xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ยันไร้ตอคดียิง “สนธิ” - ดันตั้งรอง ผบ.ตร.- ผบก.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)
“สุเทพ” ยัน คดียิง นายสนธิ ผลสอบชุด นายปรีชา เลขาฯ ก.พ.สรุปชัดไม่มีตอ พร้อมสั่งให้ยุติเรื่องแล้ว พร้อมเรียกประชุม ก.ตร.จัดการโยกย้ายตำแหน่งรอง ผบ.ตร.- ผบก.ให้เรียบร้อย

วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ร่วมแถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ซึ่งเป็นผู้มีชื่อชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.ตัวจริง โดยมีการหารือพิเศษนอกรอบประมาณ 20 นาที ก่อน นายสุเทพ ตอบคำถามถึงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีการกล่าวหาว่า มี “ตอ” ในคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุดที่ นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เป็นประธาน ว่า เรื่องนี้จบไปแล้ว มีการสรุปผลออกมาแล้ว ไม่มีตอแต่อย่างใด ตนจึงสั่งให้ยุติเรื่องแล้ว

เมื่อถามว่า มีการหารือกับ รรท.ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.เพื่อนัดประชุม ก.ตร.วาระแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวงนี้ ว่า หารือแล้ว ตนจะทำอย่างนี้ เนื่องจากในที่ประชุม ก.ตร.คราวที่แล้ว ยังมีความเห็นที่หลากหลาย ตนในฐานะประธาน ก.ตร.เห็นว่า บรรยากาศขณะนั้นหากประชุมต่อไปคงไม่ราบรื่น ตอนนี้เวลาเปลี่ยนแปลงไป สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

“ผมได้นัดหมาย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ รับประทานอาหารด้วยกัน ปรึกษาหารือกันนอกรอบ เพื่อที่จะขอให้ท่าน ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เหล่านั้น ได้ให้คำแนะนำกับผม ในการทำงานต่อ เพราะว่าท่านเหล่านั้นเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นกรรมการ ก.ตร.กันมานาน รู้และเข้าใจงานของตำรวจดี เข้าใจปัญหาใน ตร.ดี ซึ่งผมอยากให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นให้ความร่วมมือกับผมในการแก้ไขปัญหา ถ้าเมื่อไหร่ผมเห็นว่าผมสามารถทำให้ ก.ตร.ทั้งหลายมีความคิดความเห็นไปในทางเดียวกันได้การประชุมมีโอกาสที่จะรายรื่นได้ ตนก็จะนัดประชุม ก.ตร.ทันที ระหว่างนี้ผมจะให้ รรท.ผบ.ตร.เตรียมการในส่วนที่เป็นอำนาจหน้าที่ของท่านเอาไว้ พลางๆ จะนัดเมื่อไหร่คงไม่บอกสื่อ เดี๋ยวจะตามไปเพราะจะทำให้กินข้าวไม่อิ่ม” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ถามว่า เป็นการล็อบบี้หรือไม่ เนื่องจาก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ คือ กลุ่มที่เห็นค้านใน ก.ตร.คราวก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ผมไม่ใช้วิธีการล็อบบี้

ถามว่า เป็นการคุยกันเพื่อให้เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ เปลี่ยนความเห็น นายสุเทพ กล่าว่า ตนทราบว่า ท่านเหล่านั้นล้วนมีประสบการณ์ อยู่กับ ตร.มานาน และเป็น ก.ตร.มานาน เข้าใจงานตำรวจได้ดี ตนจึงไปขอวิชา ขอความรู้ คำแนะนำจากท่านเหล่านั้น เพื่อช่วยตนทำงาน ไม่เรียกล๊อบบี้ มีแต่ท่านล๊อบบี้ตน ไม่ใช่ตนล็อบบี้ท่าน

