงานในลักษณะบุฟเฟต์คาบิเนต 3 เกิดความแยกในพรรรคร่วมรัฐบาล เกิดความอ่อนแอ จนไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ในขณะนี้เงื่อนไขทั้งสาม ไม่มีปรากฎให้เห็นแต่อย่างใด”
นายเทพไทกล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีกองทัพใดที่จะใช้กำลังปฏิวัติยึดอำนาจได้ จึงอยากจะถามพรรคเพื่อไทยว่า กองทัพที่จะยึดอำนาจเป็นกองทัพไหนกันแน่หรือเป็นกองทัพประชาชนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งขึ้นแล้วแต่งตั้งให้ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้บัญชาการกองทัพ มี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เป็นเสนาธิการใช่หรือไม่ จึงขอเรียกให้ พล.อ.ชวลิตในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่งในอดีตเป็นผู้บัญชาการทหารบกและรักษาผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นกองทัพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ควรหลวมตัวรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เสียคนตอนแก่ได้ โดยรับอาสาเป็น ผบ.กองทัพใน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นกองทัพเถื่อนและสุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีในข้อหากบฏ เหมือนกับครั้งหนึ่งเคยเสนอแนวความคิดสภาเปรซิเดียม และการจัดตั้งนครรัฐปัตตานีแบ่งแยกดินแดนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้