“ปทีป” ยันยังไม่ได้รับการร้องเรียนซื้อขายตำแหน่ง หากใครไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง แนะให้เข้าร้องเรียนตรวจข้อเท็จจริง ระบุ “มาร์ค” ยังไม่เรียกพบ หรือสั่งให้ไปชี้แจงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้าย ขณะที่ สวญ.สภ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมโผโยกย้าย
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งกรณีการแต่งตั้งรอง ผบก.-สว.ที่ผ่านมาว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดร้องเรียนเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง หรือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ซึ่งมีเพียงข่าวเท่านั้น หากมีใครมาร้องเรียนก็จะดำเนินการตรวจสอบดำเนินการให้ความเป็นธรรม แต่ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มี
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาดูแลเรื่องซื้อขายตำแหน่งนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบและยังไม่เห็นหนังสือ ซึ่งแม้ว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เรียกเข้าไปสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้ และไม่ได้สั่งการให้ไปชี้แจงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สมศรี พัฒนาคม สวญ.สภ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็น ต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจนถึงสารวัตรที่ผ่านมา
พ.ต.ท.สมศรี กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง.ผบ.ตร. สำนักงานกำลังกล และนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยตนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบกฏเกณฑ์การแต่งตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบกับเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2552 พล.ต.อ.ปทีป ได้มีหนังสือเวียน เลขที่ 0009.231/00199 ถึง ผู้บัญชาการทั่วประเทศเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยในข้อ 7 ของหนังสือระบุว่า สำหรับข้าราชการตำรวจที่ได้รับรางวัล ชนะเลิศสถานีตำรวจตามโครงการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชนประจำปี 2552 แต่ละกลุ่มตำแหน่งให้หน่วยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ และให้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งทุกราย
“ผมกับ พ.ต.ท.สมเจษฐ์ แม้นบุตร สว.สภ.มะนาวหวาน จ.ลพบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการโรงพักเพื่อประชาชน โดยได้รับในระดับสารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานี พ.ต.ท.สมเจษฐ์ ได้รับในระดับสารวัตรหัวหน้าสถานี โดยสำนักงานจเรตำรวจฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ให้คะแนนตัดสิน และผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับมอบประกาศเกียรติคุณจากท่าน รรท.ผบ.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2552 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ สถานีตำรวจม่วงค่อมยังได้รับรางวัลนะเลิศมวลชนสัมพันธ์ดีเด่นอันดับ 1 ของภาค 1 รางวัลฝึกตำรวจดีเด่นอันดับ 2 อีกด้วย แต่เมื่อมีการพิจารณาแต่งตั้งในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ผ่านมา ผมและ พ.ต.ท.สมเจษฐ์ ไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ที่ได้ทำงานอย่างทุ่มเทจนได้รับรางวัลชนะเลิศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบกับดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่มา 6 ปี เกินเกณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำหนดไว้4 ปี พ.ต.ท.สมเจษฐ์ ดำรงตำแหน่งสารวัตรมา 8 ปี เกินเกณฑ์มา 3 ปี และผมก็ไม่ได้มีการถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยแต่อย่างใดทั้งสิ้น อยากถามว่าภาค 1 เอาหลักเกณฑ์อะไรมาตัดสินที่ไม่พิจารณาแต่งตั้งตนและ พ.ต.ท.สมเจษฐ์ และในคำสั่งนี้ บางโรงพัก เช่น สภ.คลองสิบสอง สภ.พริกไทย หัวหน้าสถานีอยู่ไม่ถึง 1 ปีก็ถูกโยกย้ายออกไปอีสาน ทั้งๆ ที่เค้าได้รางวัลดีเด่นโรงพักเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่สารวัตรที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา ผู้กำกับเสนอย้ายออกนอกหน่วยเพราะมีพฤติกรรมไม่ดีกับได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับ” พ.ต.ท.สมศรี กล่าว
จากการตรวจสอบในกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โรงพักเพื่อประชาชนในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการพิจารณาทุกราย มีเพียงตนและ พ.ต.ท.สมเจษฐ์เท่านั้นที่ไม่ได้รับการพิจารณา แต่เมื่อสอบถามเบื้องต้น ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1อ้างว่าได้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งให้ผู้ชนะเลิศโรงพักเพื่อประชาชนในระดับรองผู้กำกับหัวหน้าสถานีแล้ว คือ สถานีตำรวจภูธรพระขาว ซึ่งเป็นโรงพักที่ตัดสินโดยภาคเอง ไม่มีการมอบรางวัลแต่อย่างใด แต่ในระดับผู้กำกับหัวหน้าสถานีที่ได้เลื่อนเป็นรองผู้บังคับการ กับเอาโรงพักที่ได้สถานีตำรวจเพื่อประชาชนชนะเลิศโดยสำนักงานจเรตำรวจเป็นผู้ตัดสิน เรื่องนี้เป็นการตีความแบบศรีธนนชัย มากกว่า เค้าให้พิจารณาสถานีตำรวจที่ชนะเลิศโดยกรรมการจากส่วนกลาง คือ สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่ภาคตัดสินเอง ตนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ไม่โปร่งใสและเป็นธรรมกับคนทำงาน คนทำบัญชีแต่งตั้งของภาคได้ดี มีการยกเว้นหลักเกณฑ์ เรื่องวิ่งเต้นตนไม่ว่า แต่คนทำงานไม่ได้รับการพิจารณา ใครจะมีกำลังใจทำงานเพื่อประชาชน ขนาดตำรวจกันเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย และเท่าที่ทราบมีความพยายามจะย้ายตนเองจากหัวหน้าสถานีตำรวจม่วงค่อม ไปอยู่ที่ สภ.โคกตูม จ.ลพบุรี แต่ทาง ผู้บังคับการจังหวัดลพบุรีท่านไม่ยอม เพราะมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เรื่องนี้ตนจะติดตามจนถึงที่สุด และอาจมีการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งกรณีการแต่งตั้งรอง ผบก.-สว.ที่ผ่านมาว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดร้องเรียนเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง หรือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ซึ่งมีเพียงข่าวเท่านั้น หากมีใครมาร้องเรียนก็จะดำเนินการตรวจสอบดำเนินการให้ความเป็นธรรม แต่ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มี
