xs
xsm
sm
md
lg

“อภิชาต” สัญญารู้ผลสอบยุบ ปชป.มี.ค.นี้ ลั่นไม่เต้นตามกระแส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิชาต สุขัคคานนท์
ปธ.กกต.ให้คำมั่นคดียุบพรรค ปชป.จะมีความชัดเจนในเดือน มี.ค. และสามารถชี้แจงให้สังคมรับทราบถึงเหตุผล ไม่เต้นตามกระแสการเมือง ย้ำยึดหลักความถูกต้องเมินข้อเรียกร้องจากทุกฝ่าย ชี้หากมีมติยกคำร้องไม่ต้องขอมติ กกต.อีก เฉ่งดีเอสไอสอบเสร็จเป็นปี แต่ไม่ส่งศาล

วันนี้ (22 ก.พ.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสำนวนเงิน 258 ล้านบาท และเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวว่าหาว่า มีการใช้จ่ายเงินผิดวัตถุประสงค์และอาจเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.พรรคการเมืองว่า ขณะนี้คณะทำงานก็ทำหน้าที่กันอย่างหนัก ซึ่งประชุมกันหลายครั้ง ส่วนตนก็ได้อ่านสำนวนทั้ง 7,000 หน้าแล้ว ทั้งนี้ตนตั้งใจจะทำให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้

“การพิจารณาของเราไม่ได้อยู่นิ่ง คณะทำงานก็ประชุมกันอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ผมรู้สึกพอใจการทำงานของคณะทำงานมาก เพราะรู้ว่าเขาทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนการวินิจฉัยของ กกต.ก็ไม่ได้ดูกระแสการเมือง แต่ทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีที่สุด เพราะเรื่องนี้ผมตั้งใจไว้ว่า เมื่อออกมาสู่สายตาประชาชนจะต้องออกมาเหมือนคำพิพากษาของศาล ถูกต้องด้วยเหตุผลและความจริง ให้คนได้เห็นชัดไปเลย” นายอภิชาตกล่าว

นายอภิชาต กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การที่คณะทำงานที่นายทะเบียน จัดตั้งขึ้นเชิญฝ่ายกฎหมาย ของพรรคประชาธิปัตย์มาชี้แจงนั้น ตนเห็นว่าก็เป็นการให้โอกาสเขามาชี้แจงข้อเท็จจริง ยืนยันว่าการพิจารณาไม่ได้ล่าช้า เพราะต้องยอมรับว่าการดำเนินการที่ผ่านมาผิดทางไปหน่อย หากมาที่นายทะเบียนพรรคการเมืองแต่แรกเรื่องก็คงไม่ล่าช้าขนาดนี้ แต่สำนวนที่ฝ่ายสืบสวนได้สอบสวนทำมาก็ถือว่าได้ประโยชน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายทะเบียนยกคำร้อง จะต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุม กกต.อีกหรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่า ถ้านายทะเบียนยกคำร้องก็ถือว่ายุติเรื่อง เพราะก่อนหน้าก็มีเสียงจาก กกต.ท่านอื่นที่ตีความทางกฎหมายต่างกัน แต่ขณะนี้เป็นในทางเดียวกันแล้ว ดังนั้น หากนายทะเบียนมีความเห็นให้ยุบพรรค ก็จะต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม กกต.หากจะยุบพรรค

เมื่อถามว่า ส่วนคณะทำงานจะให้น้ำหนักประเด็นเงิน 258 ล้าน กับเงินกองทุนจำนวน 29 ล้านบาทต่างกันหรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่า ไม่ได้เจาะจงให้น้ำหนักชุดไหน แต่สั่งให้ทำเต็มที่ เพราะเรื่องเงินกองทุนเป็นเรื่องเก่า เกิดก่อนที่พวกตนมารับตำแหน่งเป็น กกต. โดยเรื่องนี้ก็ผ่านกระบวนการตรวจสอบทางบัญชีถูกต้อง พร้อมทั้งมีการใช้เงินอย่างถูกต้องทุกอย่าง ซึ่ง กกต.ชุดนี้ได้รับรองไปแล้ว ทั้งนี้ หากมีการโต้แย้งว่าเงินจำนวนดังกล่าวใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนก็จะให้คณะทำงานตรวจสอบไปให้ลึกกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตรวจสอบเรื่อง เป็นเพราะดีเอสไอต้องการโยนภาระมาให้ กกต. เนื่องจากเป็นประเด็นทางการเมือง จึงไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่า คุณดูแล้วกันว่า เรื่องนี้ทำไมทำเสร็จแล้วเป็นปี แต่เรื่องยังไม่ส่งศาล เพราะฉะนั้นเราต้องค้นหาข้อมูลให้ชัดเจนว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการยักยอกทรัพย์ของบริษัทหรือไม่ ถ้าเป็นการยักยอกทรัพย์ คนที่นำเงินที่ได้รับจากคนที่ยักยอกทรัพย์ ก็ถือว่าเข้าข่ายรับของโจร ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนถึงจะส่งศาลได้เรื่องก็จะจบ ซึ่ง กกต. เป็นส่วนปลายทางแล้ว จริงๆเรื่องต้องยุติก่อนที่จะมาถึงเรา แต่ไปๆมาๆดูเหมือนว่าปลายเหตุจะยุติก่อนต้นเหตุด้วยซ้ำ

“หากให้เราทำก็ต้องให้เวลาเราพอสมควร เพราะที่หน่วยงานอื่นโยนมาให้เราเป็นกองใหญ่แก็ต้องมานั่งหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน ที่ยังมีความขัดกันระหว่างดีเอสไอกับ กกต. เรื่องสำนวนที่แม้ดีเอสไอจะบอกว่า สำนวนสมบูรณ์ครบถ้วน แต่ กกต.เห็นว่ายังไม่เรียบร้อย เมื่อเราดูแล้วยังเห็นว่าตรงไหน ไม่ครบถ้วนก็จะชี้แจงให้สังคมรับทราบ” นายอภิชาตกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกดดันหรือไม่ที่กลุ่มการเมืองออกมากดดันประธาน กกต.ในช่วงนี้ นายอภิชาตกล่าวว่า “นั่นเป็นความต้องการของหลายฝ่าย แต่ตนก็ต้องออกในแบบที่ตนต้องการด้วย คือให้ถูกต้องเป็นธรรมที่สุด เพราะมีส่วนได้เสียกันสองฝ่าย ผมไม่ได้คำนึงถึงความถูกใจของใคร แต่ผมก็ทำหน้าที่เหมือนผู้พิพากษาที่จะต้องชี้ให้ชัดเจนให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนถึงจะชี้ได้ และจะมัวแต่นั่งกลัวทำไม่ถูกใจใครนั้น ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้นผมจะทำให้ดีที่สุด”
กำลังโหลดความคิดเห็น