เมื่อถามว่า ตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ เป็นเงื่อนไขหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนรับหน้าที่ดูแล ตร.ตั้งแต่ระดับ ก.ตร.ลงไป ซึ่งตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้นอยู่เหนือระดับของตน

ถามว่า ถ้า ก.ตร.อ้างว่า แต่งตั้งไม่ได้เพราะ ผบ.ตร.ยังไม่มี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนมองโลกในแง่ดี ไม่คาดการณ์อะไรทางลบ มองทางบวกตลอดเวลา วันนี้เรื่องหนึ่ง พรุ่งนี้กลายเป็นอีกเรื่องแล้ว สถานการณ์ต้องดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า ก.ตร.จะร่วมใจกันแก้ปัญหาให้กับ ตร.ได้

ถามว่า เป้าหมายของการนัดกินข้าวกับ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้การแต่งตั้งเกิดขึ้นก่อนโดยไม่ต้องรอให้มี ผบ.ตร.ตัวจริง ใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่พูดอะไรล่วงหน้า แต่นัดกันเพื่อปรึกษา หาทางแก้ปัญหาในสถานการณ์อย่างนี้ ประชุมเพื่อระดมสมอง หากตั้งเป้าไว้คงไม่ต้องไปเชิญมาประชุมหารือกัน

เมื่อถามว่า ระหว่างนี้การให้ รรท.ผบ.ตร.ดำเนินการไปพลางๆ จะขัดแย้งความเห็น ก.ตร.ก่อนหน้านี้ ที่เห็นควรรอ ผบ.ตร.ตัวจริง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่เป็นความขัดแย้ง เมื่อ รรท.ผบ.ตร.มารับหน้าที่ท่านก็เข้าใจขอบเขตอำนาจของตัวเองว่าต้องทำอะไร เตรียมการอะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมา รรท.ผบ.ตร.ได้ประชุมรอง ผบ.ตร.และแจ้งไปยังกองบัญชาการทั้งหลายแล้ว เรื่องนี้ตำรวจเข้าใจอยู่แล้วว่าต้องทำงานอย่างไร มีแต่เราซึ่งเป็นคนนอก ที่ไม่ค่อยเข้าใจ ส่วนการจะให้ พล.ต.อ.ปทีป ทำหน้าที่ รรท.ผบ.ตร.ไปจนถึงเกษียณหรือไม่ นั้นคำถามที่เกินอำนาจของตน ตนตอบไปก็โตกว่าเสื้อที่ใส่ ตนตอบไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์ข้างหน้า

“โดยส่วนตัวผม ขณะนี้ผมต้องการให้การโยกย้ายแต่งตั้งเข้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่รอง ผบ.ตร.ลงไปเสร็จ เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เพราะมันมีผลกระทบหลายเรื่อง อย่างเช่น เมื่อเช้าผมประชุมคณะกรรมการการพิจารณาขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ข้าราชการ ผมต้องนำเรื่องของ ตร.เสนอเข้าที่ประชุมเพื่อขอความเห็นชอบขอขยายเวลาบัญชีผู้ที่สมควรได้รับพระราชทานเครื่องราชฯในส่วนตร.ซึ่งตามปกติต้องยื่นบัญชีในวันที่ 6 ตุลาคม เที่ยวนี้ผมของขยายไปถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน เพื่อไม่ให้ ตร.ที่อยู่ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายต้องเสียโอกาส เพราะฉะนั้นถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ ผมจึงอยากให้การแต่งตั้งโยกย้ายเสร็จสิ้นในช่วงเวลาที่วางไว้” นายสุเทพ กล่าว

ถามว่า ทั้งที่รอง ผบ.ตร.ทุกคนมีคุณสมบัติ มีปัญหาอะไรจึงตั้ง ผบ.ตร.ไม่ได้ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ตอบ ตนตอบไม่ได้ การที่ตนมาดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้หนักใจอะไรเลย การยังไม่มี ผบ.ตร.ก็ไม่เป็นไรเลย

“ผมยืนยันไม่มีอะไรหนักใจ ตร.ก็ยังทำงานกันได้ การจับยาเสพติดวันนี้ก็เป็นประจักษ์พยานว่ายังไม่มี ผบ.ตร.ก็จับผู้ร้ายจับคนค้ายาเสพติดได้ ดูแลพี่น้องประชาชนได้ เพราะตำรวจมีอุดมการณ์ เข้าใจภาระหน้าที่ของตัวเอง” ประธาน ก.ตร.กล่าว

สำหรับเรื่องผลสอบการซื้อขายตำแหน่งชุดที่ นายสมศักดิ์ บุญทอง อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นประธานนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า สรุปแล้ว ไม่ต้องนำเข้า ก.ตร.แล้ว ก่อนหน้านี้ ตนเข้าใจผิด คิดว่าต้องนำเข้า ก.ตร.แต่ที่จริงเป็นอำนาจขอตน ซึ่งดูแล้ว สรุปแล้ว เรียบร้อยแล้ว เขาตั้งกรรมการให้ไปสอบว่ามีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งปี 2552 หรือไม่ กรรมการสอบแล้วว่าไม่มี ยุติเรื่องได้ ตนจึงสั้งยุติเรื่องไปแล้ว

ถามว่า ผลออกมาว่า การแต่งตั้งในปี 2551 มีสิ่งไม่ชอบมาพากล ต้องพิจารณาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ร้องสอบ พล.ต.อ.พัชรวาท เรื่องการแต่งตั้งปี 2552 หากเป็นอย่างนั้นต้องสอบตั้งแต่ตั้ง ตร.มา ก็ยุ่งกันหมด คำสั่งระบุแล้วว่าต้องสอบอะไรเมื่อไหร่ อย่างไร จบตรงไหน

เมื่อถามว่า จะถูกมองว่า ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาเพื่อดิสเครดิต พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร เช่นเดียวกับกรณีกล่าวหาเป็น “ตอ” นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นคนไม่ใช่จินตนาการในการทำงานมากมายนัก ตนใช้ข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงออกมาอย่างนี้สังคมอาจมองอย่างนั้นได้ นายสุเทพ กล่าวว่า สังคมต้องชั่งใจ ต้องไม่พิจารณาตามข่าวลือ ตามคนที่จินตนาการ ให้ว่ากันตามข้อเท็จจริง หากว่าตามข่าวลือ ฟังจากคนที่มีจินตนาการ จึงทำบ้านเมืองยุ่งยากวุ่นวาย ให้ช่วยกันแก้ปัญหา เราอย่าสร้างปัญหา

ต้องทำความเข้าใจกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรับมนตรี เรื่องการบริหาร ตร.เพราะที่ผ่านมาทั้งการให้ข่าวและการดำเนินการขัดแย้งกัน รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกรัฐมนตรี

“ตำแหน่งของผมคือรองนายกรัฐมนตรี (เน้นเสียง) เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรต้องไปทำความเข้าใจกับท่าน ผมรับคำสั่งทำอะไรสำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างไรก็ต้องรายงานท่าน ทุกวันนี้รายงานท่านทุกเรื่อง ในส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของผมตอนนี้ถือว่าพอใช้ได้ ขอบคุณนะที่ผมพูดเลยมาเยอะ มาแถลงเรื่องงานยาเสพติด แต่ดูเหมือนคุณ (สื่อ) ไม่สนใจงานในหน้าที่เลย” นายสุเทพ กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่สนับสนุนให้เป็น ผบ.ตร.ตัวจริง ว่า ตนคงตอบไม่ได้ ในเคสนั้น เพราะว่าตนไม่ใช่คนที่ต้องตอบ

ขณะที่ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อนัดหมายรับประทานอาหารกับนายสุเทพ แต่อย่างใด แต่คนเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่มีการนัดหารือกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น