วงเสวนาวุฒิฯ แฉมหาดไทยเหม็นโฉ่ซื้อขายตำแหน่งกันโจ๋งครึ่ม ระบุเก้าอี้อธิบดีตัวละ 400 ล้าน เคาะกะโหลก “ชวรัตน์” อย่าทำมึน สะกิดเตือน “ศักดิ์สยาม” อย่าเล่นพรรคเล่นพวกโยก ขรก.สนุกมือ จับวางตัวบุคคลก่อนกำหนดกฎเกณฑ์ภายหลัง ยันคาวโลกีย์คลองหลอด บิ๊กเมียเผลอเรียก จนท.สาวเข้าไปกอดปล้ำในห้องทำงาน อัปยศอดสูสิงห์แดง-สิงห์ดำ เจอสิงห์น้ำเงินล้างสมองเกลี้ยง
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการศึกษาระบบการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และตรวจสอบการทุจริตในรัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์ส่งเสริมพัฒนาพลังแผ่นดิน เชิงคุณธรรม จัดเสวนาเรื่อง “ธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย : ศึกษากรณี กระทรวงมหาดไทย”
นายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนมีความเชื่อว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ไม่ค่อยรู้เรื่อง ท่านควรรู้อะไรบ้าง อย่างน้อยตนอยากให้รู้การกระทำของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย ว่าดำเนินการเรื่องอะไรลงไปบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย ตนเห็นว่ามีจริงเพราะมีคนมาบอกแต่ก็ไม่มีหลักฐาน ดังนั้น คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโยกย้าย ต้องมีความกล้า ถ้าไม่พูดคงไม่มีใครช่วยได้ วิธีการปฏิบัติในการโยกย้ายตำแหน่ง เมื่อมีตำแหน่งว่างลงจะมีรายชื่อข้าราชการที่เข้าหลักเกณฑ์ ตามบัญชีของกองการเจ้าหน้าที่ แต่ปรากฎว่ากลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น โผแต่งตั้งโยกย้ายขณะนี้ก็ล่าช้าผิดปกติ เพราะไปถามคนที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย ทั้งที่โดยปกติ 1 ต.ค.ข้าราชการจะต้องไปรอรับตำแหน่งใหม่กันแล้ว แต่ผ่านมา 4 เดือนก็ยังไม่เสร็จ อธิบดีก็ยืนยันว่าเสนอไปตั้งแต่ ส.ค.ปีที่แล้ว
นายจาดุรกล่าวอีกว่า การแต่งตั้งโยกย้ายตอนนี้เอาตัวบุคคลที่จะได้เป็นหลัก แล้วไปออกหลักเกณฑ์กำหนดภายหลัง สำหรับกรณีการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ยอมรับว่าขณะนี้มีหลักฐานเข้ามาเยอะมาก ซึ่งเข้าข่ายมีการซื้อขายจริง และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีรายหนึ่งดูยังไงๆ ก็ไม่น่าจะสอบผ่าน เพราะถูกตั้งกรรมการสอบทางวินัยอยู่ในข้อหากินเงินในบ่อน แต่ก็ไปประกาศล่วงหน้าว่าตนเองจะสอบได้ และก็ได้จริงๆ หลังจากนั้นจึงมีการวิ่งเต้นกันกระจาย ดังนั้นหลักธรรมาภิบาลจึงไม่มีอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องให้กรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.ให้ช่วยทำประโยชน์ให้กับข้าราชการ โดยเฉพาะการออกกฎหมายซึ่งจะเป็นประโยชน์ ไม่ใช่ออกกฎแล้วก็ทิ้งกันไปเลย ภาวะเช่นนี้ข้าราชการต้องการ ก.พ.มาก ขณะเดียวกันข้าราชการก็จะต้องรวมกลุ่มตั้งสหภาพให้ได้
“ผมไม่ได้ตำหนิหรือติเตียนฝ่ายการเมือง แต่เห็นว่าที่บ้านเมืองป่นปี้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะพวกติดทัณฑ์บน พวกโกงเลือกตั้ง และพวกไม่มีสิทธิ์มาปกครองที่กระทรวงมหาดไทย เป็นที่รู้อย่างแพร่หลายว่า กองการเจ้าหน้าที่ และปลัดกระทรวงไม่ได้มีความหมาย เพราะไม่รู้ว่าใครได้รับการแต่งตั้ง ดังนั้น ข้าราชการจะต้องทำกันเอง ต้องรวมตัวกันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 64 ให้ได้ ต้องไม่ให้คนไม่ดีครองอำนาจ ก่อนนี้ผมได้ข่าวว่าตำแหน่งอธิบดีเกี่ยวกับการสร้างทาง มีการจ่ายกันถึง 300-400 ล้านบาท ผมไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้ผมชักจะเชื่อแล้ว และเขาก็ฉลาดไม่ได้จ่ายเอง แต่มีคนจ่ายให้ พวกนี้รู้จักสอยงบประมาณ เพราะชักจากโครงการ 3-4 พันล้าน แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ 300 ล้านแล้ว และข้าราชการก็ได้ด้วย” นายจาดุรกล่าว
ขณะที่ นายไพฑูรย์ บุญวัฒน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรณีการซื้อขายเพื่อเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ตอนแรกสร้างขึ้นมาเพื่อคัดคน สร้างคนเพื่อมีศักดิ์ศรี มาปกครองประชาชน แต่ปัจจุบันกลับมีแต่การใช้เงินซื้อ ศักดิ์ศรีจึงไม่มีเหลือแล้ว สำหรับวงการมหาดไทยขณะนี้นับได้ว่าเป็นวงการที่อัปยศอดสูมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่มีการเรียกไปกอดไล่ปล้ำถึงห้องทำงาน รวมทั้งมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นมากมาย ขณะที่เรื่องการแบ่งสีแบ่งข้าง ตอนแรกมีสิงห์แดง สิงห์ดำ แต่ขณะนี้สีน้ำเงินกลืนไปหมดแล้ว
ด้าน นายภิรมย์ สิมะเสถียร กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม กล่าวว่า การต่างตั้งโยกย้ายความจริง มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว คือใช้ความรู้ความสามารถมาพิจารณา แต่พอเอาเข้าใจ รัฐมนตรี กลับให้ที่ปรึกษา มาชี้ตัวว่าจะเอาใครคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวนี้รัฐมนตรีไม่ต้องเซ็นในการแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว เพราะการส่งที่ปรึกษาฯมาชี้ตัวจะได้ไม่มีหลักฐานสาวไปถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดจากการมีระบบ แต่ไม่ใช้ระบบอย่างถูกต้อง กลับอาศัยช่องทางลัดเพื่อแสวงหาความก้าวหน้า อย่างไรก็ตาม เห็นว่าควรจะมีกรรมการสรรหาที่นำคนภายนอกมาพิจารณาแต่งตั้งเหมือนกับหน่วยงานอื่น ทั้งเพื่อถ่วงดุลกับผู้มีอำนาจ รวมทั้งจะต้องเปิดเผยถึงรายละเอียดของการลงมติการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อความโปร่งใส
