xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เลิกอุ้มค่าน้ำ แต่ยังตรึงค่าไฟ-รถเมล์-รถไฟอีก 3 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ที่ประชุม ครม.มีมติยกเลิกมาตรการอุ้มค่าน้ำฟรี เพราะประชาชนได้ประโยชน์น้อย ส่วน “รถเมล์-รถไฟ-ค่าไฟ” ตรึงมาตรการชั่วคราวต่อไปอีก 3 เดือน ก่อนพิจารณาใหม่ พร้อมยกเลิกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม

วันนี้ (23 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจที่ทางสภาพัฒน์ฯได้แถลงไปเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมาและรับทราบประเด็นในเชิงนโยยาบคือการที่จะต้องดูแลเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ การแก้ปัญหาอุปสรรค์การลงทุนภาคเอกชน การได้รับการสนับสนุนจากเรื่องนโยบายการเงิน ระมัดระวังเรื่องภัยแล้ง ราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ในภาพรวมถือว่าเป็นการยืนยันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

“ ฉะนั้นวันนี้มีสองเรื่องที่ถือว่า ครม.ได้ยกเลิกมาตรการที่เป็นมาตรการชั่วคราว เรื่องแรกคือมาตรากรน้ำฟรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 6 มาตรการและต่อมาเป็น 5 มาตรการ ขณะนี้คิดว่ามาตรการนี้สมควรจะยกเลิก ทำให้เรื่องค่าน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่มาตรการอื่นๆ ทั้งเรื่องรถเมล์ รถไฟและค่าไฟนั้นยังคงไว้ต่ออีก 3 เดือน จากนั้นจะมีการประเมินกันอีกครั้ง”นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังเห็นด้วยในการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีเรื่องการลดค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโดยปกติจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม ครม.ต้องการให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้ว่ามาตรการที่จะหมดอายุนั้นจะไม่มีการต่อ ฉะนั้นใครที่ประสงค์จะได้ประโยชน์จากมาตรการเหล่านี้ ก็ต้องไปเร่งดำเนินการทำธุรกรรมการโอนก่อนวันที่ 28 มีนาคม

โดยนายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังว่าครม.รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2 ข้อ ดังนี้ 1.รับทราบแนวทางการจัดสรรเงินเพื่อสนับสนุนการดดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค.2553 2.เห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนต่อไป จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.53 ตามหลักการดำเนินการดำเนินมาตรการในข้อ 2 โดยให้รัฐวิสาหกิจรับผิดชอบดำเนินการ ได้แก่ กฟน. กฟภ. ขสมก.และรฟท.กู้เงินชดเชยรายได้จากการดำเนินการตามมาตรการฯ ดังกล่าว และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระเงินต้นดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าใช้จ่ายในการกู้เงินให้กับรัฐวิสาหกิจทั้ ง 4 แห่ง



นายวัชระ กล่าวอีกว่า กรณีค่าใช้จ่ายน้ำประปาของครัวเรือนมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ให้สำหรับผู้ใช้น้ำระหว่าง 0-30 ลูกบาศก์เมตร ต่อเดือนเป็น 0-20 ลูกบาศก์เมตร ต่อเดือนนั้น ปัจจุบันสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในระดับหนึ่ง ประกอบกับมีรายงานยอดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในเดือนมกราคม 2553 ค่าน้ำของประชาชนต่อเดือน 75-258 บาทต่อครัวเรือน เฉลี่ยต่อคน15-52 บาทต่อเดือน ดังนั้นเห็นว่าค่าใช้จ่ายน้ำประปาอยู่ในระดับที่ประชาชนสามารถรับภาระได้ จึงควรยกเลิกมาตรการดังกล่าวนี้ โดยให้สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.นี้ แต่ยังขยายเวลา กฟน.กฟภ.ขสมก.และรฟท.ไปจนถึง 30 มิ.ย.

กำลังโหลดความคิดเห็น