xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯขีดเส้นฟัน"ป๊อด" เพรียวพันธ์ฟ้องตั้งปทีป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯ สั่ง “ก.ตร. – ก.พ. – กฤษฎีกา – สลน.” ดูข้อกฎหมายก่อนฟัน “ ป๊อด – สุชาติ” หลัง ป.ป.ช.ส่งสำนวนรับรองการชี้มูลสลายม็อบพันธมิตรฯ ลั่นต้องให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ โห! “เพรียวพันธ์” ฟ้อง “มาร์ค”ต่อศาลปกครอง อ้างถูกกระทำย่ำยีตั้ง “ปทีป ”รักษาการ ผบ.ตร.ข้ามอาวุโส ไม่มี ผบ.ตร.ตัวจริงทำให้งานตำรวจเสียระบบ


วานนี้ (8 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งรายงานการสรุปผลการชี้มูลความผิดพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.ท. สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 โดยป.ป.ช.ชี้มูลให้ทั้ง 2 คน มีความผิดทางวินัยร้ายแรงตามาตรา 157 ว่า กรรมการป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องมาที่ตนแล้ว แต่กรณีของพล.ต.ท.สุชาติ ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ส่วนกรณีของพล.ต.อ.พัชรวาท เป็นอำนาจของตนคนเดียว ซึ่งตนได้วินิจฉัยแล้วเห็นว่า การวินิจฉัยของทั้ง 2 กรณีควรได้ใช้มาตรฐานเดียวกัน จึงได้ขอให้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักเลขาธิการนายกฯ สำนักงานเลขาธิการกฤษฎีกา และก.ตร. ส่งความเห็นมาให้ตน ว่าการวินิจฉัยให้ไล่ออกหรือปลดออกควรจะยึดถือหลักเกณฑ์อย่างไร โดยต้องวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องมา ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 2 อาทิตย์
“การที่จะบอกว่าให้ไล่ออกหรือปลดออกนั้น ต้องมีเหตุผล จะให้บอกผมคิดตามใจชอบว่าไล่ออกหรือปลดออกคงไม่ได้ เพราะการไล่ออกหรือปลดออกก็มีผลแตกต่างกันกับเจ้าตัว ซึ่งกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก็มีมติครม.ที่เขาขีดกำหนดเกณฑ์เอาไว้บางอย่าง เช่น กรณีการทุจริตต้องไล่ออกอย่างเดียว ผมจึงต้องการให้หน่วยงานต่างๆไปสำรวจให้ครบว่าที่ผ่านมาเขาทำกันอย่างไร เพราะการวินิจฉัยเรื่องนี้มันก็ต้องมีหลักเกณฑ์ ซึ่งต้องเร่งให้เร็วที่สุด” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึง เรื่องอนุกรรมการก.ตร.ที่ตรวจสอบเรื่องการซื้อขายตำแหน่งที่เกิดปัญหาขึ้นในปี 2551 แต่นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ดูแลกำกับสำนักงานตำตรวจแห่งชาติ สั่งยุติเรื่องนี้ไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เดี่ยวตนจะสอบถามเรื่องนี้จากนายสุเทพให้ เท่าที่ตนทราบคือเรื่องเข้าไปสู่การพิจารณาของก.ตร. แต่ก.ตร.ก็เลื่อนมา เมื่อถามว่า หากสั่งยุติในตอนนี้การทำงานของอนุกรรมการก.ตร. เท่ากับสูญเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ บอกกับตนว่าในปี 2552 ยังไม่มีการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจก็เลยไม่มีกรณีนี้ แต่ตนไม่ทราบว่าเรื่องในปี 2551 นายสุเทพวินิจฉัยอย่างไร