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาดูแลเรื่องซื้อขายตำแหน่งนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบและยังไม่เห็นหนังสือ ซึ่งแม้ว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เรียกเข้าไปสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้ และไม่ได้สั่งการให้ไปชี้แจงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สมศรี พัฒนาคม สวญ.สภ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็น ต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจนถึงสารวัตรที่ผ่านมา
พ.ต.ท.สมศรี กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง.ผบ.ตร. สำนักงานกำลังกล และนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยตนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบกฏเกณฑ์การแต่งตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบกับเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2552 พล.ต.อ.ปทีป ได้มีหนังสือเวียน เลขที่ 0009.231/00199 ถึง ผู้บัญชาการทั่วประเทศเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยในข้อ 7 ของหนังสือระบุว่า สำหรับข้าราชการตำรวจที่ได้รับรางวัล ชนะเลิศสถานีตำรวจตามโครงการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชนประจำปี 2552 แต่ละกลุ่มตำแหน่งให้หน่วยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ และให้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งทุกราย
“ผมกับ พ.ต.ท.สมเจษฐ์ แม้นบุตร สว.สภ.มะนาวหวาน จ.ลพบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการโรงพักเพื่อประชาชน โดยได้รับในระดับสารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานี พ.ต.ท.สมเจษฐ์ ได้รับในระดับสารวัตรหัวหน้าสถานี โดยสำนักงานจเรตำรวจฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ให้คะแนนตัดสิน และผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับมอบประกาศเกียรติคุณจากท่าน รรท.ผบ.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2552 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ สถานีตำรวจม่วงค่อมยังได้รับรางวัลนะเลิศมวลชนสัมพันธ์ดีเด่นอันดับ 1 ของภาค 1 รางวัลฝึกตำรวจดีเด่นอันดับ 2 อีกด้วย แต่เมื่อมีการพิจารณาแต่งตั้งในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ผ่านมา ผมและ พ.ต.ท.สมเจษฐ์ ไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ที่ได้ทำงานอย่างทุ่มเทจนได้รับรางวัลชนะเลิศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบกับดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่มา 6 ปี เกินเกณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำหนดไว้4 ปี พ.ต.ท.สมเจษฐ์ ดำรงตำแหน่งสารวัตรมา 8 ปี เกินเกณฑ์มา 3 ปี และผมก็ไม่ได้มีการถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยแต่อย่างใดทั้งสิ้น อยากถามว่าภาค 1 เอาหลักเกณฑ์อะไรมาตัดสินที่ไม่พิจารณาแต่งตั้งตนและ พ.ต.ท.สมเจษฐ์ และในคำสั่งนี้ บางโรงพัก เช่น สภ.คลองสิบสอง สภ.พริกไทย หัวหน้าสถานีอยู่ไม่ถึง 1 ปีก็ถูกโยกย้ายออกไปอีสาน ทั้งๆ ที่เค้าได้รางวัลดีเด่นโรงพักเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่สารวัตรที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา ผู้กำกับเสนอย้ายออกนอกหน่วยเพราะมีพฤติกรรมไม่ดีกับได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับ” พ.ต.ท.สมศรี กล่าว
จากการตรวจสอบในกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โรงพักเพื่อประชาชนในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการพิจารณาทุกราย มีเพียงตนและ พ.ต.ท.สมเจษฐ์เท่านั้นที่ไม่ได้รับการพิจารณา แต่เมื่อสอบถามเบื้องต้น ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1อ้างว่าได้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งให้ผู้ชนะเลิศโรงพักเพื่อประชาชนในระดับรองผู้กำกับหัวหน้าสถานีแล้ว คือ สถานีตำรวจภูธรพระขาว ซึ่งเป็นโรงพักที่ตัดสินโดยภาคเอง ไม่มีการมอบรางวัลแต่อย่างใด แต่ในระดับผู้กำกับหัวหน้าสถานีที่ได้เลื่อนเป็นรองผู้บังคับการ กับเอาโรงพักที่ได้สถานีตำรวจเพื่อประชาชนชนะเลิศโดยสำนักงานจเรตำรวจเป็นผู้ตัดสิน เรื่องนี้เป็นการตีความแบบศรีธนนชัย มากกว่า เค้าให้พิจารณาสถานีตำรวจที่ชนะเลิศโดยกรรมการจากส่วนกลาง คือ สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่ภาคตัดสินเอง ตนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ไม่โปร่งใสและเป็นธรรมกับคนทำงาน คนทำบัญชีแต่งตั้งของภาคได้ดี มีการยกเว้นหลักเกณฑ์ เรื่องวิ่งเต้นตนไม่ว่า แต่คนทำงานไม่ได้รับการพิจารณา ใครจะมีกำลังใจทำงานเพื่อประชาชน ขนาดตำรวจกันเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย และเท่าที่ทราบมีความพยายามจะย้ายตนเองจากหัวหน้าสถานีตำรวจม่วงค่อม ไปอยู่ที่ สภ.โคกตูม จ.ลพบุรี แต่ทาง ผู้บังคับการจังหวัดลพบุรีท่านไม่ยอม เพราะมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เรื่องนี้ตนจะติดตามจนถึงที่สุด และอาจมีการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย