00 ยอมรับว่าน่าเป็นห่วงจริงๆสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้ไป กลายเป็นว่าแต่ละฝ่ายกำลังจ้องที่จะจัดการอีกฝ่าย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถ “ช่วงชิง” ได้ก่อนกัน เพราะมีทั้งการสร้างสถานการณ์ การลงมือจริงมีทั้งสร้างข่าวหลอกเพื่อให้เกิดเรื่องบางอย่าง หลายอย่างกำลังประดังเข้ามาและส่อเค้าจะเริ่มหนักมือขึ้นเรื่อยๆ ทั้งก่อนและหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ ล้วนอันตรายพอๆกัน
00 การปาอึเข้าใส่บ้านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น แม้หลังเกิดเหตุสังคมจะจ้องมองไปที่ฝ่ายทักษิณทันที ไม่ว่าจะเป็น เสื้อแดง รวมไปถึง เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เพราะสถานการณ์พาไปให้คนเชื่อแบบนั้น แม้ว่าอาจมีฝ่ายที่ซ่อนอยู่ในเงามืดคอยลงมือ “เสี้ยม” ให้ป่วนเข้าไว้
00แต่ที่น่าสนใจก็คือในช่วงกำลังจะถึงวันสุกดิบก่อนวันพิพากษาปรากฎว่า บรรดาทหารขาประจำดังกล่าวพร้อมแกนนำที่เคยก่อเหตุในช่วงวัน “จลาจลเลือด” เมื่อเดือนเมษายนต่างก็เหินฟ้าไปพบ “ทั่นผู้นำ” พลัดถิ่นกันถึงดูไบ ส่วนเบื้องลึกจะคุยกันเรื่องอะไรเราไม่รู้ แต่ช่วยไม่ได้ที่สังคมจะมองว่าเป็นการสุมหัวเพื่อจะ “ก่อการ” อะไรบางอย่างหรือไม่ เพราะเห็นหน้าแต่ละคนแล้วก็มองย้อนเห็นอดีตตามหลอกหลอนทุกครั้ง
00 ความเคลื่อนไหวของ “ป.ป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในช่วงเวลาแบบนี้ถือว่าน่าจับตาไม่น้อยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะมีกำหนดการทัวร์ต่างประเทศในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มทุกที ล่าสุดก็เข้าอีหรอบเดิมอีกแล้ว หลังจากมีกำหนดการเดินทางไปสหรัฐตั้งแต่วันที่ 4-14 ก.พ.ว่ากันว่าไปกันยาว พร้อมกับมอบหมายภารกิจให้กับ “ป.ประยุทธ จันทร์โอชา” ในช่วงเวลาสำคัญเสียด้วย พอสถานการณ์ทำท่ายุ่งๆพี่ก็มีอันจำเป็นต้องเผ่น เอ้ย ไปนอกทุกที พับผ่า !!
00 เห็นกันชัดๆก็คือ กลุ่มเสื้อแดงที่เริ่มเป่านกหวีดดาวกระจายไปยืนหลอกด่าทหารฟรีๆอยู่หน้าค่าย ในเรื่องการปฏิวัติ ซึ่งเริ่มโหมโรงกันไปแล้วที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก และวานนี้(2 ก.พ.) ก็ไปที่หน้ากระทรวงกลาโหม หลังจากนั้นก็จะกระจายกันไปทั่วประเทศ เป้าหมายก็ไม่มีมากไปกว่าเป็นการทำลายกองทัพ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทำลายสถาบันองคมนตรี และสถาบันศาลมาแล้ว
00 สมควรอย่างยิ่งสำหรับไฟเขียวให้ตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่หน่วยงานความมั่นคงนำไปใช้ทั้งในพื้นที่ชายแดนใต้ รวมไปถึงการตรวจหายาเสพติดว่ามันมีประสิทธิภาพจริงหรือว่า “แหกตา” กันหรือไม่ เพราะมันเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนจำนวนมาก และที่สำคัญแต่ละเครื่องที่สั่งซื้อเข้ามาใช้ก็แพงระยับ ถ้าแพงแล้วห่วยก็ถือว่าแย่แล้ว นี่ถ้าเป็นประเภทแพงแล้วแหกตาเสียอีกก็ยิ่งไปกันใหญ่ ขณะเดียวกันก็ย่อมหมายความว่ามีรายการทุจริตกันมโหฬารซื้อกันมาแต่ละเครื่องนับล้านหรือเฉียดล้าน ก็ถูกต้องแล้วที่นายกฯอภิสิทธิ์มีท่าทีให้มีการตรวจสอบ เพราะเรื่องแบบนี้พิสูจน์กันไม่ยาก ถ้าทุกฝ่ายมีเจตนาเพื่อทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติปลอดภัยและได้ผลในการปฏิบัติงาน !!