***เพรียวพันธ์” ฟ้องมาร์คตั้งปทีป
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นฟ้องกับศาลปกครอง เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของการแต่งตั้ง รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ทั้งที่ เป็นรอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 แต่ไม่ได้รับการพิจารณา
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์อ้างว่า ขณะนี้ยังไม่มี ผบ.ตร.ตัวจริงทั้งที่ขึ้นปีงบประมาณใหม่แล้ว ทำให้ขณะนี้ระบบการทำงานของตำรวจเสียหายหมดแล้ว พิกลพิการไปหมด ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้บังคับการขึ้นไปที่มีการเกษียณอายุราชการ ไม่มีการแต่งตั้ง ทำให้ต้องมีการรักษาราชการแทนตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ม.72 (2) ซึ่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ปทีป ก็ได้ลงนามคำสั่งไป เมื่อเป็นเช่นนี้ตำรวจในระดับปฎิบัติไม่มีขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่ง พล.ต.อ.ปทีปได้กำชับการทำงานของตำรวจไม่ให้เกียร์ว่าง ตนเองในฐานะเป็นผู้มีหน้าที่ ก็ต้องปฎิบัติกันไป และพยายามที่จะกำชับให้ทุกหน่วยทำงาน เพราะผลร้ายจะตกกับประชาชน หากตำรวจไม่ทำงานคดีอาชญากรรมต่างๆ ก็จะพุ่งสูงขึ้น ซึ่งก็ต้องแบ่งแยกกันให้ถูก เรื่องงานก็ต้องว่ากันไป
“ผมยื่นฟ้องศาลปกครองในเรื่องที่ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผมเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดแต่กลับไม่ได้รับการพิจารณา และการไม่ปฎิบัติตามกฎหมายตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณธรรมความถูกต้อง” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวและว่า เรื่องของการเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนต่อไป ตนไม่ขอให้ความเห็น เป็นเรื่องของขั้นตอนต่อไป ยังไม่เกิดขึ้น แต่สาเหตุที่ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมเป็นตำรวจอาชีพ ที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แม้สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจก็ไม่เคยมีอำนาจด้วย ทำเนียบรัฐบาลก็ไม่เคยไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก.ตร.มีมติว่า การแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบ.ตร.ถึง ผบก. จะแต่งตั้งได้ต้องมี ผบ.ตร.เสียก่อน แต่ขณะนี้นายสุเทพ พยายามล็อบบี้ ก.ตร.ให้มีการแต่งตั้งดังกล่าว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการกันอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดำเนินการโดยยึดหลักอาวุโส ความถูกต้อง และคุณธรรม ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการตำรวจทุกนาย
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าได้ทำตามกฎหมาย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การทำตามกฎหมายนั้นก็ต้องนึกถึงคุณธรรมและกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจ

**ก.ตร.นอกรอบตั้งรอง ผบ.ตร.โดยเร็ว**
วันเดียวกันเวลา 11.30 น.ที่โรงแรมสยามซิตี้ ถนนศรีอยุธยา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)นัดรับประทานอาหารกลางวันและหารือนอกรอบกับ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้ง 10 ท่าน ที่ห้องอาหารจีนลินฟา โดยมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมโต๊ะเกือบครบ ขาดเพียง ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ คนเดียวเท่านั้นเนื่องจากติดบรรยายพิเศษ ซึ่ง ก.ตร.นอกรอบครั้งนี้ใช้เวลาร่วม 1ชั่วโมง 30 นาที โดยนายสุเทพ มีสีหน้าสดชื่น ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยแจ้งว่าจะต้องรีบไปตอบกระทู้ในสภาฯ
พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวภายหลังร่วมหารือว่า เป็นการหารือนอกรอบ ซึ่งนายสุเทพ ไม่ต้องการให้ตำแหน่งว่าง โดยสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม ก.ตร.เพื่อหารือกันอย่างเป็นทางการว่าจะดำเนินการแต่งตั้งโดยเร็วหรือไม่ หรือควรหยุดไว้ ซึ่งผลการหารือส่วนใหญ่เห็นว่าควรแต่งตั้งเพราะว่าช้าไปจะลำบาก เรื่องตำแหน่งผบ.ตร.ตัวจริง ไม่ใช่เงื่อนไขแล้ว วงหารือเห็นว่าแต่งตั้งได้โดยไม่ต้องรอให้ได้ ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งจะให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ดำเนินการแต่งตั้งไป ทั้งนี้รรท.ผบ.ตร.มีหน้าที่อยู่แล้ว สุดแต่ประธาน ก.ตร.จะสั่ง

**รื้อโผหรือไม่ขึ้นกับมติ ก.ตร.**
เมื่อถามถึงโผแต่งตั้งโยกย้ายรองผบ.ตร.ลงมาที่ผ่านคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติ หรือบอร์ดกลั่นกรองไปแล้ว พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบ มันต้องเสนอเข้าคณะกรรมการคัดเลือก ซึ่งในชั้นต้นในการประชุม ก.ตร.ครั้งหน้า ท่านประธานจะนำเสนอความคิดว่าควรดำเนินการแต่งตั้งโดยเร่งด่วนหรือไม่ หากที่ประชุมเห็นด้วยว่าควรดำเนินการก็จะเริ่มกระบวนการและนัดประชุม ก.ตร.อีกครั้งเพื่อพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้าย
“วันนี้ไม่มีการถกประเด็นปัญหาจาก ก.ตร.ครั้งก่อน ไม่มีการยกประเด็นเรื่องรอ ผบ.ตร.คนใหม่มาทำการแต่งตั้ง คงบอกไม่ได้ว่าเรื่อง ผบ.ตร.คนใหม่เคลียร์หรือไม่ แต่ไม่ได้พูดกันในวงนี้ ไม่มีการถกเรื่องข้อกฎหมายใดๆ เราพูดกันแต่ว่า ก.ตร. ควรจะแต่งตั้งโดยเร็วหรือไม่ แต่วันนี้ที่หารือกันก็ไม่เป็นเอกฉันท์ แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็มีเสียงส่วนน้อยที่ค้านมาว่ายังไม่ควรแต่งตั้ง ส่วนใหญ่เห็นว่าจำเป็นต้องทำ ส่วนจะต้องเริ่มกลั่นกรองกันใหม่หรือไม่ขึ้นอยู่กับมติ ก.ตร.ครั้งหน้า ซึ่งอาจมีการสั่งการให้ดำเนินการตามกระบวนการการแต่งตั้ง”ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าว
พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า การแต่งตั้งรอไม่ได้เพราะเหตุผลหลายอย่าง อย่างแรกหัวไม่มี ตอนนี้ว่างอยู่ไปจนถึงระดับโรงพัก ประการที่ 2 การปล่อยให้ว่างมันลำบาก ระบบการทำงานเสีย คนไปทำงานแทนจะไปทำอะไรจริงจังเพราะทำไป 2-3 เดือน ก็ไม่ได้เป็นตัวจริง งานมันจึงไม่ต่อเนื่อง แต่ตำรวจไม่ได้เกียร์ว่างหรอก เพราะงานป้องกันปราบปรามตำรวจทำอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือกองทัพไม่มีแม่ทัพ ขวัญกำลังใจของทหารก็ไม่ดี ซึ่งการประชุม ก.ตร.ครั้งหน้าจะลงมติกันว่าจะแต่งตั้งหรือไม่
เมื่อถามว่าควรเปลี่ยนโผแต่งตั้งโยกย้ายที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรรท.ผบ.ตร.ทำไว้หรือไม่ พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น เรื่องนี้ต้องเข้ากระบวนการแต่ก็น่าจะเริ่มกระบวนใหม่ ปัญหาคือว่ารอง ผบ.ตร. ที่ร่วมพิจารณาในบัญชีเก่าก็ยังอยู่ครบ ขาดเพียง พล.ต.อ.ธานี ซึ่ง พล.ต.อ.ธานีและคณะก็ทำไว้ค่อนข้างดี ก็น่ายึดถือได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่ได้รับเสนอชื่อแต่งตั้งในโผคราวก่อนแต่ต้องหลุดไปในโผ ครั้งนี้สามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ พล.ต.ท.เหมราช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเหตุผลว่าตกไปเพราะอะไร แต่ทั้งนี้สามารถขอความเป็นธรรมเรียกร้องสิทธิ์ได้ ซึ่งหากมีการรื้อหรือเปลี่ยนแปลงโผก็ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ เพราะการแต่งตั้งคราวที่แล้วยังไม่เด็ดขาด เหมือนเดินมาครึ่งทางแล้วหยุด จะเดินต่อไปหรือถอยหลังก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามบอร์ดกลั่นกรองอาจมีการเปลี่ยนแปลง มีแนวโน้มจะให้ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมด้วย ซึ่งกลับเป็นเหมือนอดีตที่ให้ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกลั่นกรองด้วยก่อนนำเข้า ก.ตร.

**สอบซื้อตำรวจรอหารือ ก.ตร.**
ด้าน พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะคณะอนุก.ตร.ตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้ง วาระประจำปี 2552 กล่าวว่า วันนี้ไม่มีการพูดเรื่องยุติการซื้อขายตำแหน่ง หรือประเด็นการตรวจสอบเรื่องนี้ ในวงหารือเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรแต่งตั้งระดับรองผบ.ตร.-สว.ใหญ่โดยเร็ว เพราะประชาชนและประเทศชาติจะได้รับผลประโยชน์ ส่วน ผบ.ตร.ยังไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะคนที่จะเป็น ผบ.ตร.คนต่อไปก็นั่งอยู่ในก.ตร.นี่แหละ วันนี้ไม่มีการพูดถึงตัวคนแต่อย่างใด ซึ่ง ก.ตร.ในสัปดาห์หน้าจะได้หารือกันถึงข้อดีข้อเสียในการดำเนินการแต่งตั้ง แล้วมาชั่งน้ำหนักกัน ก.ตร.คงเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เพราะไม่ควรจะรอ
“อาจเปลี่ยนหัวโต๊ะในบอร์ดกลั่นกรอง จะเป็นใครต้องรอดูมติ ก.ตร.ครั้งหน้า ซึ่งจะตั้งบอร์ดกลั่นกรองใหม่ เอาบอร์ดเก่าบอร์ดใหม่มารวมกัน ทั้งนี้แม้มี ก.ตร.บางท่านยังไม่เห็นด้วยว่าควรแต่งตั้งก็ไม่มีปัญหาเรื่องเอกภาพ เพราะไม่จำเป็น หากเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยแล้วมันเกิดประโยชน์กับบ้านเมืองก็ควรทำ”พล.ต.อ.นพดล กล่าว
เมื่อถามถึงการซื้อขายตำแหน่งที่คณะอนุฯประกาศว่าเรื่องนี้จะไม่มีมวยล้มต้มคนดูแต่กลับยุติ พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า วันนี้ไม่คุยกันเรื่องนี้ ซึ่งตนยังไม่เห็นว่ายุติอย่างไร อย่างไรก็ตามวาระปี 2552 ยังไม่แต่งตั้ง จึงไม่มีการทำผิด แต่ผลที่เราพบความผิดปกติในการแต่งตั้งปี 2551จะเอามาหาแนวทางแก้ไขการแต่งตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะนำเข้า ก.ตร.พิจารณา.
กำลังโหลดความคิดเห็น